29 มิ.ย. เวลา 14:30 • ไลฟ์สไตล์

อยากรวยจากการลงทุน? แค่ “อดทน” ก็ชนะ 97% ของคนทั้งตลาดได้แล้ว

7 เคล็ดลับสร้างรายได้สำหรับปี 2025 ที่ได้รับการพิสูจน์แล้วว่าได้ผล จาก The Diary of CEO (ตอนที่ 4)
เชื่อไหมว่า? คุณไม่ต้องเลือกหุ้นเก่ง ไม่ต้องเข้าใจเศรษฐกิจลึก ไม่ต้องนั่งดู CNBC ทุกเช้า ก็สามารถสร้างทรัพย์สินจนติดท็อป 5% ของนักลงทุนทั้งโลกได้จริง
ในรายการ The Diary of CEO สตีเวน บาร์ตเลตต์ (Steven Bartlett) สัมภาษณ์ Morgan Housel (มอร์แกน เฮาส์เซล) ผู้เขียนหนังสือชื่อดัง Psychology of Money (จิตวิทยาการเงิน) กับกลยุทธ์การจัดสรรเงินลงทุนที่ใช้ได้ผลและทำเงินได้จริงๆ เขาได้มาแชร์เทคนิคว่าต้องทำยังไงถึงจะนักลงทุนที่ประสบความสำเร็จได้
คำตอบเรียบง่ายกว่าที่คิด สิ่งที่คุณต้องมีก็คือ “ความอดทน”
[ 🎯 ความอดทน สูตรลงทุนที่เรียบง่ายจนแทบไม่น่าเชื่อ ]
สตีเวนถามมอร์แกนว่า กลยุทธ์การจัดสรรเงินลงทุนของเขามีอะไรบ้าง?
สิ่งที่มอร์แกนพูดนั่น เรียบง่ายมาก “ทรัพย์สินทั้งหมดของผมมีแค่ เงินสด บ้าน กองทุนดัชนี และ หุ้นของบริษัท Marquel ซึ่งผมเป็นหนึ่งในคณะกรรมการบริษัท และ…แค่นั้นเลยครับ ไม่มีอะไรเพิ่มเติมอีก”
มาถึงตรงนี้หลายคนคงสงสัยว่าทำไมผู้เขียนหนังสือจิตวิทยาการเงินที่ขายดีที่สุดเล่มหนึ่งของโลก ทำไมถึงเลือกลงทุนในกองทุนดัชนี*ล่ะ?
มอร์แกนตอบไว้ว่า เขาไม่ใช่คนที่เชื่อว่าไม่มีใครชนะตลาดได้เลย ดังนั้นไปซื้อกองทุนดัชนีเถอะ แต่เขาเชื่อว่าการชนะตลาดมัน “ยากมาก” และมี “คนส่วนน้อยมากๆ” ที่ทำได้
และถึงแม้เขาจะรู้จักคนที่ฉลาดมากพอจะฝากเงินไว้ด้วยได้ เขาก็ยังไม่ทำ เพราะเขาต้องการ เพิ่มตัวแปรหนึ่งให้สูงที่สุด ในการลงทุนของเขา นั่นคือ ความอดทน (Endurance)
เขาบอกว่า ถ้าแค่ลงทุนที่ให้ได้ผลตอบแทนแค่ระดับ “กลาง ๆ” แต่ทำได้ “เป็นระยะเวลาที่นานกว่าคนอื่น” มันจะนำไปสู่ผลลัพธ์ที่ทำให้คุณติดอันดับ 5% บนสุดของนักลงทุนทั้งโลกได้จริงๆ
มอร์แกน บอกว่าพ่อแม่ของเขาคือ “ตัวอย่างที่ยอดเยี่ยม” พ่อกับแม่เขาลงทุนแบบ DCA หรือ Dollar Cost Averaging (ลงทุนแบบถัวเฉลี่ยต้นทุน) ในกองทุนดัชนีมาตลอดเกือบ 40 ปี โดยที่พวกเขาไม่เคยขายเลยแม้แต่ครั้งเดียว ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นในตลาดหุ้น เศรษฐกิจดี เศรษฐกิจแย่ ภาวะฟองสบู่แตก พ่อกับแม่เขาก็ลงทุนเท่าเดิม และถ้าไปย้อนดูมอร์แกนบอกว่า ผลตอบแทนของพวกเขาน่าจะติดอันดับ 3% แรกของนักลงทุนมืออาชีพ ด้วยซ้ำ
⚠️การเลือกลงทุนในกองทุนดัชนี (Index Fund) ควรพิจารณาตลาดที่มีศักยภาพในการเติบโตในระยะยาวและปัจจัยอื่นๆ เช่น ค่าธรรมเนียมกองทุน อัตราการแลกเปลี่ยน เป็นต้น
[ 🔍 ถ้ามันง่ายนักทำไมคนถึงทำไม่ได้? ]
มอร์แกนเล่าว่า อีกด้านหนึ่ง ของพฤติกรรมนี้ ก็คือคนที่ลงทุนตามอารมณ์ ตื่นเช้ามา ดู CNBC แล้วรู้สึกแย่กับตลาดเลยรีบขายหุ้นจากนั้นก็รอจนกว่าจะ “รู้สึกดีขึ้น” แล้วค่อยกลับมาซื้อใหม่ นั่นคือความตรงข้ามของการลงทุนแบบ DCA
สตีเวนเพิ่มความเข้นข้นของบทสนทนาด้วยการถามต่อว่า ถ้าผมเป็นลูกชายของคุณ แล้วพูดว่า—พ่อครับ พิสูจน์ให้ผมเห็นหน่อยสิ ว่าวิธีการสร้างความมั่งคั่งระยะยาวแบบนี้ดีกว่าการซื้อคริปโต หรือซื้อหุ้นของบริษัทที่ผมชอบหรือใช้งานอยู่ คุณจะอธิบายยังไงให้ลูกฟัง?
มอร์แกนบอกว่า ถ้าลงทุนแบบนั้น นักลงทุนมักจะทำผลงานได้ดีในช่วง 1 ปี หรือ 5 ปีข้างหน้า แต่มันอาจจะไม่มีผลอะไรเลยกับความสามารถในการสร้างความมั่งคั่งตลอดชีวิตของคุณ สิ่งเดียวที่สำคัญคือ ไม่ใช่ว่า…คุณจะได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุดแค่ไหน
เพราะโจทย์สำคัญของชีวิตก็คือคุณจะสามารถรักษาผลตอบแทน “พอใช้ได้” ไว้ได้นานแค่ไหนต่างหาก
ทั้งหมดที่สำคัญคือ ความอดทน (Endurance)
ไม่สำคัญหรอกว่าคุณจะ “เพิ่มเงินเป็นสองเท่า” ในปีนี้ได้ หรือ “เพิ่มเป็นสองเท่าอีกครั้ง” ในปีหน้า สิ่งเดียวที่สำคัญคือ คุณจะ “ยืนระยะ” และ “ทำแบบนี้ต่อเนื่อง” ไปได้ 50 ปีไหม
นั่นแหละ คือจุดที่ “พลังของดอกเบี้ยทบต้น (Compounding)” ทำงาน และ “ตัวแปรที่ทำงานหนักที่สุด” ในสมการนี้ ก็คือ…เวลา
[ 📈 คนที่คุณก็รู้ว่าใคร - กรณีศึกษาที่คุณไม่ควรมองข้าม ]
มอร์แกนบอกว่า คนที่พิสูจน์แนวคิดนี้ได้ดีที่สุดไม่ใช่ใครที่ไหนแต่เขาคือวอร์เรน บัฟเฟตต์ (Warren Buffet) มอร์แกนบอกว่า ไปย้อนดูได้เลยว่า 99% ของทรัพย์สินสุทธิทั้งหมดของบัฟเฟตต์เกิดขึ้นหลังจากเขาอายุ 60 ปี
ที่เป็นเช่นนั้น เพราะยิ่งคุณ “ถือการลงทุนไว้ได้นาน” ตัวเลขผลตอบแทนมันจะยิ่ง “บ้าคลั่ง” มากขึ้นเรื่อยๆ ตอนที่เขาอายุ 60 ผมคิดว่าเขามีทรัพย์สินอยู่ประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์ ซึ่งก็เยอะแล้วนะ
วอร์เรนสามารถเป็นมหาเศรษฐีและเกษียณอายุ ไปตีกอล์ฟเป็นเศรษฐีสักคนที่เราไม่รู้จักชื่อก็ได้ แต่ตอนนี้เขาอายุ 90 แล้ว เขามีทรัพย์สินกว่า 100,000 ล้านดอลลาร์ และเขายังบริจาคเงินไปแล้วกว่า หนึ่งแสนล้านดอลลาร์ให้กับองค์กรการกุศล
ถ้าเขาไม่ได้บริจาค เขาจะมีทรัพย์สินประมาณ สองแสนล้านดอลลาร์ คือจาก 3 พันล้าน → กลายเป็น สอนแสนล้าน หลังจากอายุ 60 เพราะตัวเลขมันพุ่งแบบ “ทวีคูณ” มากๆ
เพราะฉะนั้น เมื่อคุณมองคนอย่างบัฟเฟตต์ ว่าเขาเป็นนักลงทุนที่ยอดเยี่ยม เป็นนักเลือกหุ้นที่เก่ง แต่เคล็ดลับที่แท้จริงของเขา ไม่ใช่เรื่องของผลตอบแทนรายปี แต่คือ ความสามารถในการลงทุน “อย่างต่อเนื่อง” ยาวนานถึง 80 ปีต่างหาก
มันคือ “ความอดทน” ล้วนๆ ไม่ใช่แค่เรื่องของผลตอบแทนประจำปี
[ 🪜 ภารโรงก็มีเป็นพันล้านได้ ถ้าอดทน ]
สตีเวนได้ยกเรื่องราวในบทนำของหนังสือของมอร์แกนมาอีกคนหนึ่ง ซึ่งเขาคนนี้เป็นภารโรงคนหนึ่งชื่อ “Ronald James Reed” ที่เสียชีวิตในปี 2014 ตอนอายุ 92 โดยมีทรัพย์สินสุทธิมากกว่า 8 ล้านดอลลาร์ ทั้งๆ ที่เขาเป็นแค่ “ภารโรง”
คนนี้ก็เหมือนเราทั่วไป แต่สิ่งที่ทำให้เขาต่างออกไปก็คือ เขา “เก็บเงินเล็กๆ น้อยๆ” ที่เขาหาได้จากงานเป็นภารโรง เช็ดพื้นในปั๊มน้ำมัน แล้วเอาไปลงทุนในหุ้นแล้วก็ ปล่อยมันทิ้งไว้แบบนั้นเลย นานถึง 70 ปี ในตอนที่เสียชีวิตเขามีเงินมากถึง 8 ล้านดอลลาร์
มอร์แกนบอกว่า ถ้าคุณมี “ความอดทนในการลงทุน” และสามารถ “รักษามันไว้ได้นานหลายสิบปี” คุณไม่จำเป็นต้อง “เลือกหุ้นเก่ง” หรือ “เข้าใจตลาดลึกซึ้ง” เลย สิ่งที่จำเป็นมีแค่ความอดทน คุณจะเอาชนะนักลงทุนมืออาชีพได้ถึง 97 - 99% เลยทีเดียว ถ้ารักษาระยะนั้นและลงทุนอย่างต่อเนื่องได้ เพราะการ “เลือกหุ้นให้ถูกตัว” มันยาก และมัน “ควรจะยาก” ด้วย ไม่มีโลกไหนหรอกที่ “ทุกคน” ที่พยายามจะชนะตลาด จะทำได้สำเร็จ มันก็เหมือนกับการเป็นนักบาส NBA มันต้องใช้พรสวรรค์ระดับสุดยอด
แต่การมี “ความอดทน” เนี่ย มันอยู่ในการควบคุมของคุณเอง และมัน “ง่ายกว่ามาก” ที่จะฝึกความอดทนมากกว่าการพยายามเลือกหุ้นที่ถูกต้องทุกวัน
🔚 สรุป: น้ำหยดลงหินทุกวัน หินยังกร่อน การสร้างมั่งคั่งก็เช่นกัน ความพยายามอดทนและระยะเวลาเป็นส่วนประกอบสำคัญ ดังนั้น ถ้าคุณอยากจะรวยเพราะการลงทุนจริงๆ สิ่งที่คุณต้องตอบตัวเองให้ได้ก็คือ คุณมีแผนจะลงทุนไปอีกกี่ปี? และคุณอดทนพอจะปล่อยให้ “เวลา” ทำหน้าที่ของมันได้ไหม?
ที่สำคัญในปัจจุบันนี้ สแกมเมอร์หลอกลวงการลงทุนมีจำนวนมาก เราจึงขอแนะนำให้ตรวจสอบข้อมูลก่อนทำรายการ วิธีการหลักคือการตรวจสอบรายชื่อผู้ให้บริการที่ได้รับอนุญาตจากสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อยืนยันความน่าเชื่อถือและป้องกันความเสี่ยงจากการลงทุนในผลิตภัณฑ์หรือบริการที่ไม่ได้รับอนุญาต
📌 บทความนี้เป็นตอนหนึ่งในมินิซีรีส์ ตอนต่อไปจะมาในวันจันทร์ที่ 30 มิถุนายนนี้!
ใครจะมาถ่ายทอดเคล็ดลับสร้างรายได้ปี 2025? และเขามีกลยุทธ์อะไรที่คุณไม่ควรพลาด รอติดตาม MMM ตอนหน้าได้เลย! ✨
Mini-Money-Series
1 — สิ่งที่แพงที่สุดที่เราทุกคนกำลังจ่าย… คือ “สิ่งที่เราไม่รู้”
2 — อยากหาเงินได้เยอะ ต้องรู้จัก '3 ต." ตัวเอง ตลาด และ ต่อรอง
3 — กลยุทธ์บริหารภาษี คือลิฟต์สู่ความร่ำรวย
SEC Check First – ค้นหารายชื่อผู้ให้บริการในตลาดทุนที่อยู่ภายใต้การกำกับดูแลของ ก.ล.ต. รวมถึงค้นหาผลิตภัณฑ์ที่ได้รับอนุญาตเพื่อช่วยในการตัดสินใจลงทุน (หลักทรัพย์/สินทรัพย์ดิจิทัล)
#aomMONEY #TheDiaryofCEO #StevenBartlett #การเงิน #การเงินส่วนบุคคล
โฆษณา