27 มิ.ย. เวลา 05:35 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

กองทัพอากาศลาวจะมี FA-50 หรือไม่

สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านบทความนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความต่อๆไป
สำหรับท่านใดที่มีเรื่องใดน่าสนใจ ท่านสามารถส่ง inbox ข้อความมาได้ที่ Facebook Supakrit Falcon หากเรื่องใดโดนใจผู้เขียนจะนำเรื่องราวไปศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อเตรียมการเสนอครั้งต่อไป
ก่อนหน้าที่จะทำบทความนี้ ผู้เขียนไถดูฟีดบนแอปฟ้า ปรากฎว่าไปพบภาพเครื่องบินรบแบบหนึ่ง ผู้เขียนก็คิดในใจว่าน่าจะ FA-50 ไม่ก็ T-50 ผู้เขียนเลยเกิดความฉงนจึงไปหาข้อมูลในอากู๋ พบว่าเป็น FA-50 ไม่ใช่ T-50 แบบที่ผู้เขียนคิด FA-50 ทำให้ผู้เขียนเกิดแรงบันดาลใจขึ้นมา บทความนี้จะเป็นเชิงให้สาระและให้ทุกท่านชวนคิดว่าจะมีหรือไม่ที่เครื่องบินขับไล่แบบนี้จะประจำการในกองทัพอากาศที่อิงค่ายคอมมิวนิสต์อย่างกองทัพอากาศลาว
▶️เครื่องบินขับไล่แบบใหม่ของลาว
ปี 2020 ลาวยกฐานะ "กรมทหารอากาศ" เป็น  "กองทัพอากาศลาว"  ขึ้นมาและจ้างให้บริษัทรัสเซียปรับปรุงสนามบิน เพื่อรองรับเครื่องบินรบ ที่คาดว่ารัสเซียจะมอบให้ (ในปี 2016 เดิม รัสเซียจะมอบเครื่องบิน MiG-29 มือสองให้ลาว พร้อมรถถัง T-72 ) ในโอกาสนี้ลาวจึงซื้อเครื่องบินฝึกรัสเซีย Yak-130 มาใช้งาน และสร้างความพร้อมรบ
แต่สุดท้ายรัสเซียมีปัญหา ตอนเกิดสงครามยูเครน มีผลกระทบถึงประเทศผู้ใช้งานอาวุธอย่าง พม่า ลาว เวียดนาม ครั้นใน ปี 2023-2024 กองทัพอากาศลาวจึงหันไปให้จีนทำสนามบินทหารชื่อ "สนามบินเชียงขวาง" ให้แทนและซื้อเครื่องบินรบจีนแทน คือ K-8W  จำนวน 4 เครื่อง
ได้รับการส่งมอบเมื่อวันที่ 27 ธันวาคมค.ศ. 2023 โดยก่อนนี้ มีข่าวว่า ลาว ให้ความสนใจ JF-17  JL-9/FTC-2000 หรือ ดีกว่านั้นก็ต้อง J-10 เชื่อไหมฮะ ท่านผู้อ่านกับผู้เขียนมีคำถามเดียวกันคือ "ลาวจะเอาเงินจากไหนมาซื้อ" พี่รัชต์มีคำตอบคือกู้ไงครับ คนใช้หนี้ คือ "ประเทศ" ไม่ใช่ "คนลงนามซื้อ"
ขนาดกัมพูชายังไม่มีเงินจะซื้อ J-10 เลย ทีนี้วนกลับมาประเทศลาว จะเกิดอะไรขึ้นหากกองทัพอากาศลาวมีเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาจากเกาหลีใต้อย่าง FA-50 นี่เป็นการสมมุติเพราะในความเป็นจริงก็ไม่รู้ว่าลาวจะใช้อาวุธจีน อาวุธรัสเซียไปถึงไหน อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้นในอนาคตตามที่คาดเดาอาจเป็นจริงก็ได้
▶️เจาะลึก FA-50 เครื่องบินขับไล่ขนาดเบา
ก่อนอื่นเราจะมาทำความรู้จักกับ FA-50 กันก่อนนะครับว่ามันคืออะไร  FA-50 เป็นเครื่องบินขับไล่ที่พัฒนามาจาก T-50 เพื่อสานงานต่อจากเครื่องบินขับไล่รุ่นใหญ่อย่าง F-5 สำหรับกองทัพอากาศเกาหลีใต้ โดยมีความต้องการในการบำรุงรักษาและต้นทุนปฏิบัติการต่ำ
ถ้าเทียบกันไซส์เดียวกันแล้ว FA-50 มีความสามารถใกล้เคียงกับ JL-9 ของจีน และ JF-17 ที่ปากีสถานกับจีนร่วมกันสร้าง แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพการบินที่จำกัดกว่าและยังคงช้ากว่าเครื่องบินรบทั้งสองแบบอย่างเห็นได้ชัด เครื่องบินรบรุ่นนี้สามารถทำความเร็วได้เหนือเสียงที่ความเร็ว 1.5 ใช้เครื่องยนต์ General Electric F404 ให้แรงขับสูงสุด 17,700
เครื่องบินขับไล่ FA-50 มีขีดความสามารถในการติดตั้งอาวุธยุทโธปกรณ์ที่หลากหลาย ในการทำภารกิจการรบทางอากาศ การโจมตีภาคพื้นดิน มันสามารถติดตั้งขีปนาวุธ AIM-9 Sidewinder สำหรับภารกิจการรบทางอากาศได้อีกด้วย อีกทั้งยังสมารถใช้ระเบิดนำวิถีและไม่นำวิถีได้ ปัจจุบันนี้เครื่องบินขับไล่ FA-50 เป็นที่นิยมสำหรับกองทัพอากาศที่มีงบประมาณไม่สูง
ปัจจุบันเกาหลีใต้มีบริษัทอุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่มีความเข้มแข็งและยิ่งใหญ่ สามารถผลิตอาวุธยุทโธปกรณ์ขีดความสามารถสูงได้หลากหลายที่นำมาใช้เองในประเทศผู้ผลิตและขายให้กับพันธมิตรหลายประเทศ FA-50 คือหนึ่งใน “เรือธง” ที่โด่งดัง
ท่านผู้อ่านคงจะทราบดีว่าปัจจุบันเกาหลีเหนือและเกาหลีใต้ยังไม่ได้มีความสงบที่แท้จริง สภาพปัจจุบันเป็นเพียงหยุดยิงแต่ไม่ได้สงบศึก และทั้งสองประเทศยังคงมีโอกาสที่จะสู้รบกันตลอดเวลา ด้วยเหตุนี้จึงทำให้ FA-50 คือหนึ่งในฝูงบินหลักที่กองทัพอากาศเกาหลีใต้ที่ใช้ในการป้องกันประเทศหากเกิดสงครามกับเกาหลีเหนือ
ปัจจุบัน FA-50 มีใช้งานในอิรัก ไทย โปแลนด์และเกาหลีใต้ ในขณะที่เครื่องบินฝึกขับไล่ T-50 ใช้งานโดยอินโดนีเซียและไทยด้วย ไม่เพียงแต่การผลิต FA-50 ให้ขายดิบขายดี ปัจจุบันบริษัท Korea Aerospace Industries (KAI) กำลังพัฒนาเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 ภายใต้โครงการ KF-X ซึ่งคาดว่าจะคุ้มต้นทุนมากกว่าคู่แข่งจากตะวันตก เช่น F-35 โดยเครื่องบินขับไล่ล่องหนที่ว่านี้คาดว่าจะทำตลาดในฟิลิปปินส์และลูกค้าในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้รายอื่นๆ ต่อจากเครื่องบินขับไล่ขนาดเบาสัญชาติเกาหลี
ในภูมิภาคเอเชียอเมริกาให้ความสำคัญกับภูมิภาคนี้ในการประจำการฝูงบินขับไล่ F-35 ในขณะที่เครื่องบินขับไล่ขนาดเบา FA-50 ยังคงมีขีดความสามารถสำหรับรับมือความขัดแย้งต่ำเกินไป
เนื่องจากเครื่องบินขับไล่แบบดังกล่าวอาจเสียเปรียบอย่างมหาศาลให้กับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 อย่าง J-20 ของจีน ที่มีขนาดใหญ่กว่า มีเรดาร์ที่ใหญ่กว่า ตรวจจับได้ไกลกว่าและมีขีปนาวุธอากาศสู่อากาศแบบ PL-15 ที่พิสัยไกลกว่าหลายเท่า ซึ่งเมื่อรวมกับความสามารถในการล่องหนและระบบควบคุมการบินที่ทันสมัย
อาจทำให้เครื่องบินขับไล่ FA-50 เป็นรองในการรบทางอากาศ อย่างไรก็ตาม เครื่องบินขับไล่แบบดังกล่าวก็ให้ผลลัพธ์ที่ดีในการรบที่ไม่ใช่สงครามใหญ่ดังจะเห็นได้จาก กองทัพอากาศฟิลิปปินส์นำเครื่องบินขับไล่ FA-50 มาบินในปฏิบัติการต่อต้านการก่อความไม่สงบในฟิลิปปินส์
โดยเครื่องบินแบบดังกล่าวนี้ได้รับคำชมเชยอย่างมากจากเจ้าหน้าที่ความมั่นคงของฟิลิปปินส์สำหรับประสิทธิภาพการรบและความสามารถในการทิ้งระเบิดนำวิถีแบบไม่พลาดเป้า ในช่วงที่ให้การสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิดร่วมกับทหารและตำรวจในการปราบปรามกลุ่มก่อการร้ายอิสลามในช่วงกลางทศวรรษ 2010
จากนั้นประธานาธิบดีโรดริโก ดูเตอร์เต ก็ได้เน้นย้ำว่าเครื่องบินแบบดังกล่าวมีความเหมาะสมมากกว่าสำหรับบทบาทการโจมตีภาคพื้นเมื่อเทียบกับเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่กำลังจะเข้าประจำการที่ฟิลิปปินส์ในอนาคตอันใกล้นี้
▶️ความเป็นไปได้ในกองทัพอากาศลาว
กองทัพอากาศลาวจะมีโอกาสหรือไม่กับเครื่องบินแบบนี้ ปัจจุบันจากที่ผู้เขียนหาข้อมูลมีเพียง YAK-130 และ K-8 ที่เป็นเครื่องบินรบของกองทัพอากาศลาว แต่สมรรถนะห่างไกล FA-50 พอสมควร
หากประเทศลาวมีการเมืองที่เปลี่ยนไป FA-50 Block 20 อาจไม่ไกลเกินฝันสำหรับกองทัพอากาศลาวก็ได้ โดยรุ่นดังกล่าวถือว่าเป็นรุ่นที่ทันสมัยที่สุดของ FA-50 Block 20 นั้นมีเรดาร์ Raytheon Phantom Strike AESA ที่ล้ำหน้ากว่า มีท่อเติมเชื้อเพลิงทางอากาศติดตั้งใดล้ห้องนักบิน และสามารถติดตั้งกระเปาะชี้เป้า  Sniper ได้ในการบินกลางคืนหรือเมื่อมีสภาพอากาศย่ำแย่ มันสามารถรบด้วยอาวุธได้หลายประเภท เช่น ขีปนาวุธอากาศสู่อากาศระยะยิงไกล (BVRAAM) ระเบิดนำวิถี ระเบิดไม่นำวิถี และขีปนาวุธร่อนยิงจากระยะไกล
ตามข้อมูลปัจจุบันจาก Army Recognition รายงานว่า FA-50 Block 20 กำลังจะเข้าประจำการในกองทัพอากาศมาเลเซียในเดือนตุลาคมปีค.ศ. 2026 ซึ่งจะทำให้มาเลเซียเป็นประเทศที่สี่ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ปฏิบัติการเครื่องบินประเภทนี้ ต่อจากอินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย
ส่วนประเทศลาวก็ต้องรอติดตามสถานการณ์ต่อจากนี้ แม้จะยังไม่มีแหล่งอ้างอิงที่บ่งบอกชัดเจนว่ากองทัพอากาศลาวจะจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบดังกล่าวจากเกาหลีใต้
คุณสมบัติหลักของ FA-50 Block 20 ที่อาจเข้าตากองทัพอากาศลาวคือระบบด้านการบินสมัยใหม่ ซึ่งประกอบด้วยห้องนักบินกระจกทันสมัย เซ็นเซอร์และระบบต่างๆ มากมาย เครื่องบินแบบนี้มีการติดตั้งเรดาร์สมัยใหม่ ระบบสงครามอิเล็กทรอนิกส์ ระบบค้นหาและติดตามด้วยอินฟราเรด (IRST) และจอแสดงผลติดหมวก (HMD) เพื่อการรับรู้สถานการณ์ที่ดีขึ้น มีระบบควบคุมการบินขั้นสูง ที่กล่าวมานี้อาจทำให้นักบินรบลาวสามารถโจมตีเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพในสภาพแวดล้อมต่างๆ และปฏิบัติภารกิจทั้งทางอากาศสู่อากาศและทางอากาศสู่พื้นดิน
FA-50 Block 20 มีขีดความสามารถในการรบที่ดีกว่าเครื่องบินรบแบบก่อนหน้าของกองทัพอากาศลาว โดยมันสามารถทำการบินสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชิด การบินสกัดกั้น การป้องกันภัยทางอากาศ และตอบโต้ทางอากาศต่อฝ่ายตรงข้าม
นอกจากนี้ยังมีรุ่นที่นั่งเดี่ยวที่อาจเป็นไปได้คือ F-50 ที่อาจเป็นคู่แข่งกับ F-16 ไทย เมื่อนำเข้าประจำการในกองทัพอากาศลาว FA-50 รุ่นที่นั่งเดี่ยวมีความสามารถในการรบทางอากาศกรือการโจมตีภาคพื้นดินอย่างแม่นยำไม่แพ้รุ่นสองที่นั่ง ถึงจะบินด้วยนักบินเพียงนายเดียวก็จริงแต่ยังสามารถใช้ระบบควบคุมการบินขั้นสูงเพื่อจัดการกับภารกิจที่ท้าทายได้
เครื่องบินขับไล่ FA-50 รุ่นที่นั่งเดียวมีความสามารถในการใช้งานอาวุธสมัยใหม่ เช่น ขีปนาวุธร่อน Taurus KEPD 350K-2 ซึ่งเป็นอาวุธยิงระยะไกลที่มีพิสัยการยิงเกิน 300 ไมล์ ทั้งนี้ทั้งนั้น FA-50 ไม่ว่าจะเป็นรุ่นสองที่นั่งหรือรุ่นที่นั่งเดี่ยวอาจเป็นทางเลือกเพื่อชดเชยการจัดหาเครื่องบินขับไล่ที่มีน้ำหนักมากกว่าและมีราคาแพงกว่า โดยให้ขีดความสามารถที่ใกล้เคียงกับเครื่องบินขับไล่ยุคที่สี่ด้วยต้นทุนที่ไม่มาก
หาก FA-50 เข้าประจำการกองทัพอากาศลาวอาจต้องคิดหนักเรื่องการฝึกนักบินและเจ้าหน้าที่ภาคพื้นเพราะเป็นเครื่องบินที่อิงระบบตะวันตก ซึ่งต้องใช้เวลาทำความเข้าใจกว่านักบินลาวจะขับได้ ประกอบกับกองทัพอากาศลาวใช้รูปแบบการฝึกบินและอาวุธจากรัสเซีย ดังนั้นจึงเป็นไปได้ยากที่จะมี FA-50 ติดธงชาติลาว ยิ่งไปกว่านั้นอาจต้องปรับปรุงโรงเก็บและพัฒนาสนามบินในประเทศให้มี Standard ใกล้เคียงกับกองทัพอากาศไทย นี่จึงเป็นเรื่องยากที่ลาวจะมองข้ามในการจัดหาเครื่องบินขับไล่สัญชาติเกาหลี
อย่างที่ท่านทราบปัจจุบันกองทัพอากาศลาวมีประจำการด้วย Yak-130 ออกแบบและผลิตโดยยาคอฟเลฟ (Yakovlev) แห่งอีร์คุต (Irkut) ซึ่งเป็นศูนย์การผลิตอากาศยานชั้นนำอีกแห่งหนึ่งในรัสเซีย เหมาะสำหรับนักบินที่จะขับเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 4 ไปจนถึงเครื่องบินขับไล่ยุคที่ 5 คือ Su-57 (ลาวไม่มีประจำการ) ฉะนั้นเมื่อ FA-50 มาลงจอดที่ลาวรูปแบบการฝึกบินหรือการซ่อมบำรุงอาจมีปัญหาอย่างยิ่งไม่ต่างอะไรกับการเปลี่ยนแบบจากการขับมอเตอร์ไซค์มาเป็นการขับรถเฟอร์รารี่
FA-50 อาจเป็นการกลับมามีเครื่องบินขับไล่ครั้งสำคัญของกองทัพอากาศลาว หลังจากที่ Mig-21 จำนวน 25 เครื่องได้ปลดประจำดารไป ในอดีตลาวมีการจัดซื้อเครื่องบินขับไล่แบบดังกล่าวแบบมือหนึ่ง และได้รับความช่วยเหลือทางทหารจากสหภาพโซเวียตอีกจำนวนหนึ่ง ในช่วงทศวรรษ 1970 หลังการก่อตั้งสาธารณรัฐประชาชนลาวไม่นาน
ปัจจุบันเครื่องบินแบบดังกล่าวทุกเครื่องหมดอายุการใช้งาน ชิ้นส่วน/อะไหล่ ที่จำเป็นต้องใช้มีราคาแพง จึงไม่คุ้มที่จะซ่อมบำรุงให้กลับมาบิน FA-50 Block 20 มีข้อดีที่ MIG-21 ไม่มีคือยังมันมีความสามารถที่สูงในการใช้ระบบ Data Link สำหรับเพื่อการสื่อสารและการแบ่งปันข้อมูลในการรบร่วมกับกองทัพบกลาว หากระบบแบบนี้เกิดขึ้นจริงจะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการรบร่วมระหว่างเหล่าทัพและการทำงานร่วมกันระหว่างเครื่องบินกับเครื่องบินเป็นได้อย่างมีประสิทธิภาพ
อย่างไรก็ตามการจะมี Data Link เชื่อมต่อกับกองทัพบกลาวทำได้ยาก เนื่องจากกองทัพบกของพวกเขาใช้ระบบในฝั่งรัสเซีย ต่อให้มีการเปลี่ยนระบอบการปกครองจากระบอบปัจจุบันไปเป็นประชาธิปไตยเหมือนประเภทผู้ผลิต FA-50 คงทำได้ยาก อีกทั้งเศรษฐกิจลาวในขณะนี้อยู่ในสภาวะตกต่ำเพราะยังอยู่กับการเมืองแบบเดิมๆและการกู้เงินจากประเทศจีน
ดังนั้นทำให้โอกาสที่กองทัพอากาศลาวจะเป็นกองทัพอากาศที่มีความพร้อมรบสูงในภูมิภาคอาเซียนยิ่งดูถดถอยจากความเป็นจริงเว้นเสียแต่ว่าจะมีผู้นำคนใหม่หัวตะวันตกเข้ามาบริหาร
ทุกวันนี้รัฐบาลลาวยังไม่สามารถพัฒนาเรื่องถนนหนทางให้มาตรฐาน ไปทางไหนก็มีแต่ถนนลูกรัง บางครั้งรถวิ่งผ่านถนนที่สร้างเสร็จก็มีรอบร้าวทำให้รัฐบาลลาวต้องวนลูปอยู่ที่เดิม สุดท้ายก็ปล่อยไว้จนคนลาวเริ่มหมดไฟที่จะอยู่ในประเทศ หรือแม้กระทั่งเรื่องระเบิดที่อเมริกาทิ้งในสงครามลาวก็ยังเก็บกู้ไม่แล้วเสร็จ
ทำให้การกระจายความเจริญเข้าสู่ท้องถิ่นเป็นไปได้ยาก ไม่เพียงเท่านี้ด้วยความที่ข้าราชการในลาวมีการคอรัปชั่นอาจทำให้ส่งผลกระทบต่อการพัฒนาประเทศในระยะยาว ขออภัยที่ต้องนอกเรื่องสิ่งที่ผู้เขียนกล่าวมามันเป็นข้อเท็จจริง และอาจจะเป็นบทเรียนให้พี่น้องชาวไทยหันมาร่วมกันพัฒนาประเทศ ดีกว่าจะต้องแบ่งฝักแบ่งฝ่ายแบบประเทศลาวในยุคสงครามเย็น
สำหรับ FA-50 มีราคาต่อเครื่องอยู่ที่ 30 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ในขณะ YAK-130 มีราคาต่อเครื่องอยู่ที่ 15 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หากจัดหา FA-50 Block 20 จำนวน 4 เครื่องจะต้องใช้งบประมาณไป 120 ล้านเหรียญสหรัฐฯ พร้อมกับค่าใช้จ่ายอื่นๆที่เกี่ยวข้อง
ส่วนเรื่องความสามารถ FA-50 ก็จะสูสีประมาณเครื่องบินขับไล่ F-16A ที่กองทัพอากาศไทยมีใช้งาน โดย F-16A สามารถใช้อาวุธแบบเดียวกันกับ T-50/FA-50 ที่มีประจำการได้ ผิดกับกองทัพอากาศลาวเพราะไม่มีอาวุธค่ายตะวันตกอยู่ในคลังอาวุธ อีกทั้งอาวุธรัสเซียที่เครื่องบินรบลาวอาจใช้ไม่มีทางจะเข้ากับ FA-50 เลยแม้แต่น้อย ทุกวันนี้กองทัพอากาศลาวได้แต่รอความหวังจนกว่าจะมีเครื่องบินรบใหม่มาเติมเต็มขีดความสามารถในการรบทางอากาศในอนาคต
▶️ข้อมูลจำเพาะของ FA-50
ความสูง : 4.82 เมตร (15.8 ฟุต)
ความยาว : 13.14 เมตร (43.1 ฟุต)
ความกว้าง : 9.45 เมตร (31 ฟุต)
เพดานบินสูงสุด :
ความเร็วสูงสุด : 1.5 Mach
น้ำหนักสูงสุดขณะบินขึ้น : 26,929 ปอนด์
แรงขับสูงสุด : 17,700 ปอนด์
เครื่องยนต์ : General Electric F404GE102
เพดานบินสูงสุด : 48,000 ฟุต
ความจุเชื้อเพลิง : 2,655 ลิตร
อาวุธ : ปืนกลอากาศสู่อากาศขนาด 20 มม.
AIM-9 Sindwinder, AIM-120 Amraam , JDAM , ระเบิดไม่นำวิถีตระกูล Mk. , ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์
นักบิน : 2 นาย
นี่คือเรื่องราวของเครื่องบิน FA-50 ที่นำมาฝากในวันนี้ แม้จะเกินความเป็นจริง แต่ก็ให้สาระติดมาบ้างสำหรับท่านผู้อ่านไม่มากก็น้อย ขณะนี้ ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
AAG_TH บันทึกประจำวัน
X
Army Recognition
Military Watch Magazine
KAI
Peter Ho
เรียบเรียงบทความ : จ่าหวาน เกรียงไกร
โฆษณา