22 มิ.ย. เวลา 01:00 • นิยาย เรื่องสั้น

ครั้งหนึ่ง....

เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
chaya
ครั้งหนึ่ง เขาเคยใจดีกับฉัน จนกระทั่งเกิดเรื่องเลวร้ายขึ้นหมาจรตัวหนึ่ง เราอยู่บ้านใกล้กัน ในซอยเดียวกัน ที่มีบ้านเรือนไม่มามากนัก เขาคือคุณตาใจดีที่ชอบเลี้ยงหมาแมวจร
บ้านของฉันอยู่ในซอยเล็กๆที่มีบ้านคนไม่ถึงสิบหลัง ฉันเป็นลูกสาวคนเล็กของครอบครัว พ่อของฉันทำงานรับจ้างทั่วไป ส่วนแม่เป็นแม่ค้าในตลาดสด มีพี่ชายพี่สาววัยกำลังเรียน ฉันที่พึ่งเริ่มชีวิตนักเรียนมอปลาย ทุกเช้าจะเดินออกจากซอยเพื่อมารอรถสองแถว บ้านหลังที่สองเป็นร้านขายของชำ ที่มีคุณตาแก่ๆเป็นเจ้าของ คุณตาใจดี ชอบเลี้ยงหมาแมว และมักจะแจกขนมให้เด็กในละแวกบ้านบ่อยๆ
ฉันเป็นหนึ่งในเด็กโชคดีเหล่านั้น ทุกครั้งที่เดินผ่านหน้าร้านของชำเล็กๆ ไม่ว่าเช้าหรือเย็น หากเจ้าของร้านเล็กๆอยู่หน้าร้านหรือมองเห็นเด็กๆ คุณตาจะกวักมือเรียกและยื่นซองขนมให้หนึ่งห่อหรือไม่ก็น้ำดื่มแต่งกลิ่นผลไม้หนึ่งขวดเสมอ วันนี้ก็เป็นอีกหนึ่งวันที่ฉันได้รับของขวัญพิเศษ พร้อมกับเด็กคนอื่นๆ รอยยิ้มบนใบหน้าเหี่ยวย่นดูอบอุ่นและใจดีเสมอ ฉันชอบและยินดีทุกครั้งที่ได้รับของขวัญเล็กๆน้อยๆนั้น
นอกจากใจดีแจกขนมให้เด็กๆแล้ว คุณตายังใจดีให้อาหารหมาแมวจรอีกด้วย จึงทำให้ที่หน้าร้านของชำมักจะมีหมาแมวมานอนเฝ้าอยู่เสมอ บางวันคุณตาก็คุยกับพวกมันเหมือนคุยกันรู้เรื่อง เสียงเล็กเสียงน้อยของคนมีอายุถูกเปล่งออกมาแผ่วเบาเมื่อพูดคุยกับพวกมัน ฉันอดยิ้มตามไปด้วยเสียไม่ได้ จนกระทั่ง เย็นวันหนึ่ง พี่ชายคนกลางของฉันกลับจากหอพักในเมือง
พี่ชายของฉันเป็นลูกชายคนเดียวของบ้าน เขาเป็นที่รักของพ่อและแม่เสมอ หลังจากจบมัธยมต้น เขาเลือกเรียนวิทยาลัยอาชีพในตัวเมือง เพราะระยะทางที่ไกลจึงจำเป็นต้องเช่าหอพักในตัวเมืองไปด้วย สัปดาห์หนึ่งพี่จึงจะกลับมาบ้านสักครั้ง และครังนี้พี่กลับมาพร้อมเพื่อนผู้หญิง เธอสดใสน่ารัก แต่ว่าเธอกลัวหมา และเมื่อต้องเดินผ่านหน้าร้านของคุณตาที่มีหมาจรเฝ้าอยู่ เธอแสดงอาการตื่นกลัว โยนก้อนหินใส่หมาจรหนึ่งตัว ทำให้มันกระโจนใส่และกัดเธอจนได้แผลขนาดใหญ่
