สรุปข่าว #เศรษฐกิจต้องรู้ ประจำวันที่ 23 มิถุนายน 2568
โดยมีหัวข้อข่าวที่น่าสนใจดังนี้
🔹 ทิสโก้ขายกองทุนเสี่ยงสูง
🔹 เหตุรบตะวันออกกลางทุบท่องเที่ยว
🔹 ชงครม.ต่อเวลาคุณสู้เราช่วย
📌ประเด็นเชิงบวก
- กลุ่มบีเจซีเล็งขยายลงทุนอาเซียน | ข่าวสด
นายอัศวิน เตชะเจริญวิกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี เปิดเผยว่า กลุ่มบีเจซี บิ๊กซี มุ่งขยายธุรกิจในประเทศภูมิภาคอาเซียนที่มีการเติบโตสูง โดยผลิตสินค้าและบริการ ตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ครอบคลุมกลุ่มธุรกิจที่หลากหลาย ได้แก่ กลุ่มสินค้าและบริการทางบรรจุภัณฑ์ กลุ่มสินค้าและบริการทางอุปโภคบริโภค กลุ่มสินค้าและบริการทางเวชภัณฑ์และทางเทคนิค และกลุ่มสินค้าและบริการทางการค้าปลีกสมัยใหม่
- 'นฤมล' หนุนปลูกกาแฟรับเทรนด์คาเฟ่บูม | ข่าวสด
นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ เปิดเผยว่า แนวโน้มของความนิยมบริโภคกาแฟในไทยสูงขึ้น ตามเทรนด์ธุรกิจร้านกาแฟที่ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง ในแต่ละปีไทยนำเข้ากาแฟจำนวนมาก เพื่อลดการนำเข้าต้องเร่งส่งเสริมเกษตรกรไทยปลูกกาแฟ โดยปี 2567 ไทยนำเข้ากาแฟทั้งในรูปเมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดกาแฟคั่ว กาแฟสำเร็จรูป และรูปแบบอื่นๆ มากกว่า 80,000 ตัน จากความต้องการบริโภคมากกว่า 95,500 ตัน
📌ประเด็นเชิงลบ
- หวั่นโรงแรม-เอสเอ็มอีเจ๊ง! | ไทยรัฐ
จี้ "นายกฯ อิ๊งค์" ต้านมติขึ้นค่าแรง 400 บาท สมาคมโรงแรม-สมาพันธ์ SME จี้นายกรัฐมนตรี ทบทวนมติขึ้นค่าแรง 400 บาทต่อวัน ชี้ขึ้นค่าแรงเฉพาะกลุ่มอาชีพไม่เป็นธรรม ซ้ำเติมธุรกิจท่องเที่ยวที่กำลังชะลอตัว ท่ามกลางเศรษฐกิจย่ำแย่ ด้าน SME หวั่นเลิกจ้าง-ปิดกิจการ
- เหตุรบตะวันออกกลางทุบท่องเที่ยว | ข่าวสด
'สรวงศ์' ชี้แค่ชะลอตลอดปี 68 นทท.ยังเติบโต "สรวงศ์" ชี้ความขัดแย้งตะวันออกกลางกดอิสราเอลชะลอการเดินทางมิ.ย. หวั่นสถานการณ์ลากยาวถึงปลายปี 68 กระทบเป้านักท่องเที่ยว
📌ประเด็นข่าวทั่วไป
- ทิสโก้ขายกองทุนเสี่ยงสูง | ข่าวสด
นายสาห์รัช ชัฎสุวรรณ กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทิสโก้ เปิดเผยว่า บริษัทประกาศเพิ่มทุน กองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า (TEMxCH) วงเงิน 1,200 ล้านบาท รับความต้องการลูกค้าเพิ่ม หลังลูกค้าให้ความสนใจค่อนข้างมาก โดยกองทุนเปิด ทิสโก้ อีเมอร์จิ้ง มาร์เก็ต เอ็กซ์ ไชน่า ความเสี่ยงระดับ 6 (เสี่ยงสูง)
สาเหตุหลักที่ทำให้กองทุน TEMxCH น่าสนใจมากขึ้น เนื่องจากการเมืองประเทศเกาหลีใต้มีเสถียรภาพขึ้น ขณะที่เศรษฐกิจของไต้หวันแข็งแกร่งขึ้นจากปัจจัยหนุนด้านการค้า และความเชื่อมั่นในธุรกิจ AI ที่เพิ่มขึ้น
- ชงครม.ต่อเวลาคุณสู้เราช่วย | เดลินิวส์
ดันลดเวลาเป็นหนี้เหลือ 1 วัน ขยายหนี้เน่าเพิ่มเป็น 1 หมื่นบ. นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยว่า กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) กำลังอยู่ระหว่างพิจารณาขยายเวลาโครงการคุณสู้ เราช่วย เพิ่มจากที่จะสิ้นสุด 30 มิ.ย.นี้ พร้อมกับปรับแก้เงื่อนไขในโครงการ โดยคาดว่าทั้งหมดนี้จะสามารถเสนอรายละเอียดทั้งหมดให้ ครม.เร็ว ๆ นี้
โดยจะขยายคุณสมบัติลูกหนี้ของมาตรการ "จ่ายตรง คงทรัพย์" จากเดิมที่ต้องค้างชำระเกิน 30 วันขึ้นไป ณ วันที่ 30 ต.ค.67 ปรับเป็นลูกหนี้ที่เคยมีประวัติค้างชำระ 1 วันขึ้นไป และเคยปรับโครงสร้างหนี้ เพื่อเป็นการขยายโอกาสให้ประชาชนเข้าร่วมมาตรการได้มากยิ่งขึ้น
- 'วิทัย' ชู 3 เรื่องดึงธปท.ติดดิน | เดลินิวส์
ดอกต่ำ-หนุนคลัง-อุ้มชาวบ้าน นายวิทัย รัตนากร ผู้อำนวยการธนาคารออมสิน หนึ่งในผู้สมัครคัดเลือกชิงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เปิดเผยว่า ธปท. มีบทบาทมากต่อการกำหนดนโยบายการเงิน เพื่อส่งต่อไปถึงระบบเศรษฐกิจของประเทศที่ในขณะนี้กำลังประสบปัญหาใหญ่ทั้งภาวะซึม การขยายตัวทางเศรษฐกิจหรือจีดีพีโตต่ำ
ขณะที่อัตราเงินเฟ้ออยู่ในระดับต่ำมายาวนาน ขณะเดียวกันยังเกิดคำถามว่าการที่เศรษฐกิจมหภาค ภาคการเงินมีเสถียรภาพมาก แต่เศรษฐกิจโดยรวมขยายตัวได้ต่ำ รายได้ของคนไม่ปรับสูงขึ้น เต็มไปด้วยปัญหาเชิงโครงสร้าง เช่น ปัญหาหนี้ครัวเรือน ความยากจน และปัญหาความเหลื่อมล้ำ เป็นเรื่องที่ถูกต้องหรือไม่
- สั่งแก้กฎหมายคุ้มครองผู้บริโภค ให้เท่าทัน ศก.-สังคม-เทคโนโลยี | ไทยรัฐ
นางสาวจิราพร สินธุไพร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า จากการที่สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภคได้รับข้อร้องเรียนจากผู้บริโภคในช่วงที่ผ่านมา ทำให้เห็นว่ากฎหมายที่ใช้ดูแลคุ้มครองผู้บริโภค เช่น พ.ร.บ.คุ้มครองผู้บริโภคปี 2522, พ.ร.บ.ขายตรงและตลาดแบบตรงปี 2545 มีข้อจำกัดในการรองรับบริบทเศรษฐกิจและสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว จึงสั่งให้ สคบ.เร่งทบทวนแก้ไขกฎหมายให้ทันสมัย ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจสังคมและเทคโนโลยี พร้อมยกระดับการคุ้มครองผู้บริโภคให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
- ดีอีไล่บี้! เฟกนิวส์ไทย-เขมร | ไทยรัฐ
นายเวทางค์ พ่วงทรัพย์ เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (BDE) ในฐานะโฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) กล่าวว่า ระหว่างวันที่ 13-19 มิ.ย.68 ตรวจพบข่าวปลอม (เฟกนิวส์) ที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงระหว่างประเทศไทยและกัมพูชา
ซึ่งสร้างความเข้าใจผิดและความสับสนให้แก่ประชาชนเป็นจำนวนมาก โดยพบข้อความที่เข้ามาทั้งหมด 849,898 ข้อความ โดยมีข้อความที่ต้องดำเนินการตรวจสอบ (Verify) ทั้งสิ้น 509 ข้อความ และต้องดำเนินการแก้ปัญหา 149 เรื่อง และจากการประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับผลการตรวจสอบกลับมาแล้ว 144 เรื่อง
--
ติดตามเราผ่าน
Facebook: เรียลลงทุน
X: เรียลลงทุน
Blockdit: เรียลลงทุน
YouTube: เรียลลงทุน
Line: @RealLongtun
Podcast: เรียลลงทุน
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
