26 มิ.ย. เวลา 12:00 • ไลฟ์สไตล์

Active Income ต่อให้มากแค่ไหนก็ไม่พอให้ชีวิตมั่นคง

บทเรียนจาก “นิก เดอะสตาร์” เมื่อความสามารถไม่ใช่คำตอบเดียวของความมั่นคงทางการเงิน
ในยุคที่รายได้สามารถเกิดขึ้นได้เพียงชั่วข้ามคืน จากชื่อเสียงหรือความสามารถเพียงชั่ววูบ หลายคนอาจเข้าใจผิดว่า “มีรายได้มาก” เท่ากับ “มีความมั่นคงทางการเงิน” แต่ในความเป็นจริงความสามารถในการหาเงิน ไม่ได้การันตีว่าเราจะรักษาเงินนั้นไว้ได้ หากขาดวินัยในการจัดการ และไม่มีการวางแผนเพื่ออนาคต
‘คนดังกับการเงิน’ สัปดาห์นี้ เราได้ไปรวบรวมเรื่องจริงของ คุณนิก รณวีร์ เสรีรัตน์ หรือที่หลายคนรู้จักกันในชื่อ “นิก เดอะสตาร์” หนึ่งในศิลปินที่เคยเป็นที่รักของคนทั้งประเทศ ที่ครั้งหนึ่งเคยเกือบพลาดท่าให้กับ ชื่อเสียง และรายได้ที่เข้ามาจากความสามารถของตนเอง
[ 🪽 ชีวิตติดลมบนของ นิก เดอะสตาร์ ]
คุณนิก พื้นเพเป็นคนมหาสารคาม เกิดมาในครอบครัวที่คุณพ่อทำอาชีพเป็นครูและนักดนตรี สกิลการร้องเพลงก็ได้มาจากการที่พ่อสอนมาตั้งแต่เล็กๆ
เขาเล่าเรื่องนี้ไว้ในรายการ #ร้อง​กับซี ไว้ว่า
“จริงๆ แล้วไม่ได้อยากเป็นนักร้องสักเท่าไหร่ เพราะเราเห็นอยู่ทุกวันจนชินตา — แต่ตอน ม.ปลาย เริ่มมีเพื่อนเกเร พ่อคิดว่าถ้าอยู่แบบนี้คงไม่รอดเลยมีกุศโลบายให้ลองไปประกวด The Star ให้ดู ถ้าเก่งจริงต้องชนะ”
แม้จะไม่เคยประกวดเวทีไหนมาก่อน แต่เขาก็มั่นใจในความสามารถตัวเองในระดับหนึ่งจึงตัดสินใจรับคำท้าของพ่อ ไปประกวดรายการ The Star เวทีแรก พอถึงคิวก็เข้าไปร้องเพลง ร้องแค่ 30 วินาทีแล้วออกมาเลย ก็คิดในใจว่าอาจจะตกรอบหรือเปล่า แต่ทีมงานก็นัดให้เขามาอีกวันพรุ่งนี้
จากนั้น ก็เข้ารอบ และได้เป็นรองแชมป์ เดอะสตาร์ 2 ได้มีซิงเกิลในตำนาน อย่าง ‘เธอคือหัวใจของฉัน’ ซึ่งเขาก็เป็นเดอะสตาร์คนแรกของซีซันนั้นที่มีเพลงที่แต่งเองและได้ออกอัลบั้มแรกของตัวเอง
มีการเปิดเผยว่ารายได้ของเขาในช่วงเวลานั้นถือว่าอยู่ในระดับสูง และเข้ามาอย่างต่อเนื่อง คุณนิกเคยให้สัมภาษณ์ไว้กับ #springnews ไว้ด้วยว่า เมื่อก่อนได้เงินค่าลิขสิทธิ์เพลงประมาณเดือนละแสนกว่าบาท
ตั้งแต่นั้นมา ชื่อของ ‘นิก เดอะสตาร์’ ก็ติดลมบนกลายเป็นนักร้อง นักแสดง มีผลงานเด่นอย่างซิทคอม “ผู้กองเจ้าเสน่ห์” และมีชื่อเสียงเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แม้จะไม่ได้เห็นคุณนิกเล่นในบทบาทนำที่โดดเด่น เป็นพระเอกอะไร แต่คุณนิกก็ไม่เคยหายหน้าไปจากอีเวนต์หรือละคร
คุณนิกให้สัมภาษณ์กับสื่อที่ #TheBearBangkok ไว้ว่า “เราได้เงินมา เราก็ใช้ไป ใช้ชีวิตอยู่กับเพื่อน เปลี่ยนกลุ่มเพื่อนใหม่ ก็เลี้ยงเพื่อน— เราเคยใช้สูงสุดวันละแสนกว่าบาท แต่ไม่ใช้ทุกวัน เราซื้อทุกอย่างที่เราอยากได้”
จนกระทั่งเกิดโควิด
“ก่อนโควิดถึงแม้ว่างานของเราจะไม่ได้เยอะมาก แต่ในแต่ละเดือนก็จะมีงานเข้ามา 4-5 งาน แต่พอโควิดมางานก็หายไปเลย 4-5 เดือน” คุณนิกเล่า
พอถึงจุดนั้น เขาก็ได้เรียนรู้ว่าความไม่แน่นอนมันคือสิ่งที่แน่นอนที่สุดแล้ว
[ 🫥 เมื่อ Active Income หายไป ]
คุณนิกเล่าว่า วิกฤตครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อรายได้ของเขาเริ่มลดลง ทั้งจากการเปลี่ยนแปลงในวงการบันเทิง การปิดตัวของสถานที่ทำงานในช่วงโควิด-19
“จากเงิน 7 หลักในบัญชีมันก็ค่อยๆ ลดลงมาเรื่อยๆ ตอนนั้นเราก็คิดว่าน่าจะมีเงินจากทางอื่นมาซัพพอร์ตเราไป ไม่ว่าจะละครใหม่หรือซิงเกิลใหม่ แต่สุดท้ายมันก็ไม่เป็นไปตามเป้า”
สถานการณ์นี้ของคุณนิกสะท้อนถึงความเสี่ยงของการพึ่งพารายได้แบบ Active Income โดยไม่มีแหล่งรายได้สำรอง ซึ่งสถานการณ์ตรงนี้นับเป็นความเข้าใจผิดที่ทำให้ชีวิตทางการเงินของคนจำนวนมากเปราะบาง
หลายคนเคยชินกับการใช้แรงทำงานเพื่อให้เกิดรายได้ ไม่ว่าจะเป็น ทำงานประจำรับเงินเดือน เป็นฟรีแลนซ์ได้รับค่าจ้างเมื่อทำงานเสร็จ จนทำให้เผลอคิดว่าเรามีกระแสรายรับสม่ำเสมอ ยิ่งสามารถหารายได้เสริมได้ก็จะมีรายได้เพิ่มมากขึ้น และลืมฉุกคิดไปในที่สุดว่า วันหนึ่งเราจะต้องมีวันที่ต้องหยุดทำงานเพราะไม่มีแรงทำงาน
คุณนิกยอมรับอย่างตรงไปตรงมา เขาเคยหลงเชื่อผิดๆ ว่าความสามารถจะอยู่กับเขาไปตลอด นี่คือความประมาทที่หลายคนอาจเผลอตกอยู่ในกับดักเดียวกัน
คุณนิกกล่าว่า
“พอเราได้รับเดอะสตาร์มา เราก็หลงระเริงในชื่อเสียงของเราในช่วงเวลานั้น เราไม่ได้บริหารจัดการว่าต้องมีอาชีพไหนสำรองไว้ไหม เราคิดว่าเราร้องเพลงและสำรองเล่นละครก็น่าจะพอแล้ว แต่จริงๆ แล้วมันไม่พอ”
“ถ้าให้พูดตรงๆ เลยก็คือเป็นคนหนึ่งที่วางแผนในชีวิตผิดพลาดไป แล้วก็ค่อนข้างมั่นใจในความสามารถที่เรามีอยู่และคิดว่ามันจะคงอยู่กับเราไปตลอด แต่สุดท้ายก็ไม่เป็นไปอย่างที่คิดไว้ และได้ผลลัพธ์ออกมาเป็นแบบนี้”
[ 📍เรื่องเงินก็เรื่องหนึ่งแต่ที่เครียดที่สุดคือ ‘สุขภาพ’ ]
ช่วงที่เกิดวิกฤติตรงนั้นคุณนิกเล่าว่า เขารู้สึกทรมานและเครียดเรื่องสุขภาพมากกว่าการไม่มีเงินเสียอีก เขาบอกว่า เขาเสียดายที่ประมาทและไม่ได้ดูแลสุขภาพตั้งแต่เนิ่นๆ
“เราใช้ชีวิตประมาท กินสุด ไม่พักผ่อน ไม่ออกกำลังกาย”
คุณนิกให้สัมภาษณ์ไว้ว่าเขามีปัญหาสุขภาพส่วนตัวอย่างโรคเกาต์ ความดัน และเบาหวาน ซึ่งล้วนกระทบโดยตรงต่ออาชีพนักร้อง ทำให้เหนื่อยง่าย เมื่อมีอาการทางสุขภาพที่ไม่ค่อยดีก็จะส่งผลต่ออินเนอร์ในการร้องเพลง ทำให้ไม่สามารถใช้ศักยภาพได้อย่างเต็มที่เท่าที่ควร
“เรามาคิดได้ทีหลังว่า สิ่งที่เกิดขึ้นมันไม่ได้เกิดจากสิ่งแวดล้อมหรอก แต่มันเกิดจากที่เราวางแผนได้ไม่ดีและปฎิบัติกับตัวเองได้ไม่สมบูรณ์ทำให้มาเกิดผลกระทบในช่วงเวลานั้น”
ในช่วงเวลาที่ปัญหาเริ่มรุมเร้า รายได้ลดลง งานไม่มี เงินในบัญชีร่อยหรอลงเรื่อยๆ คุณนิกตัดสินใจกลับไปอยู่ที่บ้านเกิดในจังหวัดมหาสารคาม เพื่อพักใจและทบทวนชีวิต และที่นั่นเอง เขาได้เห็นภาพพ่อของเขา ที่ยังรับงานเล่นดนตรีอยู่เหมือนเดิม
คุณนิกเล่าไว้ว่า พ่อของเขาจะต้องขึ้นร้องเพลงตอนเที่ยงถึงประมาณ 4 โมงเย็น แต่เช้ามาพ่อก็เริ่มตั้งเครื่องเสียงตั้งแต่ 10 โมง ขนของเอง เซ็ตอุปกรณ์เอง และพอถึงเวลา ก็เล่นอย่างเต็มที่ ไม่บ่น ไม่ถอย พ่อของคุณนิกบอกกับคุณนิกว่า
"ก็ถ้าในเมื่อเขาให้ความเชื่อกับเรามาแล้ว ว่าเราคือคนที่สามารถสร้างบรรยากาศให้ร้านเขามีความสุนทรีได้ ทำไมเราถึงไม่ตอบแทนเขาด้วยสิ่งที่เราสามารถทำได้ล่ะลูก"
ซึ่งประโยคนี้ของพ่อทำให้คุณนิกกลับมามีไฟ และกลับมามีความเชื่อมั่นในตัวเองและกลับมาลุยงานเพลงอีกครั้ง
“ผมก็จะพยายามทำให้ดีที่สุด ถึงแม้ว่าได้มากน้อยแค่ไหนก็ไม่เป็นไร แต่อย่างน้อยเราตั้งใจทำก็ยังดีกว่าเราไม่ตั้งใจเลย” คุณนิกกล่าวทิ้งท้ายไว้ในรายการ #ร้องกับซี ซึ่งน่าจะเป็นรายการล่าสุดที่คุณนิกได้ไปสัมภาษณ์ยาวๆ
[ ✅ บทเรียนสำหรับคนทำงานทุกคน ]
เรื่องราวของนิก เดอะสตาร์ อาจดูไกลตัวสำหรับบางคน แต่ในความเป็นจริง หลายคนอาจกำลังอยู่ในสถานะเดียวกันโดยไม่รู้ตัว คือมีรายได้ดี มีงานหลักที่มั่นคง แต่ขาดแผนสำรอง
บทเรียนจากกรณีนี้สามารถสรุปได้เป็นข้อคิดสำคัญดังนี้
1.รายได้มาก ไม่สำคัญเท่าการจัดการกับมันได้ดีแค่ไหน
2.อย่าพึ่งพา Active Income อย่างเดียว ควรเริ่มวางแผนสร้าง Passive Income หรือรายได้สำรองแต่เนิ่นๆ
3
3.Lifestyle Inflation คือกับดักที่นุ่มนวลแต่อันตราย จงใช้ชีวิตให้ต่ำกว่าฐานะเพื่อรักษาเสถียรภาพระยะยาว
4. สุขภาพคือทรัพย์สินทางการเงิน สุขภาพที่ดีคือทุนในการหารายได้ หากละเลย อาจต้องจ่ายแพงกว่าที่คิด
5. ความสามารถไม่ได้การันตีความมั่นคง คนที่มั่นคงคือคนที่วางแผนรองรับทุกสถานการณ์ ไม่ใช่การมีศักยภาพเพียงอย่างเดียว
ผลงานเพลงของคุณนิก
เสียความทรงจำ - นิก รณวีร์(Official MV)
อ้างอิง:
“นิก เดอะสตาร์” ชีวิตเปลี่ยน จากเงินหลักล้านเกือบหมดตัว
ชีวิตดาวหล่นฟ้าของ ‘นิก เดอะสตาร์’ ในวันที่ชีวิตตกต่ำจนอยากเลิกร้องเพลง!
SING WITH ME ร้อง​กับซี EP.50 | นิก เดอะสตาร์ การกลับมาของดาวไร้แสง
#aomMONEY #บทเรียนการเงิน #การเงินส่วนบุคคล #นิกเดอะสตาร์ #NickTheStar
โฆษณา