ทั้งพ่อแม่ และพี่ชายต่างโมโหเจ้าหมาตัวนั้น ถึงฉันจะพยายามบอกว่าเธอโยนก้อนหินใส่มันก่อนพวกเขาก็ไม่ฟังฉัน ซ้ำยังอ้างว่าก็เพราะมันขู่เธอก่อนไง เธอถึงได้โยนก้อนหินใส่มัน ฉันอยู่ในเหตุการณ์ มันไม่จริงเลย หมาจรตัวนั้นแค่ผงกหัวขึ้นมาดูเธอเท่านั้น มันไม่ได้ขู่อะไรเธอเลย ฉันเดินผ่านทุกวันมันก็ไม่เคยทำอะไร เธอแค่กลัวไปเอง แต่ก็นั่นแหละ ไม่มีใครเชื่อฉัน พวกเขาเป็นห่วงเธอมากกว่าอะไร โดยเฉพาะพี่ชายของฉัน แสดงอาการโกรธจนออกนอกหน้า
หลังจากพาเธอผู้โชคร้ายส่งโรงพยาบาลเรียบร้อย พี่ชายและพ่อของฉันก็กลับมาบ้าน ก่อนจะออกไปอีกครั้งพร้อมด้ามไม้เนื้อแข็ง สักพักใหญ่ฉันได้ยินเสียงเอะอะโวยวาย ก่อนจะตามมาด้วยเสียงหมาจรร้องเสียงหลง และเสียงคุณตาเจ้าของร้านชำที่ร้องเหมือนจะขาดใจ ไม่นานพ่อและพี่ชายก็กลับมาพร้อมไม้ที่เปื้อนเลือด ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความยินดีปนสะใจ ฉันถามพวกเขาว่าทำอะไรลงไป แต่พวกเขาไม่ตอบฉัน และยังตะคอกใส่ฉันว่ามันไม่ใช่เรื่องของฉัน หลังจากนั้นทุกอย่างก็สงบเงียบ เสียงคุณตาที่ร้องด้วยความอาลัยอาวรเงียบลง
กระทั้งเช้าวันถัดมาฉันเดินออกจากบ้านไปรอรถสองแถวเพื่อไปโรงเรียนเหมือนเคย ฉันเดินผ่านหน้าร้านขายของชำเล็กๆที่มีคุณตาใจดีเป็นเจ้าของ คราบเลือดแห้งกังอยู่บริเวณหน้าบ้าน ฉันอยากขอโทษคุณตาแทนพ่อและพี่ชายจังเลย ฉันเห็นคุณตากำลังยืนแจกขนมให้เด็กๆในชุมชนด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม ฉันยิ้มคิดว่าคุณตาคงทำใจได้แล้ว ฉันเดินใกล้เข้าไปพร้อมรอยยิ้ม คุณตาหันมาเห็นฉันแล้วหุบยิ้ม ก่อนจะเดินเข้าร้านไปโดยไม่ทักทายฉันเหมือนเคย ไม่มีเสียงเรียกชื่อ มือกวักเรียกเพื่อไปรับขนมเหมือนอยากเคย
หลังจากวันนั้น ทุกครั้งที่ฉันเดินผ่านหน้าร้านขายของชำระของคุณตา ฉันจะได้รับการปฏิบัติที่ต่างออกไป คุณตาบึ้งตึงกับฉัน และบางครั้งฉันก็ได้ยินคุณตาสบถด่าครอบครัวของฉัน เสียงสาปแช่งมาพร้อมกับการถ่มน้ำลายลงพื้นอย่างหยาบคาย ฉันกลายเป็นเด็กคนเดียวที่ไม่ได้รับของขวัญพิเศษจากคุณตา
ครั้งหนึ่งเขาเคยใจดีกับฉัน จนกระทั่งหมาตัวนั้นถูกฆ่าตาย พ่อและพี่ชายที่เป็นคนลงมือ ไม่เคยรู้สึกรู้สาหรือสนใจสิ่งเกิดขึ้นหลังจากนั้นเลย ฉันกลายเป็นผู้รับผิดชอบในความผิดที่เกิดขึ้น ความผิดที่ฉันไม่ได้ก่อมันเลยสักนิด...
โฆษณา