6 ก.ค. เวลา 04:30 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

⚰️ ไขคดี 1,200 ปี 'เสียง' จากโครงกระดูกนิรนาม | และหลักฐานความรุนแรงทางเพศที่ถูกซ่อนในประวัติศาสตร์

ในปี 2014 ขณะที่ แมดเดลิน แมนต์ (Madeleine Mant) กำลังทำวิทยานิพนธ์ปริญญาเอกอยู่ที่พิพิธภัณฑ์ลอนดอน เธอได้พบกับโครงกระดูกร่างหนึ่งที่น่าสนใจเป็นพิเศษ... มันเป็นโครงกระดูกของผู้หญิงที่ถูกดึงขึ้นมาจากแม่น้ำเทมส์ในปี 1991 และถูกระบุว่าเป็น "การประหารชีวิต" ในยุคกลางตอนต้น
แต่เธอกลับรู้สึกว่าเรื่องราวมันซับซ้อนกว่านั้น และการตรวจสอบใหม่อย่างละเอียดก็ได้เผยให้เห็นความจริงที่ทั้งน่าสะพรึงและน่าเศร้า มันไม่ใช่แค่การประหารชีวิต แต่เป็นเรื่องราวของการทรมาน, การสังหาร, และการประจาน ที่อาจเป็นหลักฐานโดยตรงของ "ความรุนแรงทางเพศ" ที่เคยถูกซ่อนไว้ในหน้าประวัติศาสตร์
สรุปสั้นๆ: นักโบราณคดีได้ไขปริศนาโครงกระดูกหญิงอายุ 1,200 ปีที่พบริมแม่น้ำเทมส์ในลอนดอน พบหลักฐานว่าเธอไม่ได้ถูกประหารชีวิตทันที แต่ถูกทรมานอย่างหนักเป็นเวลาหลายสัปดาห์ การค้นพบนี้ถือเป็นหลักฐานสำคัญของ "ความรุนแรงทางเพศ" ที่เคยถูกซ่อนไว้ในประวัติศาสตร์ยุคกลาง
📜 หนึ่งเดียวในบันทึกประวัติศาสตร์
ผู้หญิงคนหนึ่งถูกทรมานเป็นเวลาหลายวัน, ถูกสังหาร, และจากนั้นร่างของเธอก็ถูกนำไปวางประจานไว้ที่ริมฝั่งแม่น้ำเทมส์ใจกลางกรุงลอนดอนเมื่อประมาณ 1,200 ปีก่อน กรณีนี้ถูกคิดว่าเป็นหนึ่งในตัวอย่างเดียวของการ "ประหารชีวิตผู้หญิงโดยกระบวนการยุติธรรม" ในยุคกลางของอังกฤษที่เคยค้นพบในบันทึกทางโบราณคดี
ก่อนหน้านี้ นักวิทยาศาสตร์ได้ศึกษาซากศพนี้แล้วและได้ทำการหาอายุด้วยวิธีเรดิโอคาร์บอน และได้บรรยายกรณีนี้ไว้ว่าเป็นการประหารชีวิตในยุคกลางตอนต้น แต่แมนต์รู้สึกว่าเรื่องราวยังมีอะไรมากกว่านั้น
📅 ลำดับเหตุการณ์อันโหดร้าย
ตลอดทศวรรษต่อมา แมนต์และทีมงานของเธอได้ทำการตรวจสอบรูปแบบการบาดเจ็บของโครงกระดูกอีกครั้งด้วยกล้องจุลทรรศน์กำลังขยายสูง และทำการวิเคราะห์ทางเคมีกับฟันของเธอ ผลการวิเคราะห์ได้เผยให้เห็นลำดับเหตุการณ์ที่น่าสะพรึงกลัว:
• การทรมาน: รอยแตกที่ "หายแล้วบางส่วน" บนกระดูกสะบักของเธอ ชี้ให้เห็นว่าเธอต้องทนทุกข์ทรมานจากการทุบตีหรือการเฆี่ยนอย่างหนักเป็นเวลาประมาณ สองสัปดาห์ก่อน ที่จะได้รับบาดแผลถึงแก่ชีวิต
• การสังหาร: เธอได้รับบาดแผลฉกรรจ์ที่ขากรรไกรและกะโหลกศีรษะซึ่งทำให้เสียชีวิต
• การประจาน: ร่างของเธอถูกทิ้งไว้บนพื้นผิวตะกอนโคลน และอาจถูกล้อมรอบด้วยเสาไม้เพื่อให้ทุกคนได้เห็น
🧩 ปริศนาทางโบราณคดี: ทำไมเธอถึงถูกลงโทษอย่างโหดร้าย?
ทำไมผู้หญิงคนนี้ถึงได้รับการปฏิบัติเช่นนี้ยังคงเป็นปริศนา ในขณะที่กฎหมายในสมัยนั้นอนุญาตให้มีการลงโทษประหารชีวิตได้ แต่คนส่วนใหญ่ที่ถูกประหารคือผู้ชาย และมักจะใช้วิธีการตัดศีรษะ
แต่สำหรับกรณีของผู้หญิงคนนี้ การปฏิบัติต่อเธอนั้นโหดร้ายและเป็นการประจานต่อสาธารณะอย่างผิดปกติ สำหรับแมนต์แล้ว ผลการค้นพบนี้ชี้ไปที่ "ความรุนแรงทางเพศ" (gendered violence) ที่เกิดขึ้นอย่างเป็นระบบ
และนี่คือเหตุผลว่าทำไมเรื่องนี้ถึงสำคัญ... "ความรุนแรงทางเพศตลอดช่วงเวลาที่ผ่านมามักจะเป็นเรื่องส่วนตัวและถูกซุกซ่อนไว้" แมนต์กล่าว "ผู้หญิงเหล่านี้เฝ้ารอคอยมานานหลายร้อยปีเพื่อที่จะถูกค้นพบอีกครั้ง และเพื่อให้เรื่องราวของพวกเธอถูกพูดถึง และตอนนี้ เราสามารถทำให้พวกเธอกลับมามีชีวิตอยู่ได้ด้วยการศึกษาพวกเธอและพูดถึงพวกเธอ"
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
เรื่องราวของผู้หญิงนิรนามจากยุคกลางนี้ คือเครื่องย้ำเตือนที่ทรงพลังว่า "ความรุนแรงทางเพศ" เป็นปัญหาที่หยั่งรากลึกในประวัติศาสตร์ของมนุษย์ และบ่อยครั้งที่เรื่องราวของเหยื่อผู้หญิงถูกทำให้เงียบหายหรือถูกลบเลือนไป
การทำงานของนักโบราณคดีในวันนี้จึงไม่ใช่แค่การขุดหาอดีต แต่คือการต่อสู้เพื่อให้ "เสียง" ของผู้ที่ถูกกระทำได้ดังขึ้นมาอีกครั้ง เพื่อเป็นบทเรียนและเครื่องเตือนใจให้กับสังคม ไม่ว่าเรื่องราวนั้นจะเกิดขึ้นในลอนดอนเมื่อ 1,200 ปีก่อน หรือในสังคมไทยปัจจุบันก็ตาม
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ คดีปริศนา 1,200 ปี: นักโบราณคดีได้ตรวจสอบโครงกระดูกของผู้หญิงที่ถูกประหารในลอนดอนยุคกลาง และพบความจริงที่น่าสะพรึง
✅ ไม่ใช่แค่การประหาร: เธอไม่ได้ถูกประหารทันที แต่มีหลักฐานว่าเธอถูก "ทรมาน" จากการทุบตีหรือเฆี่ยนเป็นเวลาหลายสัปดาห์ก่อนเสียชีวิต
✅ ถูกประจานหลังความตาย: ร่างของเธอไม่ได้ถูกฝัง แต่ถูกนำไปวางประจานริมแม่น้ำเทมส์ โดยมีเสาไม้ปักล้อมไว้
✅ หนึ่งเดียวในประวัติศาสตร์: กรณีนี้ถือเป็นหนึ่งในตัวอย่างเดียวของการประหารชีวิตผู้หญิงอย่างเป็นทางการในอังกฤษยุคกลางที่เคยค้นพบ
✅ เสียงจากอดีต: นักวิจัยชี้ว่านี่อาจเป็นหลักฐานของ "ความรุนแรงทางเพศ" และการศึกษาเรื่องราวของเธอคือการคืนเสียงให้กับเหยื่อที่ถูกทำให้เงียบหายไปในประวัติศาสตร์
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
การ "คืนเสียง" ให้กับเหยื่อในประวัติศาสตร์เช่นนี้ มีความหมายกับคุณอย่างไร? และคุณคิดว่าเราจะเรียนรู้อะไรจากเรื่องราวของเธอเพื่อสร้างสังคมปัจจุบันให้ดีขึ้นได้บ้าง?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องราวนี้มีความหมาย 💾 ลองบันทึกเก็บไว้อ่านทบทวน หรือส่งต่อประเด็นนี้ไปให้เพื่อนๆ เพื่อที่ "เสียง" ของเธอจะได้ไม่ถูกลืมเลือนไปตามกาลเวลา 💬
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Mant, M., et al. (2025). Evidence for punishment and execution on the foreshore: a unique early medieval burial (680–810 AD) from London. World Archaeology. http://doi.org/ppvm
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
ประวัติศาสตร์มักจะถูกเขียนโดยผู้ชนะ แต่บ่อยครั้งที่วิทยาศาสตร์ทำหน้าที่ตรงกันข้าม คือการมอบ "เสียง" ให้กับผู้ที่ถูกลืมและถูกทำให้เงียบงัน...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการพยายามค้นหาและเล่าขาน "เรื่องราว" ที่ซ่อนอยู่ในงานวิจัยและข้อมูลที่ซับซ้อน เพื่อให้ความจริงได้ปรากฏ
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถทำหน้าที่ "คืนเสียง" ให้กับเรื่องราวที่สำคัญเหล่านี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา