Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
BeautyInvestor
•
ติดตาม
24 มิ.ย. เวลา 12:43 • หุ้น & เศรษฐกิจ
‼️ โค้งสุดท้าย! เส้นตายการค้าทรัมป์จ่อคอหอย ประเทศไหนรอด ประเทศไหนร่วง
สวัสดีค่ะทุกคน เปลี่ยนโหมดกันบ้าง แต่ความตึงยังเหมือนเดิม ซึ่งก็คือ "เส้นตายการค้าทรัมป์"ค่ะ เดี๋ยวแอดจะพาทุกคนไปเจาะลึกสถานการณ์ของแต่ละประเทศกันแบบละเอียดๆ ค่ะ
เริ่มกันที่เส้นตายสำคัญก่อนเลย คือวันที่ 9 กรกฎาคม ที่ใกล้เข้ามาทุกที หากประเทศไหนยังไม่มีข้อตกลงการค้าทวิภาคีกับสหรัฐฯ ก็จะเจอกับกำแพงภาษีที่เรียกว่า "Liberation Day tariffs" ซึ่งสูงกว่าอัตราพื้นฐาน 10% ในปัจจุบันลิบลับเลยค่ะ
🇬🇧 ประเทศเดียวที่สอบผ่าน (แต่ก็ไม่ง่าย): สหราชอาณาจักร (UK)
ในบรรดาประเทศทั้งหมด มีเพียง UK เท่านั้นที่สามารถทำข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรได้สำเร็จ แต่ต้องบอกว่านี่ไม่ใช่ชัยชนะที่สวยหรูนะคะ เพราะในข้อตกลงนั้น UK ยังต้องยอมรับ อัตราภาษีตอบโต้ (reciprocal rate) ที่ 10% และที่สำคัญ ประเด็นที่สร้างความเจ็บปวดให้อุตสาหกรรมอังกฤษอย่าง ภาษีเหล็ก 25% ก็ยังไม่ถูกยกเลิก เรียกได้ว่าเป็นการยอมแลกเพื่อให้ได้ข้อตกลงมาอยู่ในมือก่อนนั่นเองค่ะ
🇪🇺 ยักษ์ใหญ่ที่ยังตั้งการ์ดสูง: สหภาพยุโรป (EU)
สำหรับ EU สถานการณ์ยังคงเป็นการชิงไหวชิงพริบกันอยู่ค่ะ ทางออกที่ดีที่สุดที่คาดหวังได้ในตอนนี้ คือการบรรลุ "ข้อตกลงในหลักการ" เพื่อซื้อเวลาเจรจาต่อไปหลังเส้นตาย แต่ดูเหมือนทรัมป์จะเริ่มหมดความอดทนนะคะ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่แล้วเพิ่งออกมาบ่นเรื่องการเจรจากับ EU พร้อมขู่ว่าจะล้มโต๊ะแล้วหันไปใช้มาตรการภาษีฝ่ายเดียวเลยด้วยซ้ำ
1
ในขณะที่ฝั่ง EU เองก็เตรียมพร้อมค่ะ พวกเขาจะประเมินผลลัพธ์สุดท้ายอย่างละเอียด และตัดสินใจว่าจะยอมรับความไม่สมดุลได้แค่ไหน หรือจะเดินหน้าใช้มาตรการตอบโต้ทางการค้าเพื่อรักษาสมดุลค่ะ
🌏 สมรภูมิเอเชีย: เดิมพันสูงและเกมที่แตกต่าง
ข้ามมาดูฝั่งเอเชียที่สถานการณ์หลากหลายและส่งผลกระทบกับบ้านเราโดยตรงกันบ้างค่ะ
1
🇹🇭 ประเทศไทย (Thailand)
ต้องบอกว่าสถานการณ์ของเราน่ากังวลเป็นพิเศษ เพราะอัตราภาษีที่ถูกขู่ไว้นั้นสูงถึง 36% แต่การเจรจาเพิ่งจะเริ่มต้นอย่างเป็นทางการเมื่อสัปดาห์ที่แล้วนี่เอง
โดยเมื่อวันพุธที่ผ่านมา ท่านปลัดกระทรวงพาณิชย์ วุฒิไกร ลีวีระพันธุ์ ได้ให้สัมภาษณ์ว่าข้อเสนอของไทยนั้นดี และมีโอกาสที่จะเจรจาให้อัตราภาษีลดลงมาเหลือ 10% ได้ ซึ่งทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังก็ได้ออกมายืนยันเมื่อวันอังคารว่าข้อเสนออย่างเป็นทางการได้ถูกยื่นให้วอชิงตันแล้ว และกำลังอยู่ในขั้นตอนการเจรจารายละเอียดเชิงลึกกันอยู่ค่ะ
อย่าลืมว่าสหรัฐฯ คือตลาดส่งออกอันดับ 1 ของเราในปีที่แล้ว คิดเป็นสัดส่วนเกือบ 20% ของการส่งออกทั้งหมด เดิมพันครั้งนี้สูงมากจริงๆ ค่ะ
🇯🇵 ญี่ปุ่น (Japan)
กำแพงที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่นคือ "ภาษีรถยนต์" ค่ะ การเจรจาระหว่าง ประธานาธิบดีทรัมป์ และ นายกรัฐมนตรีชิเงรุ อิชิบะ ในการประชุม G7 ที่แคนาดาล้มเหลว แม้ว่าจะมีการโทรศัพท์คุยกันก่อนหน้านั้นถึง 3 ครั้งก็ตาม
โยชิฮิโกะ โนดะ ผู้นำฝ่ายค้านของญี่ปุ่นถึงกับบอกว่าประเด็นที่สหรัฐฯ กังวลที่สุดคือการขาดดุลการค้าในอุตสาหกรรมรถยนต์ และตอนนี้ยังไม่มีฉันทามติใดๆ เลย
หากตกลงกันไม่ได้ ญี่ปุ่นเสี่ยงที่จะโดนภาษีเพิ่มอีก 24% ทับซ้อนเข้าไปกับภาษีรถยนต์ 25% และภาษีเหล็ก/อะลูมิเนียม 50% ที่มีอยู่แล้ว ถือว่าหนักหนาสาหัสมากค่ะ
1
🇮🇳 อินเดีย (India)
ทั้งสองฝ่ายยังคงอยากได้ข้อตกลงเฉพาะหน้าก่อนเส้นตาย แต่ก็ยังชนกันอยู่ในประเด็นสำคัญ โดยทางด้านสหรัฐฯ ต้องการเปิดตลาดอินเดียสำหรับ พืชผล GMO ซึ่งเป็นสิ่งที่อินเดียปฏิเสธมาตลอด
ในขณะที่อินเดียต้องการให้สหรัฐฯ ยกเว้นภาษีตอบโต้และภาษีรายอุตสาหกรรมให้ แถมล่าสุดอินเดียยังพลาดโอกาสสำคัญในการเจรจา เมื่อทรัมป์เดินทางออกจากที่ประชุม G7 ในแคนาดาก่อนกำหนดอีกด้วย
🇰🇷 เกาหลีใต้ (South Korea)
การเจรจายังไม่มีความคืบหน้าเป็นชิ้นเป็นอัน ยอ ฮัน-กู รัฐมนตรีการค้าคนใหม่ เพิ่งเดินทางไปวอชิงตันเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน เพื่อพยายามขอการยกเว้นภาษีต่างๆ รวมถึงภาษีรถยนต์และเหล็กที่โดนอยู่แล้ว ซ้ำร้าย การประชุมที่วางแผนไว้ระหว่าง ประธานาธิบดีอี แจ-มย็อง และทรัมป์ที่ G7 ก็ถูกยกเลิกไปในนาทีสุดท้ายเพราะทรัมป์เดินทางกลับก่อน ตอนนี้เกาหลีใต้จึงเสี่ยงอย่างยิ่งที่จะโดนภาษี 25% ค่ะ
🇻🇳 เวียดนาม (Vietnam)
เวียดนามกำลังเดินเกมรุกอย่างหนัก โต เลิม ผู้นำพรรคคอมมิวนิสต์ เตรียมนำคณะเจ้าหน้าที่และนักธุรกิจเดินทางไปสหรัฐฯ เพื่อพบกับทรัมป์โดยตรง พร้อมยื่นข้อเสนอขอซื้อสินค้าอเมริกันเพิ่มขึ้น ตั้งแต่ เครื่องบินโบอิ้ง ไปจนถึงสินค้าเกษตร เพื่อแลกกับข้อตกลงที่คาดหวังว่าอัตราภาษีจะอยู่ในช่วง 20-25%
🇲🇾 มาเลเซีย (Malaysia)
นายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิม กล่าวว่าการเจรจากับสหรัฐฯ "เป็นไปด้วยดี" หลังจากเจ้าหน้าที่ได้พบกับ โฮเวิร์ด ลัทนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ของสหรัฐฯ ท่านนายกฯ ยอมรับว่าการเก็บภาษีของสหรัฐฯ ถือเป็น "ความท้าทายที่สำคัญ" โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อ 60% ของสินค้าเซมิคอนดักเตอร์ ของมาเลเซียส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพียงแห่งเดียว
ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเร่งเจรจาให้จบก่อนเส้นตาย โดยมาเลเซียตั้งเป้าให้ภาษีลดลงต่ำกว่า 10%
✅ กลุ่มประเทศอื่นๆ ที่สถานการณ์น่าสนใจ
🇨🇭 สวิตเซอร์แลนด์ (Switzerland)
ประเทศเล็กๆ ในยุโรปแห่งนี้ก็โดนขู่ภาษีในอัตราสูงเช่นกัน โดย กี ปาร์เมอแล็ง รัฐมนตรีเศรษฐกิจ ได้เสนอแนวทางประนีประนอมโดยจะผ่อนคลายการเข้าถึงตลาดสำหรับสินค้าเกษตรบางรายการ แต่เรื่องกลับซับซ้อนขึ้นไปอีกเมื่อกระทรวงการคลังสหรัฐฯ เพิ่งประกาศ เพิ่มชื่อสวิตเซอร์แลนด์ในบัญชีประเทศที่ต้องจับตาเรื่องค่าเงิน แถมสัปดาห์ที่แล้ว ธนาคารกลางสวิสยังต้อง ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากนโยบายการค้าของทรัมป์ที่ทำให้เงินฟรังก์สวิสแข็งค่าขึ้นอย่างรวดเร็ว
🌎 เพื่อนบ้านอเมริกาเหนือ (Canada & Mexico)
🇨🇦 แคนาดา
นายกรัฐมนตรีมาร์ก คาร์นีย์ ได้พบกับทรัมป์นอกรอบการประชุม G7 และตั้งเป้าจะทำข้อตกลงให้ได้ภายในกลางเดือนกรกฎาคม แต่ทรัมป์ก็ยังบ่นว่าทั้งสองประเทศยังมีความเห็นต่างกันอยู่ โดยเฉพาะประเด็นเรื่องผู้อพยพที่ไม่มีเอกสารและปัญหายาเสพติดเฟนทานิลตามแนวชายแดน ตอนนี้แคนาดาก็เตรียมพร้อมที่จะขึ้นภาษีตอบโต้เหล็กและอะลูมิเนียม (ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่ 25%) หากการเจรจาหยุดชะงัก
🇲🇽 เม็กซิโก
ใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับสหรัฐฯ ที่จะยกเลิก ภาษีเหล็ก 50% โดยแลกกับการจำกัดปริมาณการส่งออก (tariff cap) ประธานาธิบดีคลาวเดีย เชนบาม ก็คาดว่าจะได้พบกับทรัมป์เร็วๆ นี้ หลังจากที่การพบกันครั้งก่อนถูกยกเลิกไป
🎯 สรุปและความเห็นส่วนตัว
จะเห็นได้ว่าทุกประเทศต่างมีแรงกดดันและเงื่อนไขที่แตกต่างกันไป เกมการเจรจานี้ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลาจริงๆ ค่ะ สองสัปดาห์ข้างหน้านี้จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องจับตาดูแบบห้ามกะพริบเลยค่ะ
1
ส่วนตัวเดาว่าน่าจะมีดีลออกมาอีก และอาจขยายเวลาการเจรจาให้กับบางประเทศที่ข้อตกลงใกล้เคียงความจริง แต่สำหรับประเทศที่ยังไม่สามารถเจรจาได้ อาจได้เห็นภาษีกลับไปที่ระดับเดิมก่อนมีการ pause ค่ะ
ส่วนประเทศที่เจรจาได้ คาดว่าสุดท้ายแล้ว ยังไงๆ ภาษีไม่น่าต่ำกว่า 10% ซึ่งจะเป็นเงื่อนไขเดียวกับที่ UK ได้รับไปนั่นเองค่ะ
การลงทุน
การเงิน
เศรษฐกิจ
2 บันทึก
16
1
2
16
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย