แค่เริ่มต้นในการเจรจา ก็ผิดแล้วครับ เริ่มต้นด้วยการอ้อนวอนขอร้องให้ช่วยหลานหน่อย หลานถูกโจมตีในประเทศจะแย่อยู่แล้ว ซึ่งมันเห็นเจตนาชัดเจนว่าไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศ ถ้านายกคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศจริง จะต้องไม่เจรจาอย่างนี้ ถึงแม้จะเป็นการเจรจาส่วนตัวก็ตาม
เรื่องนี้มันสะท้อนถึงประสบการณ์ของนายกรัฐมนตรีที่ไม่มีกึ๋น ไม่มีวาทะศิลป์ ไม่มีจิตวิทยา
ซึ่งจริงๆแล้วการเป็นผู้นำประเทศจะต้องยืนอยู่เหนือผลประโยชน์ส่วนตัวและคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นสำคัญที่สุด
ผมเชื่อว่าถ้าให้คนอื่นมาเป็นนายก การเจรจาจะไม่ออกมาเป็นแบบนี้แน่นอน เพราะสิ่งที่ควรจะเป็นมันจะต้องเจรจาในสถานการณ์แบบนี้ว่า..
ในฐานะที่ท่านเป็นผู้นำของประเทศกัมพูชา ผมก็เป็นผู้นำของประเทศไทย ปัญหาข้อพิพาทที่เกิดขึ้น ทำให้เราต้องมาพบเจอกัน เพื่อที่จะหาทางออกจากปัญหานี้ ให้วินๆทั้งสองประเทศ เพราะอย่างไรเสียพรมแดนเราก็จะติดกันอยู่อย่างนี้ไปอีกชั่วกับชั่วกัลป์ พี่น้องสองฝั่งชายแดนก็เป็นพี่น้องกัน ประชาชนทั้งสองฝั่งบางคนก็เป็นสามีภรรยากัน ต้องไปมาหาสู่ข้ามพรมแดนระหว่างกัน ผมจึงอยากจะขอเจรจาหาทางออกอย่างสันติ
เพราะฉะนั้นผมเห็นว่าเราควรจะแก้ไขปัญหาร่วมกัน และอยากจะขอนัดเจรจาอย่างเปิดเผย
หรือถ้าสนิทจนถึงขั้นเรียกลุงเรียกหลาน ก็โปรดใช้ความสัมพันธ์ส่วนตัวนี่แหละ เอามาใช้ให้เป็นประโยชน์ของส่วนรวม โดยนายกจะต้องคำนึงว่ากำลังแบกประเทศไทยไว้บนคอ การเจรจาหรือพูดอะไรต้องคำนึงถึงศักดิ์ศรีเกียรติภูมิของคนไทยด้วย
ไม่ใช่เอาความสัมพันธ์ส่วนตัวมาเว้าวอนขอร้องให้ช่วยหลานหน่อย เพราะหลานถูกโจมตีอย่างหนักในประเทศไทย ขอให้ลุงช่วยหน่อย เร็วๆหลานโดนแล้ว
ถ้าเริ่มต้นเจรจาแบบนี้
มันก็เสียศักดิ์ศรีของการเป็นผู้นำไทยหมด เหมือนกับว่านายกไม่ได้แคร์ประเทศไทย แต่แคร์แค่ตัวเอง กลัวว่าตัวเองจะโดนประชาชนโจมตี ซึ่งมันไม่ใช่ประเด็นสำคัญเลย
มันต้องเริ่มต้นว่า ในฐานะฉันเป็นผู้นำของประเทศไทย ต้องการที่จะหาข้อยุติอย่างสงบและเชื่อว่าการเจรจาทวิภาคีระหว่างเราทั้งสองเรา จะสามารถหาข้อยุติเพื่อเป็นประโยชน์ของทั้ง 2 ประเทศได้
จริงๆมันต้องเอ่ยจั่วหัวขึ้นมาแบบนี้เลย
แต่กลับผิดหวัง เพราะที่ฟังมานี้เนี่ย เป็นการขอร้องเพื่อที่จะให้ทางผู้นำกัมพูชาช่วย แต่ไม่ได้ช่วยประเทศไทยนะครับ แต่ช่วยให้หลานอย่าถูกด่ามากกว่านี้
มันอะไรกันเนี้ย แปลกมาก ประเทศไม่ใช่ของคุณอุ๊งอิ๊งคนเดียว ประเทศเป็นของประชาชนทุกคน โปรดให้เกียรติ ให้ศักดิ์ศรี ไว้หน้าคนไทยด้วยเถิด
ที่สำคัญ นายกไม่ควรที่จะไปพูดพาดพิงในเชิงลบ โดยเฉพาะไปต่อว่าแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าอยู่คนละฝั่งกับเรา ซึ่งทำให้ประชาชนคนไทยตั้งคำถามต้องการคำอธิบายว่า ไอ้คำว่าเรานั้นที่นายกพูด หมายถึงใคร หมายความว่าอย่างไร และไปกล่าวหาแม่ทัพภาคที่ 2 ว่าเขาพูดเท่ๆ ซึ่งวันนี้ถ้าไม่มีกองทัพ ไม่มีแม่ทัพภาคที่ 2 เนี่ย นึกภาพไม่ออกเลยว่าเราจะย่ำแย่มากกว่านี้ขนาดไหน นี่เราก็เสียเปรียบกัมพูชาไปหลายขุมแล้ว
ผู้นำไม่ทำการบ้าน ไม่มีการสั่งประชุมระดมหัวสมอง หรือไม่ทำหนังสือเรียกตัวอาจารย์มหาลัยที่สอนจิตวิทยาในสถาบันดังๆมาให้ความเห็นในการเจรจา เหมือนกับที่สหรัฐอเมริกาเวลาที่เขามีวิกฤตเขามักจะเชิญศาสตราจารย์สาขาวิชาต่างๆมาให้ความเห็นด้านนั้นด้านนี้ ประเทศไทยเราก็ทำแบบนั้นได้ แต่ไม่ทำ
นายก เจรจาส่วนตัวโดยไม่คำนึงหรือวางแผนไว้ล่วงหน้า หรือคิดไว้ว่าเขาจะบันทึกเสียงไว้หรือเปล่า ซึ่งความจริงแล้วมันควรจะคิด เพราะทุกคำพูดของนายกนั้นกำลังแบกศักดิ์ศรีของคนทั้งประเทศไว้ การจะพูดอะไรมันต้องคิดให้มาก เพราะเราต้องตระหนักว่าเราพูดในนามของประเทศไทย คำพูดของคุณมีประชาชนคนไทยอยู่ในนั้นทั้งหมด ทั้งชาติ ศาสนา กษัตริย์ แต่นายกเอาไปเล่นเป็นของเล่น ทำลายป่นปี้หมด เหมือนเด็กอมมือไม่รู้จักคิด ไม่มีกึ๋น ไม่มีความสามารถอะไรเลย ทั้งๆที่ร่ำเรียนมา จบก็สูง แต่ไม่มีประสิทธิภาพ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
