Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
chaya
•
ติดตาม
24 มิ.ย. เวลา 06:18 • นิยาย เรื่องสั้น
ตอนนั้น....
เนื้อหาเรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องที่แต่งขึ้น โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่าน
chaya
ตอนนั้น ผมไม่ควรทำร้ายภรรยาของผมเลย ผมและเธอเป็นคู่สามีภรรยาธรรมดาทั่วไป ต่างคนต่างมีหน้าที่รับผิดชอบ ผมทำงาน เธอทำงาน เวลาของเราแทบไม่ตรงกันเลย
ผมในวัยยี่สิบตกหลุมรักสาวสวยหน้าตาดีเข้าอย่างจัง ผมพึ่งรู้ว่าเธอเรียนอยู่คณะเดียวกันก็ตอนเข้าปีที่สองแล้ว เธอโดดเด่นในหมู่เพื่อนร่วมชั้น เราเจอกันครั้งแรกในชั่วโมงเรียนวิชาหลักของคณะ เธอมีรอยยิ้มที่อ่อนหวาน สวยสะกดตาจนผมอดตกหลุมรักเสียไม่ได้ ไม่นานเราก็เริ่มสนิทกันหลังจากที่ได้ทำงานกลุ่มร่วมกัน เธอนิสัยดี น่ารัก และเป็นกันเอง แต่ถึงกระนั้นผมก็ใช้ความพยายามอย่างมากในการจีบเธอ
จนในที่สุดเธอใจอ่อน เราตกลงคบกันในฐานะคนรักอยู่ร่วมเจ็ดปี ผ่านทั้งสุขทุกข์ร้อนหนาวร่วมกัน จากรักมากก็รักมากว่าเดิม และแล้วในปีที่แปด ความรักที่ท่วมท้นก็ทำให้ผมตัดสินใจขอเธอแต่งงาน เพราะหัวใจที่ตรงกัน เธอตอบตกลงแทบในทันที ในงานแต่งงานเรามีความสุขกันมาก แม้กระทั่งผู้หลักผู้ใหญ่ก็ต่างยินดีมีความสุขไปกับเราทั้งคู่ ในงานแต่งงานที่เรียบง่าย เราต่างอยากใช้เวลาร่วมกันให้มากกว่านี้ แต่ด้วยพึ่งเริ่มต้นอนาคตร่วมกันอย่างจริงจัง เราจึงหยุดพักกันได้ไม่นาน เราทั้งคู่ต่างมุ่งมั่นสร้างอนาคตอันยั่งยืนให้ครอบครัว
เธอทำงาน ผมทำงาน การงานของเราก้าวหน้าไปอย่างน่าภูมิใจ ความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยาก็ดีเสียยิ่งกว่าที่คาดหวังเสียอีก เราต่างเป็นพลังใจให้กันและกัน จนกระทั่งเข้าปีที่สามของการแต่งงาน ภรรยาของผมเธอได้ตั้งครรภ์ลูกคนแรก เราทั้งคู้ต่างดีอกดีใจที่จะเป็นพ่อแม่ ชีวิตครอบครัวของเรากำลังจะสมบูรณ์ร้อยเปอร์เซ็นต์ โดยที่เราลืมคำนึงไปเลยว่ามีเรื่องยุ่งยากมากมายที่เรายังไม่รู้
เมื่อครบกำลังหนดคลอด ผมตั้งสินใจให้ภรรยาลาออกจากงานเพื่อเลี้ยงดูลูกโดยเฉพาะ ผมคิดว่านั้นเป็นการเสียสละ ผมจะแบกรับภาระในการหาเลี้ยงครอบครัวไว้เอง ให้เธอได้อยู่บ้านเลี้ยงลูกโดยไม่ต้องกังวลอะไร แต่แล้วเราเริ่มตระหนักได้ว่าการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องง่าย กลายเป็นเธอที่เสียสละในการทำงานหารายได้ เสียสละร่างกายมาเลี้ยงดูลูก เมื่อเป็นเช่นนั้นผมจึงพยายามทำงานหาเงินให้หนักขึ้น ทั้งผมและภรรยาต่างให้ความสำคัญกับลูกเป็นหลัก เราทั้งคู่ทุ่มเทในการเป็นพ่อแม่ที่ดี จนละเลยความสัมผัสฉันสามีภรรยา
นานวันเข้าเราเริ่มทะเลาะกัน เราเริ่มไม่เข้าใจกันจากเรื่องเล็กๆน้อยๆ ไปจนกระทั่งเรื่องใหญ่ของลูก เธอบ่นว่าเธอเหนื่อยเหลือเกินในการอยู่บ้านเลี้ยงลูก เหนื่อยมากกระทั่งปล่อยให้ร่างกายตัวเองทรุดโทรม เธอส่องกระจกแล้วเริ่มรู้สึกว่าตัวเองเปลี่ยนไป จากสาวสวยสะพรั่งกลายเป็นป้าแก่ๆ เธอต้องการหยุดและออกไปทำงานเช่นเดิม เมื่อผมได้ยินเช่นนั้นผมก็เริ่มไม่พอใจ ผมเองก็เหนื่อยไม่ต่างกัน ผมต้องออกไปทำงานทุกวัน บางครั้งต้องทนทำงานจนถึงดึกดื่นเพื่อผลงานและรายได้ที่มากขึ้น
จากวันนั้นเราเริ่มทะเลาะกันถี่ขึ้น ทั้งเรื่องการเลี้ยงลูกทั้งเรื่องการหารายได้เลี้ยงครอบครัว เธอต้องการพี่เลี้ยงเพื่อที่เธอจะออกไปทำงานหาเงินอีกทาง ผมคัดค้าน เพราะมันไม่มีความจำเป็น การที่ต้องหาพี่เลี้ยงมันไม่ได้ช่วยอะไรเลย มันเป็นการเพิ่มภาระมากกว่า ถึงเธอบอกจะทำงานหาเงินมาจ่ายค่าพี่เลี้ยงเอง แต่นั้นก็เท่ากับว่าผมยังคงต้องหารายได้เลี้ยงปากท้องครอบครัวเพียงคนเดียวเช่นเคย ในเมื่อภรรยาต้องจ่ายค่าพี่เลี้ยงแล้วค่าใช้จ่ายในบ้านใครจะจ่ายถ้าไม่ใช่ผม แบบนั้นมันไม่ถือว่าช่วยกันเลยสักนิด
และด้วยเหตุผลนั้นเราเริ่มคุยกันน้อยลง ส่วนใหญ่เราคุยกันแค่เรื่องลูก นอกนั้นเรามักจะทะเลาะกัน จนผมเริ่มเบื่อที่จะคุยกับเธอ นานวันเข้าผมก็เริ่มหาข้ออ้างเพื่อให้กลับบ้านได้ช้าลง รอให้เธอเข้านอนก่อนผมจึงกลับ มันดีกว่าที่ต้องกลับมาบ้านแล้วทะเลาะกัน และเพราะต้องนั่งอยู่ที่ทำงานโดยที่งานเสร็จหมดแล้ว ผมเริ่มว่างและมีเวลาได้พูดคุยเล่นกับเพื่อนร่วมงานที่เป็นลูกน้อง และนั่นทำให้ผมพึ่งรู้ว่ามีรุ่นน้องจากคณะเดียวกันเข้ามาอยู่ในทีมของผม
รุ่นน้องสาวที่พึ่งจบใหม่ เธอเป็นลูกน้องใต้บังคับงานของผม เธอเป็นเพื่อนคุยที่สนุกมากทีเดียว นิสัยขี้เล่นแถมยังมีมุมออดอ้อนเหมือนเด็กสาวที่ผมลืมไปแล้วว่าเคยผ่านมา ไม่นานความสัมพันธ์ของเราพัฒนาขึ้นจนมันเลยเถิด ผมได้แต่เงียบและขอโทษเธออยู่ในใจ เธอรู้ว่าผมมีภรรยาและลูก แต่ก็ยังยอมอยู่ในความสัมพันธ์แบบเงียบๆกันไปเรื่อยๆ แม้จะรู้ดีอยู่แก่ใจว่าผมไม่มีทางหย่าภรรยาและทิ้งลูกมาหาเธอได้ แต่เธอก็ยินยอมที่จะอยู่กับผม มันทำให้ผมเริ่มรักและเอ็นดูเธอมากขึ้นจนกระทั่ง...
วันที่ลูกของผมเติบโตมากพอจนอายุครบเกณฑ์เข้าเรียนชั้นอนุบาล ทันทีที่ลูกเข้าโรงเรียน ภรรยาของผมเธอก็ขอออกไปทำงาน ผมยินดีให้เธอได้ทำอย่างที่ต้องการโดยไม่ทักท้วงใดๆ จากนั้นความสัมพันธ์ของผมและภรรยาเริ่มดีขึ้น เราทะเลาะกันน้อยลง พูดคุยเรื่องอนาคตของลูกกันมากขึ้น ผมเริ่มห่างจากรุ่นน้องที่ผมมีความสัมพัธ์ด้วย เธอเองก็ดูรู้สถานะของตัวเองดี ยอมถอยห่างออกไปเงียบๆ จนกระทั่งในปีที่ลูกของผมเข้าเรียนชั้นอนุบาลที่สอง ผมได้รับเอกสารหมายศาลฟ้องหย่า
ผมรอเธอกลับมาบ้านด้วยความไม่เข้าใจ และทันทีที่เธอรู้ว่าผมได้รับหมายศาลเรียบร้อยแล้ว เธอจึงเริ่มขนของของเธอและลูกออกจากบ้าน ผมถามเธอด้วยความโมโหว่ามันเกิดอะไรขึ้น ก่อนที่เธอจะระเบิดออกมาในคราวเดียว เธอรับรู้เรื่องความสัมพันธ์ของผมและรุ่นน้องมาตั้งแต่ที่เริ่มมีความสัมพันธ์กันได้ไม่นาน เธอได้รับรู้เพราะเด็กคนนั้น รุ่นน้องที่ผมคิดว่าเรามีความสัมพันธ์กันอย่างเงียบๆ แต่กลับไม่ใช่เลย เธอคอยตามระรานภรรยาของผมตลอดที่เรามีความสัมพันธ์กัน ทั้งส่งข้อความ ทั้งโทรมาบอกให้ภรรยาผมรับรู้
ภรรยาของผมเคยทั้งด่าทั้งขอร้องให้เธอหยุด สาระพัดวิธีแต่ดูเหมือนยิ่งทำให้รุ่นน้องคนนั้นได้ใจ เธอจึงเปลี่ยนวิธีมานิ่งเงียบ แม้ในใจอยากจะตะโกนด่าทอผมทุกครั้งที่เห็นหน้า เธอเริ่มเก็บทุกอย่างให้เงียบไว้เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น อดทนกับสิ่งยัวยุที่หล่อนพยายามปลุกเล้า จนกระทั่งลูกเข้าโรงเรียน เธอจึงออกมาทำงานเพื่อยืนให้มั่นคง และดำเนินการฟ้องศาลเรื่องที่ผมคบชู้ และที่รุ่นน้องยอมถอยออกง่ายๆ ไม่ใช่เพราะเธอจำยอมในสถานะตัวเอง แต่เธอได้รับหมายศาลฟ้องชู้ด้วยเช่นกัน เดือดร้อนถึงพ่อแม่ของเธอ
เธอจึงยอมไกล่เกลี่ยและของให้ภรรยาของผมยอมความ แต่ภรรยาของผมไม่ยอมและเดินหน้าฟ้องสุดกำลัง ไม่ว่าจะด้วยศักดิ์ศรีหรืออะไร เธอจะไม่ยอมเจ็บปวดฝ่ายเดียว นั่นเองเป็นเหตุผลให้รุ่นน้องที่แสนน่ารักของผมยอมถอยจากความสัมพันธ์ของเรา จนกระทั่งลาออกจากบริษัทในที่สุด เป็นผมเองที่คิดผิดว่าเป็นการจบความสัมพันธ์ที่ง่ายดาย ผมลอยตัวเหนือปัญหา แต่เปล่าเลย ผมกำลังได้รับผลกรรมที่ทำไว้
ตอนนี้ผมโดนคดีฟ้องหย่า ภรรยาของผมย้ายกลับไปอยู่บ้านพ่อแม่ของเธอ ผมไม่ได้เจอหน้าลูกมาระยะหนึ่งแล้ว ที่บริษัทรับรู้และเริ่มลือไปต่างๆนานา ในที่สุดผมโดยให้ออกจากงานเพราะพฤติกรรมไม่เหมาะสมที่เกิดขึ้น และในตอนนี้ ผมกำลังนั่งอยู่ในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ ข้างๆมีทนายความของผม และฝั่งตรงข้ามเป็นภรรยาของผมและทนายความของเธอ ก่อนที่เธอจะกลายเป็นอดีตภรรยาของผมในที่สุด เรายอมตกลงไกล่เกลี่ยข้อพิพาทกันด้วยดี
เธอยอมให้จบเรื่องโดยที่ผมไม่ได้สิทธิ์เลี้ยงดูลูก เธอไม่ต้องการอะไรจากผมนอกจาก ผมต้องจ่ายค่าเลี้ยงดูให้ลูกจนกว่าจะเรียนจบ ผมมีสิทธิ์ได้เจอลูกแค่สัปดาห์ละหนึ่งวัน และเธอไม่ขอพบเจอผมทุกกรณี ไม่ว่าด้วยเหตุผลใดก็ตาม เธอยอมให้ผมไปรับลูกที่หน้าบ้านได้ แต่เธอจะไม่ออกมาเจอผม เราจบความสัมพันธ์ในฐานะสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ แต่ผมยังคงรักเธอเหมือนวันแรกที่รัก มันเป็นความรู้สึกจากใจของผมจริงๆ
ตอนนั้น ผมไม่ควรทำร้ายอดีตภรรยาของผมด้วยการสร้างความลับ แอบนอกใจเธอทั้งๆที่เธอกลายเป็นยายเพิ้งเลี้ยงลูกให้ผม ในวันสุดท้ายที่เราพบกัน ผมบอกเธอว่ายังคงรักเธอเหมือนวันแรกที่พบกัน เธอตอบผมกลับมาด้วยเสียงสั่นเครือ ผมคงรักเธอไม่มากพอ ผมถึงได้มอบความรักของผมให้คนอื่นไปด้วย ผมมันเห็นแก่ตัว....
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย