5 ก.ค. เวลา 04:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

📸 มองอ้อมมุมด้วยกล้องมือถือ? | เทคโนโลยีที่เปลี่ยนกำแพงให้เป็น "กระจก" แบบเรียลไทม์

เวลาแสงกระทบกำแพงหรือผนังห้องที่ดูเรียบๆ มันจะสะท้อนกระจัดกระจายจนกลายเป็นแค่ภาพเบลอๆ ที่ไม่มีความหมาย... แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าเราสามารถ "ถอดรหัส" ความเบลอนั้น และสร้างภาพของสิ่งที่ซ่อนอยู่อีกฝั่งหนึ่งของมุมกำแพงขึ้นมาได้?
นี่คือ เทคโนโลยีมองอ้อมมุม (Non-Line-of-Sight Imaging) สุดล้ำที่อาจเปลี่ยนกล้องสมาร์ทโฟนธรรมดาๆ ของคุณ ให้กลายเป็นอุปกรณ์แบบในหนังสายลับได้เลยครับ
💡 Q&A ฉบับย่อยง่าย: เทคโนโลยีมองอ้อมมุม
Q: เทคโนโลยีมองอ้อมมุมคืออะไร?
A: คือเทคโนโลยีที่ใช้อัลกอริทึมคอมพิวเตอร์เพื่อ "ถอดรหัส" แสงที่สะท้อนจากพื้นผิวอย่างกำแพง ทำให้สามารถสร้างภาพของวัตถุที่ซ่อนอยู่หลังมุมหรือสิ่งกีดขวางขึ้นมาได้
Q: เทคโนโลยีนี้ทำงานอย่างไร?
A: มันใช้กล้องธรรมดา (เช่น กล้องมือถือ) ถ่ายภาพแสงที่กระจัดกระจายบนกำแพงซ้ำๆ จากนั้นอัลกอริทึมจะวิเคราะห์รูปแบบแสงนั้นเพื่อสร้างภาพของต้นตอแสงที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาใหม่ เปรียบเหมือนการเปลี่ยนกำแพงให้เป็นกระจกเงาแบบดิจิทัล
Q: เราจะใช้เทคโนโลยีนี้ในชีวิตจริงได้อย่างไร?
A: มีประโยชน์มหาศาลในอนาคต เช่น ช่วยทีมกู้ภัยค้นหาผู้รอดชีวิตในอาคารถล่ม หรือช่วยให้รถยนต์ไร้คนขับ "มองเห็น" สิ่งกีดขวางที่โผล่มาจากมุมตึกได้ล่วงหน้า
🎯 เป้าหมาย: เปลี่ยนกำแพงหยาบให้เป็นกระจกเงา
"โดยปกติแล้ว เมื่อแสงสะท้อนออกจากพื้นผิวที่หยาบ เช่น กำแพง มันจะทำให้ฉากนั้นปนเปกันจนกลายเป็นภาพเบลอที่ยุ่งเหยิง" เหวินเหิน หลี่ (Wenwen Li) จาก University of Science and Technology of China กล่าว "เป้าหมายของเราคือการ 'คลายความยุ่งเหยิง' ของภาพเบลอนั้นและกู้คืนฉากที่ซ่อนอยู่ ลองนึกภาพว่ามันเหมือนกับการเปลี่ยนกำแพงหยาบๆ ให้กลายเป็นกระจกเงา"
วิธีการนี้เกี่ยวข้องกับการทำแผนที่รูปทรงเรขาคณิตและการสะท้อนแสงของพื้นผิวกำแพง โดยการถ่ายภาพจำนวนมากภายใต้สภาพแสงที่แตกต่างกัน เพื่อสร้างแบบจำลองดิจิทัลของพื้นผิวขึ้นมา จากนั้นจึงใช้สมการเพื่อสร้างภาพที่ซ่อนอยู่ขึ้นมาใหม่จากรูปแบบแสงที่กระจัดกระจายนั้น
และที่น่าทึ่งที่สุดคือ... หลี่และทีมงานของเธอประสบความสำเร็จในการสาธิต การสร้างภาพแบบเรียลไทม์ที่ 25 เฟรมต่อวินาที โดยใช้กล้องธรรมดา เหมือนกับกล้องที่พบได้ในสมาร์ทโฟนทั่วไป!
🚀 ข้อจำกัดสำคัญและก้าวต่อไป
อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีนี้ยังมีข้อจำกัดที่สำคัญอยู่ ณ ตอนนี้ เทคนิคนี้สามารถสร้างภาพได้เฉพาะกับวัตถุที่ "เปล่งแสงได้ด้วยตัวเอง" เท่านั้น เช่น หน้าจอ LCD และจอแสดงผลของสมาร์ทโฟน
"วัตถุส่วนใหญ่ทำได้เพียงสะท้อนแสงจากสภาพแวดล้อม แต่สิ่งนี้ส่งผลให้ความแม่นยำในการสร้างภาพลดลง" หลี่กล่าว ทีมงานหวังว่าจะจัดการกับปัญหานี้โดยการพัฒนาอัลกอริทึมใหม่ๆ สำหรับวัตถุที่หลากหลายมากขึ้น
หลี่กล่าวว่า เมื่อเทคโนโลยีก้าวหน้ามากขึ้น มันอาจมีแอปพลิเคชันที่หลากหลายอย่างยิ่ง "สำหรับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมาย มันสามารถให้ความสามารถแก่เจ้าหน้าที่ในการสแกนพื้นที่อันตรายได้อย่างปลอดภัยก่อนที่จะเข้าไป" เธอกล่าว
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
ศักยภาพของเทคโนโลยี "มองอ้อมมุม" นี้ไม่ได้จำกัดอยู่แค่ในหนังสายลับหรือการทหารเท่านั้น แต่มันสามารถนำมาประยุกต์ใช้ในบริบทที่ใกล้ตัวเราได้อย่างน่าทึ่ง
ลองนึกภาพทีมกู้ภัยในประเทศไทยที่สามารถใช้เทคโนโลยีนี้สำรวจภายในอาคารที่ถล่มลงมา เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตโดยไม่ต้องเข้าไปเสี่ยงในพื้นที่ที่ไม่มั่นคง หรือใช้ในการออกแบบ "รถยนต์ไร้คนขับ" ให้สามารถ "มองเห็น" เด็กหรือสิ่งกีดขวางที่พรวดพราดออกมาจากมุมตึกได้ล่วงหน้าเพื่อป้องกันอุบัติเหตุ หรือแม้กระทั่งใน วงการแพทย์ ที่อาจนำไปพัฒนาเป็นเครื่องมือส่องตรวจภายในร่างกาย (Endoscope) ที่สามารถมองเห็นรอบๆ อวัยวะหรือเนื้องอกได้โดยไม่ต้องหมุนกล้อง
นี่คือศักยภาพที่เทคโนโลยีนี้อาจมอบความปลอดภัยให้กับชีวิตประจำวันของเราได้ในอนาคต
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ เปลี่ยนกำแพงเป็นกล้อง: นักวิจัยได้พัฒนาอัลกอริทึมที่สามารถ "ถอดรหัส" แสงที่สะท้อนจากกำแพง เพื่อสร้างภาพของวัตถุที่ซ่อนอยู่หลังมุมได้
✅ ทำงานแบบเรียลไทม์: เทคนิคนี้สามารถสร้างภาพเคลื่อนไหวได้ที่ 25 เฟรมต่อวินาที โดยใช้เพียงกล้องธรรมดาอย่างกล้องสมาร์ทโฟน
✅ เปรียบเหมือนกระจก: แนวคิดหลักคือการทำความเข้าใจพื้นผิวของกำแพงอย่างละเอียด จนสามารถใช้มันเป็นเหมือน "กระจก" ที่สะท้อนภาพที่ซ่อนอยู่ได้
✅ ข้อจำกัดปัจจุบัน: ตอนนี้ยังใช้ได้ดีกับวัตถุที่เปล่งแสงเองได้เท่านั้น เช่น หน้าจอโทรศัพท์
✅ ศักยภาพในอนาคต: เทคโนโลยีนี้อาจมีประโยชน์อย่างยิ่งในการบังคับใช้กฎหมาย, การค้นหาและกู้ภัย, และการพัฒนารถยนต์ไร้คนขับ
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
เทคโนโลยี "มองอ้อมมุม" นี้ทำให้คุณนึกถึงการใช้งานในด้านไหนอีกบ้างครับ? และคุณคิดว่ามันมี ข้อกังวลด้านความเป็นส่วนตัว (Privacy Concerns) ที่เราต้องพิจารณาควบคู่กันไปหรือไม่ อย่างไร?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องนี้น่าสนใจ กด 'บันทึก' 🔖 หรือ 'แชร์' ชวนเพื่อนทึ่งไปด้วยกันนะครับ! 🤩
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Li, W., et al. (2025). Turning rough surfaces into non-line-of-sight cameras. Optica. http://doi.org/pp2m
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
วิทยาศาสตร์คือการพยายาม "มองเห็น" ในสิ่งที่มองไม่เห็น และ "ทำความเข้าใจ" ในสิ่งที่ยังไม่มีใครเข้าใจ...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการทำหน้าที่เป็น "เลนส์" ที่จะช่วยส่องเข้าไปในโลกวิทยาศาสตร์ที่ซับซ้อน แล้วสะท้อนออกมาเป็นเรื่องราวที่ทุกคนมองเห็นและเข้าใจได้
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้ "เลนส์" ของเราคมชัดและสามารถจับภาพความรู้ที่น่าทึ่งเหล่านี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา