22 มิ.ย. เวลา 16:57

การปลอบโยนสู่การเริ่มต้นใหม่

ที่ผ่านมาก็เป็นเหมือนเดิม เจ้านายก็เหมือนเดิมเพื่อนร่วมงานก็เหมือนเดิม ที่ไม่เหมือนเดิมอาจจะเป็นเรา หรือเราเคยชินกับมันแล้วกันแน่นะ
อาทิตย์นี้อาจจะเป็นการหลีกหนีปัญหาของเรา แต่เรากลับรู้สึกสบายใจอย่างแปลกๆ
จู่ๆน้องที่สนิทก็ทักมา ถามสารทุกข์สุกดิบ ท้ายที่สุดแล้วน้องก็เพิ่งรู้ว่าเราเจอเรื่องแย่มา น้องบอกว่าเห็นในไอจีพี่ดูปกติมาก เราเลยระบายให้น้องฟังเพราะว่าเราสนิทกันมากและเชื่อใจกันในระดับนึง จนเรารู้สึกว่าขอบคุณที่มีคนรับฟังเราอย่างสนิทใจ รับฟังที่แปลว่ารับฟังจริงๆไม่ใช่บอกให้เราอดทนผ่านมันไปให้ได้ เราได้ปลดล็อคความรู้สึกเห็นคุณค่าในตัวเองขึ้นมานิดนึง 55555
น้องเล่าประสบการณ์ที่น้องเคยเจอ ซึ่งเราได้ยินเราก็อึ้ง เพราะว่าน้องไม่เคยเล่าให้ฟังมาก่อน เรื่องนี้มันผ่านมาตั้งแต่สมัยม.ปลาย จนตอนนี้พวกเราวัยทำงานกันหมดแล้ว น้องบอกว่าสิ่งที่เราเจอมันอาจจะยาก แต่ให้เห็นคุณค่าและรักตัวเองไว้ รีบหนีออกมาจากสิ่งที่ทำให้เราไม่มีคุณค่าและไม่มีตัวตน มันไม่ใช่คำพูดปลอบโยนที่ดีเลยนะ แต่เราได้ยินแล้วเรารู้สึกได้รับคำปลอบโยนและรู้สึกมีความหวังขึ้นมา
อาทิตย์นี้ต้องขอบคุณน้องที่ทำให้เรารู้สึกมีไฟในการใช้ชีวิตมากยิ่งขึ้น และมีเป้าหมายว่าเราทำไปเพื่ออะไร อย่างน้อยที่สุดเป้าหมายของเราหลุดพ้นจากที่นี่ อย่างมากที่สุดคือเราจะประสบความสำเร็จและสมหวังกับสิ่งที่เราตั้งใจไว้
อาทิตย์นี้เป็นอาทิตย์ที่เราหันมาตั้งใจพัฒนาตัวเองอย่างมาก มีวินัยกับตัวเองมากขึ้น จริงๆมันเป็นเรื่องที่ยากมากกับการจะลงมือทำแล้วทำอย่างต่อเนื่อง ยอมรับว่ามีช่วงหมดไฟ แต่พอมานั่งตั้งใจแล้ว เราก็ทำได้นิ ถือเป็นการเริ่มต้นที่ดีใช่ไหมคะทุกคน 55555 ตอนนี้เป้าหมายของเราสำหรับอาทิตย์หน้าคือ ขอให้เราโฟกัสแบบนี้อย่างต่อเนื่องไปทั้งอาทิตย์ ทั้งเดือน เพื่อไปสู่เป้าหมายแห่งการหลุดพ้นและประสบความสำเร็จ
เราได้โฟกัสตัวเองมากขึ้นเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น แม้จะมีบางครั้งจะหงุดหงิดและอึดอัดกับสถานการณ์การทำงานที่เจอในทุกวัน เราไม่ได้พยายามมองข้าม แต่เราเลือกที่จะเข้าใจมันแล้วปล่อยให้มันเกิดขึ้นไปตามที่มันจะเกิด เราไม่ไปควบคุม ไม่ออกตัว อิกนอดีๆนี่เอง 5555
บางทีก็รู้สึกผิดที่ทำแบบนั้น หรือการที่เราทำแบบนี้ จะทำให้เราไม่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงานในอนาคตกันนะ แต่ใจเรามันบอกว่าเดินออกมาเถอะ ถ้าจะนั่งเป็นตัวประกอบของสังคมตรงนั้น มันก็ไม่ต่างอะไรกันกับสิ่งที่ทำอยู่ตอนนี้ เราจะเข้าไปสู่วัฏจักรวนเวียนเดิมๆสิ่งเดิมๆ ตั้งเป้าหมายไว้แล้วต้องทำให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเกิดจากความตัดสินใจของเราทั้งนั้น
ถ้ามันจะแย่ ถือว่าที่ผ่านมาฉันทำเต็มที่แล้ว ส่องกระจกแล้วบอกตัวเองว่า
วันนี้ฉันรักเธอแล้วนะ
ฉันพยายามหาจุดที่สบายใจให้กับเธอ เพื่อที่เธอจะได้โฟกัสเป้าหมายความเป็นตัวเธอและเรียกคุณค่าของมันออกมา
ทุกคนยังทำเรื่องแย่กับเราได้เลย เลิกเป็นคนที่ยอมคนแล้วหันกลับมารักตัวเองเยอะเยอะนะ ส่วนเรื่องหน้าที่การงาน “ถ้ามันใช่มันใช่ไปนานแล้ว ถ้าเขาจะเห็นค่าเราคงเห็นไปนานแล้ว เราไม่ต้องพิสูจน์ตัวเองกับใคร ทำงานให้เต็มที่และคือสิ่งที่เราต้องพิสูจน์ ถ้าไม่เห็นค่าแสดงว่าเราอยู่ไม่ถูกที่ พัฒนาองค์กรแต่เราไม่พัฒนานั่นหมายความว่ามันไม่ตอบโจทย์ เราคิดแบบนั้น เราหวังว่าการพัฒนาตัวเองของเราครั้งนี้ จะไปสู่เป้าหมายความสำเร็จที่เราตั้งใจไว้
อยากจะเล่าว่าตอนแรกมีช่วงหมดไฟกลางอาทิตย์ด้วยค่ะ ก็ฝืนตัวเองลุกขึ้นมาทำมันต่อ
วันนี้เป็นวันสุดท้ายของสัปดาห์นี้เป็นวันที่เราขี้เกียจมาก ผ่อนคลายตัวเองไปเยอะมาก จนเรารู้สึกผิดว่าเอ๊ะ ! เราลืมโฟกัสกับสิ่งที่เราตั้งใจไว้หรือเปล่า แต่มองย้อนกลับเรามาไกลมากเหมือนกัน จากที่เคยทำได้แค่ 1 อาทิตย์เดียวเราทำได้ถึง 3
เราตระหนักได้ว่า เราไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองขนาดนั้น ค่อยๆเดินก็ยังไปถึงเป้าหมายได้ แถมไปได้ไกลกว่าตอนที่กดดันตัวเองอีก ปล่อยใจดื่มด่ำกับธรรมชาติ คนที่เพิ่งเริ่มทำอะไรเพื่อตัวเองจะมีความสุขขนาดไหน? เห็นคนวิ่งออกกำลังกายที่สวนสาธารณะ เห็นคนพยายามทำบางสิ่งบางอย่างอย่างตั้งใจ ถ้าเป็นเราในแต่ก่อนเราคงมองว่าไร้สาระ แต่ตอนนี้เรากลับชื่นชมผู้คนเหล่านั้น ชื่นชมเขาที่เริ่มต้นและมีความสุขกับสิ่งที่ทำ เหมือนเราในตอนนี้ เป็นอาทิตย์ที่ขื่นขม 50% และมีความสุขอีก 50% แล้วกันค่ะ
ถือเป็นพัฒนาการที่มั้ยคะ 😆ขอให้พรุ่งนี้และวันต่อๆไป เดือนต่อๆไป ปีต่อๆไป หลังจากวินาทีนี้ฉันจะมีความสุขและประสบความสำเร็จกับสิ่งที่ฉันเลือก 💕 หวังว่าทุกคนที่เข้ามาอ่านจนถึงบรรทัดนี้ จะมีความสุขเช่นกันนะคะ ขอให้มีวันที่ดีคนดีๆ สิ่งดีๆรายล้อมนะคะ
โฆษณา