Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
Fern Foreveryoung
•
ติดตาม
20 มิ.ย. เวลา 07:44 • ปรัชญา
แม่ฮ่องสอน
🌹เลือกเดินจาก ทั้งที่ยังรักอยู่ทุกลมหายใจ
🌹Walking away, still loving you with every breath.
***บทความจิตวิญญาณผ่านความรัก***
- คำนำ -
🌄จุดเริ่มต้นของแสง :
◾ฉันไม่ใช่ผู้หญิงที่สมบูรณ์แบบ
แต่ฉันกำลังเรียนรู้ที่จะรักตัวเองให้มากขึ้น...ในทุก ๆ วัน
บนเส้นทางชีวิตที่เต็มไปด้วยบทเรียน ทั้งความสุข ความทุกข์ ความเจ็บปวด น้ำตา ความผิดหวัง ความพ่ายแพ้ อุปสรรคมากมาย และการเรียนรู้ที่จะปล่อยวาง
ฉันพยายามจุดประกายความหวังเล็ก ๆ ในใจอยู่เสมอ เพราะฉันเชื่อว่า มนุษย์จะใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าได้...ตราบใดที่ยังมี “ความหวัง”
เรื่องราวที่คุณกำลังจะได้อ่าน ไม่ใช่แค่เรื่องรักครั้งหนึ่งของผู้หญิงคนหนึ่ง
แต่มันคือบทเรียนแห่งความกล้าหาญ การเลือกที่จะ “รักอย่างเข้าใจ โดยไม่ยึดครอง”
แม้จะต้องเอ่ยคำลา…ด้วยหัวใจที่บอบช้ำ
ในค่ำคืนที่มืดมนที่สุดในชีวิต
🕯️เงียบงันใต้แสงรัก :
◾ค่ำคืนที่ฉันต้องเดินจากผู้ชายคนหนึ่ง…ที่ฉันรักสุดหัวใจ
เป็นรักที่ลึกซึ้งเกินจะอธิบาย
และหัวใจของฉันยังคงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรักให้เขา…ในทุกวินาที
ไม่ใช่เพียง ความรักธรรมดา
แต่เป็น "สายใย" ที่เชื่อมโยงกันลึกถึงระดับ "จิตวิญญาณ"
แม้ในวันที่เราต้องแยกจากกัน
แต่ "ความผูกพันธ์นั้น" ยังคงชัดเจนอยู่ในใจของเราทั้งคู่
ราวกับ "วิญญาณของเราหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกัน" มาเนิ่นนาน
แต่ถึงแม้ความรักและความผูกพันนั้นจะยิ่งใหญ่เพียงใด
▪️"ฉันก็ยังเลือกที่จะเดินจากมา"▪️
◾ฉันแต่งงานและใช้ชีวิตอยู่ในอิสราเอลนานถึงแปดปี
เส้นทางชีวิตคู่ของเราไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
เราผ่านทั้งความเหน็ดเหนื่อย น้ำตา และค่าใช้จ่ายมหาศาล
เพื่อให้ฉันได้รับสถานะเป็นพลเมือง
ในประเทศที่ “ปิด” อย่างอิสราเอล
การได้มาใช้ชีวิตที่นี่…ยากเกินกว่าที่ฉันเคยคาดคิด
ผู้คนในประเทศนี้มีพลังดิบเฉพาะตัว
บุคลิกของพวกเขา แข็งแกร่งและตรงไปตรงมา
แม้อาจไม่ได้ใช้คำพูดที่ไพเราะหรือประดิษฐ์ประดอย
แต่ "ความจริงใจ" และ "หัวใจนักสู้" ของพวกเขา
กลับเปล่งประกายชัดเจนในทุกการสื่อสาร
ถึงอย่างนั้น...
ฉันกลับไม่เคยรู้สึกว่าตัวเอง “เป็นส่วนหนึ่ง” ของที่นี่เลย
"วัฒนธรรม ภาษา อาหาร อากาศ และวิถีชีวิต"
เหมือนจะไม่เคยเปิดประตูต้อนรับฉันอย่างแท้จริง
สิ่งเดียวที่ทำให้ฉันอดทนอยู่ต่อได้
คือ "ความรักของสามี"
และ "แม่สามีที่ฉันรักและผูกพัน" ราวกับเป็นครอบครัวแท้ ๆ
สิ่งที่ยากที่สุดสำหรับฉันคือเรื่อง "ภาษา" และ "วัฒนธรรม"
มันเหมือนกับ "กำแพงที่ไม่มีวันพังทลายลง"
หลายครั้ง...
ฉันรู้สึก "โดดเดี่ยว เหนื่อยล้า และอ่อนแรง"
แต่ด้วยความรัก ความห่วงใย
บวกกับความอ่อนโยนที่สามีมอบให้
มันมีพลังบางอย่าง
ที่สามารถ "ละลายความรู้สึกเหล่านั้น" ได้เสมอ
🫂บทย้อนความรักในอดีต :
◾เราพบกันที่ประเทศไทย ในช่วงที่เขามาเที่ยวพักผ่อนที่กรุงเทพฯ
เขาเป็นคนเงียบขรึม มีโลกส่วนตัวสูง แต่เต็มไปด้วยความสุภาพและอ่อนโยน
ครั้งแรกที่ฉันพูดคุยกับเขา ฉันรู้สึกตื่นเต้นอย่างประหลาด และมี "เคมีบางอย่างที่จุดประกายขึ้นอย่างรุนแรง" ทั้งที่ฉันเคยนึกว่าหัวใจของตัวเองได้ ตายด้าน ไปนานแล้ว จากบาดแผลในอดีตที่สะสมจากความรักหลายครั้ง
แม้ว่าเขาจะไม่ใช่คนพูดเก่ง แต่คำตอบของเขานั้น "อบอุ่นและนุ่มนวล ทุกคำพูดที่เขากล่าวออกมา สร้างรอยยิ้มให้ฉันโดยไม่รู้ตัว"
ไม่นานนัก เราสนิทกันอย่างรวดเร็ว และในอ้อมกอดของเขา...
ฉันสัมผัสได้ถึง "พลังงานบางอย่างที่ลึกซึ้ง"
อบอุ่น นิ่งลึก
"จนทำให้ฉันหยุดหายใจได้ในวินาทีนั้น"
หลังจากที่เขากลับอิสราเอล เรายังคง "เชื่อมโยงกันทางหัวใจ" ผ่านแอปพลิเคชัน LINE เขาทักทายฉันทุกวันโดยไม่เคยขาด
ความสม่ำเสมอของเขา, ความใส่ใจ, การตอบกลับที่รวดเร็ว, การให้ความสำคัญกับฉันเป็นอันดับต้นๆ... ล้วนทำให้ฉันรู้สึกว่า "ฉันคือคนสำคัญของเขาจริงๆ"
แม้จะอยู่ห่างกันคนละฟากฟ้า
แต่เขาก็ยัง "แจ่มชัดในหัวใจฉัน" ราวกับดาวเหนือนำทาง
ฉันรู้สึก "มั่นคงในหัวใจดั่งขุนเขา"
และนี่...เป็นครั้งแรกในชีวิตที่ฉันได้รับความรู้สึกแบบนั้น
ผ่านไปหนึ่งปี ความฝันของเราก็เริ่มเป็นจริง
ฉันตัดสินใจเดินทางไปเยี่ยมเขาที่อิสราเอล แม้จะยากลำบาก แต่ก็อยู่ที่นั่นได้ถึงสองเดือนเต็ม
ตอนแรก เรามีหลายอย่างที่ดูเหมือนจะเข้ากันไม่ได้ เพราะเราทั้งคู่ต่างก็มี "โลกส่วนตัวสูง" ฉันเคยรู้สึกท้อแท้ ถึงขั้นคิดจะยอมแพ้
เพราะ "ฉันไม่อยากเปลี่ยนใคร..."
แต่เขากลับขอโอกาสจากฉัน
และเมื่อฉันตัดสินใจเปิดใจ บอกเขาอย่างตรงไปตรงมาว่า อะไรคือสิ่งที่ฉันรับไม่ได้...
เขากลับ "เปลี่ยนแปลงตัวเองอย่างน่าเหลือเชื่อ"
ราวกับเกิดใหม่...เพื่อเราโดยเฉพาะ
นั่นคือจุดที่ทำให้ฉันประทับใจอย่างลึกซึ้ง
ความรักของเรายิ่งแน่นแฟ้น ลึกซึ้ง และมั่นคงยิ่งขึ้น
ทุกครั้งที่เขากลับจากที่ทำงาน
เมื่อได้เห็นหน้าฉัน "เขาจะ ยิ้มกว้าง" และแสดงความดีใจเหมือนเด็กๆ ที่ได้เจอคนรักอีกครั้ง
ความงดงามจากภายในของเขา ผู้ชายที่มองโลกในแง่ดี, อ่อนโยน, เปี่ยมเมตตา มัน "เปล่งประกายเจิดจรัสจากหัวใจ สู่แววตา"
เขาใจเย็น สุขุม และเต็มไปด้วยเหตุผล
แม้ในวันที่ฉันทำผิดพลาด...
เขาเพียงแค่ "เงียบฟัง" ด้วยสายตาที่ไม่เคยตัดสิน ไม่เคยต่อว่า
ไม่มีแม้แต่คำตำหนิ... มีเพียง "ความเข้าใจ" อันแสนลึกซึ้ง
แม้ในวันที่ฉันเลือกจะทำบางสิ่งในแบบของตัวเอง
หรือแม้แต่ตัดสินใจจะไปที่ไหน ทำสิ่งใด
เขาไม่เคยถามว่า “ไปกับใคร?” หรือ “ทำไมต้องทำแบบนั้น?”
เขา "เคารพการตัดสินใจของฉัน" อย่างสม่ำเสมอ
และฉัน...ก็ไม่อาจปฏิเสธได้เลยว่า
ฉันทึ่งใน "ความมั่นคง" และ "ความหนักแน่นในจิตใจ" ของผู้ชายคนนี้อย่างแท้จริง
ความรักของเราก่อตัวอย่างมั่นคง ลึกซึ้ง
...และเมื่อเวลาผ่านไปอีกหนึ่งปี
เราจึงตัดสินใจแต่งงานกัน
และฉันได้ย้ายมาใช้ชีวิตที่อิสราเอล
Loving you is part of my soul’s journey.
🌎โลกทั้งใบในมือของเรา :
◾ชีวิตรักของเราสองคนไม่ได้หรูหรา เพราะเขายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นสร้างฐานะ
เราต้องช่วยกันประหยัดในทุกด้าน และฉันเองก็ยังไม่มีงานทำ
แต่เรากลับมีความสุขอยู่ใน "ความเรียบง่าย"
เพราะต่างก็มี "ความเข้าใจ" และ ให้เกียรติกันเสมอ
ไม่ว่าฉันจะทำอาหารอะไร เขาก็ชอบทุกอย่าง
และ "ความสุขของฉัน..."
ก็คือการได้เห็นเขากินอาหารที่ฉันทำอย่างเอร็ดอร่อยในทุก ๆ วัน
▪️รักแท้... หน้าตาเป็นแบบนี้สินะ▪️
เพราะฉันไม่เคยคิดเลยว่า
ผู้หญิงที่ "ขี้เบื่อ" ชอบอะไร "ตื่นเต้นหวือหวา" แบบฉัน
จะ "มาสงบลงได้"... เพราะผู้ชายคนนี้
ไม่เคยคิดเลยว่าในชาตินี้
จะได้สัมผัสกับคำว่า “รักแท้” จริง ๆ
แม้จะผ่านประสบการณ์ความรักมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่ไม่เคยมีครั้งไหน... ที่รู้สึกแบบนี้มาก่อน
แค่มีเขาอยู่เคียงข้างในทุก ๆ วัน
"ไม่ต้องมีแก้วแหวนเงินทอง"
"ไม่ต้องมีรถหรูหรือบ้านหลังใหญ่"
แต่หัวใจก็กลับ "อิ่มเอิบ" และ "เปี่ยมล้นด้วยความสุข เสมอ"
แบบนี้สินะ... ที่เขาเรียกว่า ▪️“โลกทั้งใบ”▪️
ในช่วงปีสองถึงสามปีแรก
ฉันต้องช่วยเขาประหยัดทุกทาง
เพราะว่าเงินเดือนของเขาค่อนข้างพอดีกับค่าใช้จ่าย
แต่เราก็ไม่เคยขาด "เสียงหัวเราะ" และ ความอบอุ่น ในบ้าน
My love for you exists beyond time.
🍲อาหารที่จุดประกายวิญญาณ :
◾จนวันหนึ่งเขาได้ย้ายบริษัท และมีเงินเดือนเพิ่มขึ้น
ทางบริษัทมอบ gift voucher เป็นของขวัญช่วงวันหยุดต่าง ๆ
พวกเราจึงได้โอกาสไปทานอาหารที่ร้านหรูบ้างเป็นบางครั้ง
และนั่นคือ "ความสุขเล็ก ๆ" ของเรา
เราชอบพูดเล่นกันเสมอว่า
▪️“อาหารอร่อย... มันช่วยจุดประกายวิญญาณของพวกเราให้สว่างขึ้น”▪️
ไม่ใช่เพราะรสชาติหรูหรา
แต่เพราะเราได้ "แบ่งปันความสุขกันในทุกคำ"
และในตอนนั้น เราพักอยู่ที่ "Tel Aviv"
ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากทะเลนัก
ในวันหยุดสุดสัปดาห์ เรามักจะไปปิกนิกด้วยกันบ่อย ๆ
ส่วนใหญ่เราจะทำอาหารไปเอง
แต่บางครั้งก็เปลี่ยนบรรยากาศ ไปลองร้านอาหารแถวนั้น
มันอาจไม่ใช่เรื่องหวือหวาอะไรเลย...
แต่ทุกครั้งที่เราได้นั่งอยู่ด้วยกัน
หัวใจของเรากลับ "เปี่ยมไปด้วยสีสันของความรัก"
แบบที่ไม่มีอะไรมาเติมเต็มได้เท่านี้อีกแล้ว
🌖ในเงามืดของรัก :
◾"ฉันไม่เคยตั้งใจจะพูดถึงเรื่องในมุ้ง..."
แต่เมื่อเดินมาถึงตรงนี้ "ฉันก็รู้สึกว่า ควรเล่าให้ครบทุกแง่มุม"
คุณรู้ไหม... พวกเรามีบางสิ่งบางอย่างที่เราไม่สามารถปรับเข้าหากันได้
และแม้จะเป็นเรื่องใหญ่—เราก็พยายามมองข้ามมัน
เพราะความรักของเรานั้น "ลึกซึ้งกว่าปัญหาใดๆ"
เรื่องนั้น...คือเรื่องของเซ็กส์
(ขออนุญาตไม่ขยายความ เพื่อเป็นการให้เกียรติพวกเราทั้งสองคน)
ในปีที่สามหรือสี่ ฉันเริ่มป่วย
ฉันมีอาการคันตามตัวแบบไม่มีผื่น
เหมือนผิวสูญเสียน้ำจนแห้งผาก
จนรู้สึกเหมือนมีบางอย่างไชอยู่ใต้ผิวหนัง
โดยเฉพาะในฤดูหนาว
ซึ่งเป็นฤดูที่ร่างกายฉัน "รับไม่ไหวเลยจริงๆ"
อาการคันรุนแรงจนทำให้นอนไม่ได้
หรือหลับไม่สนิท ต่อเนื่องเป็นเวลานาน
จนกลายเป็นจุดเริ่มต้นของการที่ฉันแยกที่นอนกับสามี
🤕เมื่อร่างกายร้องไห้แทนจิตใจ :
◾แม้เราจะไม่ได้หลับนอนร่วมกัน และแทบไม่มีเซ็กส์เหมือนเมื่อก่อน
แต่ "ความรักระหว่างเรา... ยังไม่เคยจางลง"
ฉันต่างหาก ที่ค่อย ๆ กลายเป็นคนที่ไม่เหมือนเดิม
เพราะอาการนอนไม่หลับนั้น ทำให้ฉันหงุดหงิด อ่อนล้า และหมดเรี่ยวแรง
รวมถึงความเครียดจากกระบวนการในการได้สถานะประชาชนของประเทศนี้ ที่แสนยากลำบาก
ฉันติดอยู่ที่นั่น กลับเมืองไทยไม่ได้
"ความรู้สึกสิ้นหวังจึงกัดกินใจทีละน้อย... จนฉันเริ่มมีภาวะซึมเศร้า"
"ความคิดอยากตาย" เคยแวะเวียนเข้ามาในหัวหลายครั้ง
ฉันเคยทำร้ายตัวเอง ด้วยการทุบหัวตัวเองซ้ำ ๆ ด้วยมือเปล่า
อาการเหล่านี้เกิดขึ้นบ่อย... จนฉันเองก็กลัวตัวเอง
"ความรู้สึกนั้น... เหมือนฉันตกลงไปในหลุมดำลึก"
มืดมิด และอ้างว้าง
ในหัวมีแต่ความคิดลบ ๆ
ความเศร้าหม่นปกคลุมอยู่ตลอดเวลา
"โลกดูน่าหดหู่ และไม่น่าอยู่เอาเสียเลย"
มองไปทางไหน ก็เห็นแต่ทุกข์
แค่คำพูดของสามีที่ไม่ถูกใจ
หรือแม้เพียงความน้อยใจเล็กน้อย
กลับสร้างบาดแผลใหญ่ในใจ
เจ็บปวด... "และรู้สึกเหมือนเรื่องเล็ก กลายเป็นเรื่องใหญ่โตเกินจริง"
ฉันกลายเป็น "คนบ้า" ที่ดูแล้วค่อนข้างจะหนักหนาเอาการ
ฉันใจร้อนมาก หงุดหงิดกับทุกเรื่อง
ทุกครั้งที่ฉันเห็นมีด
ฉันคิดเสมอว่า "อยากจะเอามาปาดตัวเอง!!"
สามีของฉันพยายามขอร้องหลายครั้ง ให้ฉันไปพบแพทย์
แต่ฉัน... ▪️ปฏิเสธ▪️
✨แสงแห่งธรรมในความมืด :
◾ฉันจำได้ว่า ครั้งสุดท้ายที่กำลัง ทุบตัวเองซ้ำ ๆ
ทันใดนั้น... มีแสงสว่างวาบกลางอก
พร้อมเสียงสะท้อนว่า "ตั้งสติ"
ฉันจึงหยุดมือในทันที
ฉันเข้าใจว่า นั่นคือ ▪️พลังแห่งธรรม▪️
ที่ช่วยดึงฉันกลับมาให้ฟื้นคืนสติในยามวิกฤต
มันคงเกิดจากการที่ฉันเคยสั่งสม "สติ สมาธิ ปัญญา"
และความศรัทธาในคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า
ไว้ในรากฐานของจิตวิญญาณ
แต่เนื่องด้วยเราเป็นมนุษย์ที่ ผู้อ่อนแอคนหนึ่ง
▪️สติจึงสามารถเสื่อมไปได้ทุกเมื่อ▪️
แต่... ยังโชคดีที่ฉันสามารถ ตื่นกลับมาได้
ในความมืดมิดที่สุด
ฉันเริ่มหันกลับไปสู่แสงสว่างที่สถิตอยู่ในใจ…
▪️แสงแห่งธรรมะ▪️
โชคดีจริง ๆ ที่ฉันมีพื้นฐานของการ "ปฏิบัติธรรม"
มาตั้งแต่ก่อนแต่งงาน
ฉันจึงไม่หลุดจาก "ตัวตนเดิม" ของฉันอย่างสิ้นเชิง
ฉันสามารถประคองใจตัวเอง
ให้ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้แบบค่อนข้าง "ทุลักทุเล"
แต่ฉันก็ยัง… ▪️รอด▪️
เมื่อฉันได้โอกาสกลับเมืองไทย
แม้เพียงช่วงสั้น ๆ
ฉันเลือกเดินทางไปภาคอีสาน
เพื่อแสวงหาความสงบ และเรียกคืนความชัดเจนในใจ
ฉันใช้วันเวลาทั้งหมดนั้น "เพื่อการปฏิบัติธรรมอย่างลึกซึ้ง"
ค่อย ๆ เก็บชิ้นส่วนของจิตวิญญาณ
ที่กระจัดกระจาย… ให้กลับคืนมา
และอีกครั้ง…
▪️สามียังยืนเคียงข้างฉัน▪️
อย่างเงียบงัน อ่อนโยน ไม่เคยห่าง
ด้วยความรักของเขา…
และด้วย ▪️ธรรมะ▪️
ฉันจึงได้ "เยียวยาอย่างแท้จริง"
ไม่ต้องพึ่งยา
ไม่ต้องพึ่งหมอ
มีเพียง ▪️ความรัก... ความจริง... และแสงสว่างที่อยู่ในใจ▪️
🩶แผลจากกรรมเก่า :
◾แต่สุขภาพร่างกายของฉันกลับไม่ได้ดีขึ้น
ฉันเริ่มมีอาการ "ปวดคอและปวดหลังเรื้อรัง"
อันเนื่องมาจากการลื่นล้ม จนก้นกระแทกพื้น
อาการเจ็บนั้น… แทรกซึมเข้ามาเรื่อย ๆ
จนกลายเป็นอีกหนึ่งสาเหตุ
ที่ทำให้ฉัน "นอนไม่หลับ" หนักขึ้นไปอีก
แต่ครั้งนี้…
ฉันไม่ได้ฟุ้งซ่านหนักเท่าคราวก่อน
เพราะฉันรู้สึกว่า ▪️จิตใจของฉันแข็งแกร่งขึ้น▪️
"แต่ก็ยังยากลำบาก" ในการรับมือ
ถึงอย่างนั้น…
▪️ฉันก็ยังพยายามยิ้มให้เขาทุกวัน▪️
แม้ในวันที่ "ร่างกายของฉันเต็มไปด้วยความเจ็บปวด"
ฉันไปหาหมอหลายแห่งในอิสราเอล
แต่ก็ไม่มีใครหาสาเหตุที่แท้จริง
ของอาการที่ฉันเผชิญได้เลย
บางครั้ง… ฉันก็แอบคิดว่า
"เป็นเพราะฉันเป็นคนไทยหรือเปล่า"
พวกเขาถึงไม่ใส่ใจฉัน
แต่ฉันก็พยายาม… ไม่คิดแบบนั้น
ฉันบอกตัวเองว่า…
▪️นี่อาจเป็นผลของกรรมเก่า▪️
ที่ฉันต้อง เรียนรู้ และ ก้าวผ่านมันไปให้ได้
💖จุดยืนของความรักในตัวเอง
◾วันเวลาผ่านไป ชีวิตก็มีทั้งความสุขและความเศร้าระคนปะปนกันไป
แต่ส่วนลึกของหัวใจ...▪️ความรักของเรานั้นมั่นคง แข็งแกร่งเสมอ▪️
กระทั่งเมื่อแม่สามีเริ่มพูดเรื่อง “หลาน”...
ฉันรู้สึกว่าสามีของฉันเริ่มมีความเครียด เหมือนกับว่าแม่เขากำลังคาดหวังในสิ่งนั้น และเขาต้องรับผิดชอบมัน
ทั้งที่เราเคยคุยกันก่อนแต่งงานไว้ว่า "เราไม่ต้องการมีลูก" และต่างฝ่ายต่างก็เห็นพ้องต้องกัน
แต่คำพูดของแม่เขา...มันทำให้เขาเกิดความลังเลขึ้นมา
อีกใจหนึ่ง เขาตระหนักว่า ตัวเองเป็นลูกคนเดียว และอยากให้แม่ของเขาได้อุ้มหลานสักครั้ง
มันจึงกลายเป็น "ความคิดสองด้านที่ขัดแย้งกันอยู่ในหัวของเขา"
สำหรับฉัน...
ฉันสามารถตอบได้อย่าง ร้อยเปอร์เซ็นต์ ว่า ▪️ฉันไม่ขอมีลูก▪️
ฉันรู้ว่าเขาเองก็เหนื่อยไม่แพ้กัน เขากำลังยืนอยู่ตรงกลาง ระหว่าง "ความคาดหวังของแม่" กับ "คำสัญญาที่เคยให้ไว้กับฉัน"
เรายังพยายามพูดคุย ปรึกษาหาทางออก
และหนึ่งในทางเลือกที่เรามองเห็น ก็คือการ
“อุ้มบุญ”
แต่ก็ใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่าย...
เพราะสุดท้าย หากอุ้มบุญ ก็ย่อมหมายถึงการมีลูก และ "ลูกคนนั้น ย่อมกลายเป็นของฉัน"
▪️ภาระหนักอึ้งนี้ ฉันรับไม่ไหว...▪️
เพราะส่วนลึกของหัวใจ ฉันต้องการเดินบนเส้นทางแห่ง "จิตวิญญาณ" ในบั้นปลายชีวิต
โดยปราศจากพันธะหรือห่วงคล้องใด ๆ
"เหมือนนกที่โผบินโดยไร้กรงหรือเชือกผูกข้อเท้า"
และนั่นคือเป้าหมายหลักในชีวิตฉันเลยก็ว่าได้
เพราะตั้งแต่เด็ก ฉันมักตั้งคำถามกับตัวเองอยู่เสมอว่า...
"เราเกิดมาทำไม เราเกิดมาเพื่ออะไร"
"ตายไปแล้วเราจะเอาอะไรติดตัวไปได้บ้าง"
"แล้วระหว่างที่เรามีชีวิตอยู่บนโลกนี้ เราควรทำอะไร...เพื่อให้ไม่เสียชาติเกิด?"
และที่สำคัญอีกอย่างหนึ่งคือ
▪️ฉันคิดว่าฉันไม่สามารถเป็นแม่ที่ดีได้▪️
ฉัน..."กลัว"
ความรู้สึกเหล่านี้ นำพาฉันเข้าสู่สภาวะ “กลืนไม่เข้าคายไม่ออก”
ฉันคิดวนเวียนอยู่ตลอด เหมือนคนพายเรือในอ่าง
และรู้สึกถึงแรงกดดันในทุก ๆ วัน
▪️ถ้าคุณเป็นฉัน...คุณจะตัดสินใจยังไง?▪️
คุณอาจมองว่า “การมีลูกสักคนไม่ใช่เรื่องใหญ่” ใช่ไหมคะ?
ฉันเข้าใจค่ะ เพราะมันเป็นธรรมชาติของมนุษย์ในการสืบพันธุ์และมีครอบครัว
แต่ว่า..."จุดยืนของคุณกับของฉันนั้นต่างกัน"
และคุณคงไม่มีวันเข้าใจ
ถ้าคุณไม่มาเป็น “ฉัน” คนนี้
ผู้หญิงคนที่เจ็บปวดไปทั้งร่างกาย
คนที่นอนแทบไม่ได้จากความทุกข์ที่เผชิญอยู่ทุกคืน
▪️ความทุกข์ที่มากจนแทบจะรับไม่ไหว...▪️
แล้วถ้าฉันต้อง “ตั้งท้อง” ขึ้นมาจริง ๆ
และทำในสิ่งที่ฉันไม่อยากทำ
มันคงกลายเป็น...▪️“นรกบนดิน”▪️
และฉันไม่อยากตกอยู่ในสภาพนั้นเลยจริง ๆ
แม้ว่าฉันอาจดูเป็นคนโง่ในสายตาของใครหลายคน
แม้ว่าจะมีคนที่ไม่เข้าใจฉัน หรือบางคนอาจจะตัดสินฉันไปแล้ว
ไม่เป็นไรค่ะ
ฉันเคารพในความคิดของพวกคุณทุกคน
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ...
“ฉันเคารพการตัดสินใจของตัวฉันเอง”
“ฉันกำลังพยายามรักตัวเองอยู่ค่ะ”
และ
▪️“ฉันกำลังจะเลือกสิ่งที่ฉันคิดว่าดีที่สุดสำหรับตัวเอง”▪️
บางครั้ง...
การยืนหยัดเพื่อความจริงของตัวเอง อาจทำให้เราถูกเข้าใจผิด
แต่ฉันเชื่อว่า...
▪️ไม่มีใครจะเดินเส้นทางชีวิตให้ฉันได้นอกจากตัวฉันเอง▪️
และฉันจะเดินต่อไป
ด้วยหัวใจที่อ่อนโยน
"ต่อความรู้สึกของตัวเองเสมอ"
🎋การตัดสินใจจากลา :
◾ในที่สุด ความคิดของฉันก็ได้ตกผลึก
มันกลายเป็น “การตัดสินใจที่จะกล่าวคำลา”
ฉันไม่ได้จากมาเพราะหมดรัก หรือเพราะความรักมันจางลง
แต่เพราะ "ความจริงบางอย่าง" ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้อีกต่อไป
1. ความเจ็บป่วยทางกายของฉันนำไปสู่ภาวะซึมเศร้า
และหมอที่นั่นก็ไม่สามารถเยียวยาฉันได้
ความเหนื่อยล้าค่อย ๆ ซึมเข้ามาในชีวิตคู่ของเราอย่างไม่รู้ตัว
จนความใกล้ชิดระหว่างเราค่อย ๆ เลือนหายไป
2. แม่ของเขามักพูดถึงเรื่องหลานอยู่เสมอ
แม้ว่าเราจะตกลงกันไว้แล้วว่าเราจะไม่มีลูก
ฉันเข้าใจแม่ของเขาดี เพราะเขาเป็นลูกคนเดียว
และด้วยความรัก ฉันก็อยากให้เขาได้มีโอกาสสร้างครอบครัวที่สมบูรณ์กับใครสักคนที่ พร้อมจริง ๆ
3. ความกดดันที่สะสม ค่อย ๆ กัดเซาะเราไปทีละน้อย
จนความเหนื่อยล้าและเบื่อหน่ายค่อย ๆ แทรกซึมเข้ามาในความสัมพันธ์ของเรา ใน "ทุก ๆ วัน…"
▪️สิ่งที่ทำให้การลาครั้งนี้แตกต่าง คือ:▪️
คนส่วนใหญ่มักจากกันเมื่อความรักหมดลง
เมื่อความโกรธหรือความเกลียดเข้ามาแทนที่ความอบอุ่น
บางคนจากกันโดยไม่อยากแม้แต่จะมองหน้ากันอีก
บางคนถึงขั้นอาฆาตหรือเกลียดกันไปตลอด
แต่ "ฉันกลับเดินจากมาในวันที่ยังรักเขาด้วยสุดหัวใจ"
ฉันเลือกที่จะปล่อยมือ ไม่ใช่เพราะความอ่อนแอ
แต่เพื่อ "รักษาความรักล้ำค่านี้ไว้"
ให้อยู่ในรูปแบบที่งดงามที่สุด
เพื่อให้มันยังคงมีชีวิตอยู่ในหัวใจและความทรงจำของเราทั้งคู่
ฉันรู้ว่า หากเรายังอยู่ด้วยกัน
ความกระทบกระทั่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ในแต่ละวัน
จะค่อย ๆ บั่นทอนความรู้สึกดี ๆ จนไม่หลงเหลืออะไร
นอกจาก "ความเฉยชา"
"ฉันไม่อาจปล่อยให้รักของเรากลายเป็นแบบนั้นได้"
▪️ดังนั้น ฉันจึงตัดสินใจ อย่างเด็ดขาด▪️
เรานั่งลงและเปิดใจคุยกัน ด้วยเหตุผล ด้วยความสงบ
ด้วยความเข้าใจ และด้วยความเคารพในกันและกัน
สิ่งที่เราพูดกันในวันนั้น
เหตุผลที่ฉันบอกเขาว่าทำไมถึงต้องจากลา
ก็คือสิ่งที่ฉันได้กล่าวไปแล้วทั้งหมดนี้
ในช่วงเวลานั้น ฉันได้เห็น "ความเข้มแข็งที่น่าทึ่ง" ของผู้ชายคนนี้
แม้จะมีน้ำตาคลออยู่ตลอดเวลา
ฉันสัมผัสได้ถึง "ความรักที่บริสุทธิ์"
รักที่ไม่มีเงื่อนไข ไม่มีความเป็นเจ้าของ
รักที่เพียงต้องการให้อีกฝ่ายได้เดินไปบนทางที่เหมาะสม
และได้รับสิ่งที่ดีที่สุดในชีวิต
ตอนนั้น "สงครามในอิสราเอลยังไม่เกิดขึ้น"
ฉันยังคงภาวนาให้เขาได้พบผู้หญิงที่ใช่
และได้สร้างครอบครัวตามที่แม่ของเขาฝันไว้
▪️เราตกลงใจจากกันด้วยน้ำตาแห่งความเข้าใจ▪️
พร้อมส่งพลังแห่งความปรารถนาดีให้กันและกัน
เราสื่อสารกันด้วยหัวใจ "อย่างบริสุทธิ์และไร้การปรุงแต่ง"
เรากอดกันแน่นและร้องไห้
เข้าใจกันในแบบที่คนเพียงไม่กี่คู่จะได้สัมผัส
พวกคุณเห็นไหม?
▪️เรารักกันมาก...▪️
แต่เราไม่อาจอยู่ด้วยกันได้
ทุกสิ่งระหว่างเรากำลังกลายเป็นอดีต
และไม่มีอะไรจะดึงมันกลับคืนมาได้อีก
แม้มันจะเจ็บปวดจนแทบขาดใจ
แต่ฉันจะเลือกเก็บมันไว้เป็น **ความทรงจำอันแสนหวาน**
เป็นบทหนึ่งในชีวิตที่มีคุณค่าลึกล้ำ…เกินจะวัดได้
การได้เกิดมาในชาตินี้ มีความหมายเหลือเกินสำหรับฉัน
เพราะ "ครั้งหนึ่ง ฉันเคยได้ร่วมทางชีวิตกับผู้ชายที่มีหัวใจบริสุทธิ์เช่นนี้"
แม้เวลาของเราจะใกล้หมดลง...
แต่ฉันรู้ว่า:
▪️จิตวิญญาณของเราจะเดินเคียงข้างกัน
ไปตราบชั่วนิรันดร์▪️
🌦️รอยยิ้มในหยดน้ำตา
◾และคืนที่มืดมิดที่สุด...ก็มาถึง
ฉันกลับประเทศไทย...พร้อมหัวใจที่แทบแตกสลาย
ฉันเจ็บมานับครั้งไม่ถ้วน
แต่ไม่มีครั้งใดเทียบได้กับคราวนี้
มันเหมือนลมหายใจ...จมหายไปในทะเลลึกแห่งความเศร้า
น้ำตาไหลไม่หยุด
แม้พยายามเข้มแข็งเต็มที่
"ราวกับว่า...หัวใจเหมือนถูกฉีกออกเป็นเสี่ยง ๆ"
▪️เขา...อดีตสามีของฉัน...ก็ร้องไห้เช่นกัน▪️
ตอนที่เขาไปส่งฉันที่สนามบิน
ขณะที่ฉันยืนอยู่ในแถวยาวเพื่อสแกนกระเป๋า
เขาไม่สามารถเข้ามาได้ จึงต้องยืนอยู่ด้านนอก
เรายังหยุดร้องไห้ไม่ได้
ทุกครั้งที่ฉันหันไปหาเขา
เราต่างโบกมือให้กัน
ราวกับอยากตรึงภาพสุดท้ายของกันและกันไว้
แม้ใบหน้าจะเปื้อนน้ำตา
แต่เราก็ยังยิ้มให้กัน...ทุกครั้ง
"แล้วทำไมเขาถึงปล่อยฉันไป...?"
เพราะเขาเข้าใจฉัน...▪️อย่างลึกซึ้ง▪️
และเคารพในการตัดสินใจของฉัน
**เขาเป็นผู้ชายที่กล้าหาญที่สุดคนหนึ่งที่ฉันเคยพบ**,
กล้าพอที่จะปล่อยมือคนที่เขารัก...
เพื่อให้เธอได้เป็นอิสระจากความทุกข์
ความรักของเราไม่เคยเกี่ยวกับการครอบครอง
แต่มันคือ...▪️ความปรารถนาดีที่บริสุทธิ์▪️
เพื่อให้อีกฝ่ายได้พบกับความสงบสุข
ที่แม้จะต้องแลกด้วยความทุกข์ของตนเอง...
ก็ยังยินดีมอบให้กันได้
**คืนนั้น คือคืนที่เงียบงันที่สุดในชีวิตฉัน**
ฉันยังไม่เข้าใจตัวเองด้วยซ้ำ ว่ากล้าทำสิ่งนั้นได้อย่างไร
แต่วันนี้..."ฉันรู้แน่ชัดว่า"
มันคือการตัดสินใจที่ถูกต้องที่สุด
เพราะฉันได้รักษาความรักของเรา...
ให้งดงามไว้ในความทรงจำ
แม้มันจะแลกมาด้วย...**รอยแผลลึกในใจ**
ฉันไม่อาจอธิบายความรู้สึกในช่วงเวลานั้นได้หมด
มันคือ...**ความปวดร้าวบนพื้นฐานของความรักที่สวยงามที่สุด**
รักแท้...▪️ที่ไม่ต้องครอบครอง▪️
แต่จะคงอยู่ในใจฉัน...▪️ตลอดไป▪️
🌱เริ่มต้นใหม่ด้วยลมหายใจ :
◾เมื่อฉันกลับถึงประเทศไทย สิ่งที่เยียวยาหัวใจฉันได้มากที่สุด ก็คือการ “ปฏิบัติธรรม”
พร้อมกับการโฟกัสไปยังเป้าหมายใหม่ — การเดินทางขึ้นเหนือ เพื่อมองหาที่ดินสักผืน ปลูกบ้านหลังเล็ก ๆ สำหรับใช้เป็นสถานปฏิบัติธรรมส่วนตัว
ปลายทางของฉันคือจังหวัด “แม่ฮ่องสอน”
ที่นั่น... "ฉันไม่รู้จักใครเลย ไม่เคยไปมาก่อน และไม่มีญาติพี่น้องสักคน ฉันคือผู้หญิงตัวคนเดียว ที่เหมือนหลงทางในโลก"
แต่ฉันมี **ศรัทธา…*"
"ฉันอธิษฐานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ขอเพียงให้มีแสงนำทางในเส้นทางชีวิตใหม่นี้"
และคำอธิษฐานนั้น… "ดูเหมือนจะได้รับคำตอบ"
เมื่อฉันเปิดแผนที่ดู เส้นทางของใจบอกฉันอย่างชัดเจนว่า
“วัดจองคำ” คือจุดหมายที่ฉันต้องไป
และที่นั่นเอง ฉันได้พบกับกัลยาณมิตร แม่เลี้ยงเดี่ยวที่มีพี่ชาย 2 คน และมี ลูกสาววัย 6 ขวบ 1 คน
พี่ชายของเธอคนหนึ่ง พิการ, พูดไม่ได้, และต้องนั่งวีลแชร์ตลอดเวลา
แต่เขากลับเฉลียวฉลาด และเปี่ยมด้วยแววตาแห่งชีวิต
"น่าเศร้าที่พ่อแม่ของพวกเขาได้จากไปหมดแล้ว"
และฉัน... ได้ลูกสาวมา 1 คน ที่จะซนแต่ฉลาดสุด ๆ
น่าจะเป็นลูกในอดีตชาติแน่นอน
ฉันถามเธอว่า จะเรียกฉันว่าอะไรดี ระหว่าง "พี่เฟิร์น", "ป้าเฟิร์น", หรือ "แม่เฟิร์น"
เธอตอบทันทีว่า **แม่เฟิร์นค่ะ**
"รู้สึกสดชื่นอย่างบอกไม่ถูก... เมื่อได้ยินคำนั้น
ฉันไม่เคยอยากเป็นแม่ตัวจริง
แต่พอได้แม่ตัวปลอม ๆ อย่างนี้... รู้สึกดีมากจริง ๆ"
ไม่นานนัก พวกเราก็กลายเป็น "เพื่อน" และมากกว่านั้น, เราเป็นเหมือน "ครอบครัว"
เธอช่วยฉันตามหาที่ดินอย่างเต็มใจ
และสุดท้าย, ฉันก็ได้ที่ดินผืนเล็ก ๆ ติดกับป่า ในราคาที่พอจับต้องได้
ฉันเริ่มต้นสร้างบ้านหลังน้อยแห่งการภาวนา ด้วยงบประมาณที่จำกัด
ฉันต้องออกแบบ, คำนวณ, ดูแล, ควบคุมทุกอย่างด้วยตนเอง
ฉันกลายเป็นทั้ง "สถาปนิก, วิศวกร, ผู้จัดการ, และ แรงงาน" ในเวลาเดียวกัน
**ฉันใช้มือตัวเอง** ช่วยช่างก่อบ้านหลังเล็กนี้ "ทีละก้อนอิฐ ทีละวัน"
และในกระบวนการนั้นเอง… **ฉันไม่มีเวลาฟุ้งซ่านกับความทุกข์อีกเลย**
**ใจของฉันถูกดึงกลับมาอยู่กับ ปัจจุบัน, ขณะ, ลมหายใจ… และการลงมือทำ"*
"ฉันผ่านช่วงเวลาวิกฤตของใจมาได้อย่างอัศจรรย์"
ด้วย "ไม้แผ่นเล็ก ๆ, ดินเหนียว," และ **ศรัทธาในหัวใจ**
💞ความรักที่ยังไม่สิ้นสุด…แม้จะสิ้นทางเดินร่วมกัน:
◾ฉันเคยคิดว่า ความรักคือการได้อยู่เคียงข้างใครสักคนไปตลอด
แต่เมื่อชีวิตพาฉันมาพบกับเขา ผู้ชายที่เปลี่ยนความเข้าใจเรื่องความรักของฉันไปโดยสิ้นเชิง
และฉันได้เรียนรู้ว่า...
"บางครั้ง ความรักไม่ได้หมายถึงการครอบครอง
แต่อาจเป็นเพียงการ ได้รัก... อย่างอ่อนโยนและเต็มใจ"
แม้ว่าเส้นทางของเราจะไม่ได้ทอดยาวเคียงกันไปจนสุดปลายทาง
ในช่วงเวลาสั้น ๆ ที่เราได้ร่วมทางกัน
ฉันได้ค้นพบมิติใหม่ของหัวใจตัวเอง
"ดวงวิญญาณของเรารู้จักกันมานานแสนนาน"
"ไม่ใช่เพียงจากชีวิตนี้... แต่อาจจะหลายภพหลายชาติที่ผ่านมาแล้วก็ได้"
และบางที...
เรื่องราวของ **ฉัน** **ของเขา** หรือ **ของเรา**
อาจยังมีบทต่อไป...
"ในรูปแบบที่ไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยก็เป็นได้...
บนเส้นทางใหม่ของฉัน ที่กำลังจะเริ่มขึ้น"
A love that asks for nothing, but lives on.
🌹ศรัทธาแห่งรัก... ในสายลม :
แม้ปลายทาง...ไม่มีเธอเคียงข้าง
แต่ใจฉัน... ยังวางไว้... อยู่ตรงนั้น
รักแท้... ยังครุกรุ่น... ในทุกวัน
เป็นภาพฝัน…ตราตรึง... แนบกลางใจ
เส้นทางของเรา...กลายเป็น... เส้นขนาน
แต่ความรัก... ไม่ร้าง...ไม่ห่างไกล
ความปรารถนาดี... แสนบริสุทธิ์... ในห้วงใจ
พร้อมมอบให้... ด้วยดวงใจ... ที่ศรัทธา…
โอ้เธอจ๋า...โอบกอดฉัน... เป็นครั้งสุดท้าย,
แม้ร่างกาย... สลาย... กลายผุยผงถมฟ้า
แต่ดวงวิญญาณแห่งรัก... จะมั่นคง... ตราบเวลา
แทรกอยู่ใน…สายลม ทุกครา... ทุกวันคืน…
◾Fern Foreveryoung ✍️🌹◾
เรื่องเล่า
blockdit
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย