วิบากรรม “หุ้น KTC” ทิ้งดิ่งติด Floor ลือเจอ Force sell หนัก
วิบากรรม “หุ้น KTC” ทิ้งดิ่งติด Floor ลือเจอ Force sell หนัก 10,000 ล้านบาท โบรกฯ แนะจับตาอาจมีการบังคับขายต่ออีกหาก
ความร้อนแรงของหุ้นไทยในช่วงที่ผ่านมา KTC ทิ้งดิ่งติด Floor หรือลงมาอยู่ในราคาที่ต่ำสุด ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่ ตลาดหลักทรัพย์ฯ ประกาศมาตรการชั่วคราวรองรับความผันผวนของหุ้น ด้วยการปรับเกณฑ์ Ceiling & Floor และ Dynamic Price Band จาก -30% มาเป็น -15%
KTC หรือ บมจ.บัตรกรุงไทย ราคาหุ้นวันที่ 24 มิ.ย.ร่วงติดฟลอร์ -15%ตามเกณฑ์ชั่วคราวของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่ระดับ 29.50 บาท ลดลง 5.25 บาท หรือ -15.11% มูลค่าการซื้อขายกว่า 513 ล้านบาท
หุ้น KTC หรือ บมจ.บัตรกรุงไทย
ซึ่งมีกระแสข่าวว่า ผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน KTC ถูกบังคับขาย หรือ Force sell และมีรายงานจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย สรุปหลักทรัพย์ที่ใช้เป็นหลักประกันการชำระหนี้ในบัญชีมาร์จิ้นของตลาดหลักทรัพย์ วันที่ 30 พ.ค. 2568 พบว่ามีการนำ KTC มาใช้เป็นหลักประกัน 420.2 ล้านหุ้น คิดเป็น 16.3%ของจำนวนหุ้นทั้งหมดมูลค่าราวๆ 1 หมื่นล้านบาท
ข้อมูลจาก บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า ผลการดำเนินงานของ KTC ยังคงเป็นปกติ แม้สถานการณ์เศรษฐกิจแม้ไม่ค่อยดีนัก ขณะที่การติดตามทวงถามหนี้ยังทำได้ใกล้เคียงเดิม ดังนั้น โบรกเกอร์ จึงเชื่อว่าการปรับตัวลดลงหนักของราคาหุ้น KTC ไม่น่าจะมาจากการเปลี่ยนแปลงของปัจจัยพื้นฐานของหุ้นแต่อย่างใด ดังนั้น จึงมีโอกาสที่จะเป็นการถูก Force sell ตามที่เป็นกระแสข่าว
เพราะ KTC มีลักษณะธุรกิจ ประกอบธุรกิจบัตรเครดิต และที่เกี่ยวเนื่องกับธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจร้านค้ารับบัตร การให้บริการรับชำระเงินแทน และธุรกิจสินเชื่อบุคคล ครอบคลุมไปถึงสินเชื่อส่วนบุคคลภายใต้การกำกับและสินเชื่อที่มีทะเบียนรถเป็นประกัน ธุรกิจสินเชื่อรายย่อยเพื่อการประกอบอาชีพภายใต้การกำกับ ธุรกิจเงินอิเล็กทรอนิกส์ ธุรกิจเช่าซื้อและธุรกิจลีสซิ่ง
ผลประกอบการไตรมาส 1 ปี 2568 มีกำไรสุทธิ 1,861 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.2% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2567 โดยรายได้รวมอยู่ที่ 6,832 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1% เทียบกับช่วงเดียวกันปี 2567
ขณะที่ธุรกิจเรือธง คือ บัตรเครดิต ไตรมาส 1 ปีนี้ KTC มีสมาชิกรวมทั้งหมด 3,486,729 บัญชี เป็นบัตรเครดิต 2,769,551 บัตร เพิ่มขึ้น 3.8% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว และสินเชื่อบุคคล 690,178 บัญชี ลดลง 5.2% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว ปริมาณการใช้เจ่ายผ่านบัตรเครดิต 2 เดือนแรก ปีนี้ มีมูลค่า 48,288 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3,101 ล้านบาท หรือ คิดเป็น 6.9% จากช่วงเดียวกันปีที่แล้ว
ส่วน ราคาหุ้น KTC เคยพุ่งขึ้นไปทำจัดสููงสุด 90.25 บาท ต่อหุ้นในช่วงปี 2564 มูลค่าบริษัทพุ่งขึ้นไปสูงถึง 2.3 แสนล้านบาท แต่ ณ วันนี้ 25 มิ.ย.2568 ราคายังลงต่อ อยู่ที่ 23.60 บาทต่อหุ้น ลดลง 5.60% เวลาประมาณ 11 นาฬิกา
โบรกเกอร์ฯ จึงระบุว่า ต้องจับตาดูหุ้น KTC หากถูก Force sell จริง ถ้านักลงทุนที่นำหุ้น KTC ไปวางเป็นหลักประกัน ไม่สามารถหาหลักประกันมาวางเพิ่ม หรือนำเงินมาจ่ายชำระหนี้ได้ อาจมีการบังคับขายต่อในวันนี้ได้อีก
ฟอร์ซเซลล์ (Force Sell) คืออะไร
ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย บอกว่า Forced Sell เกิดขึ้นเมื่อนักลงทุนนำหลักทรัพย์ไปค้ำประกันเงินกู้กับบริษัทหลักทรัพย์ และราคาของหลักทรัพย์นั้นปรับลดลงจนต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดไว้ บริษัทหลักทรัพย์จะมีสิทธิบังคับขายหลักทรัพย์เหล่านั้นเพื่อชำระหนี้
ซึ่งจะส่งผลให้ราคาหุ้นร่วงลงอย่างรวดเร็ว และอาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อนักลงทุนรายอื่น ๆ ที่ถือหุ้นอยู่ในบริษัทเดียวกัน (ระดับ Forced Sell หากราคาหุ้นปรับลดลง จนหลักประกันอยู่ระดับต่ำกว่าระดับบังคับขาย ถ้าไม่วางหลักประกันเพิ่มภายในเวลาที่กำหนด จะถูกบังคับขายในวันที่ T+1
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
Facebook PPTVHD36 : https://www.facebook.com/PPTVHD36
YouTube : www.youtube.com/@PPTVHD36
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
