30 มิ.ย. เวลา 02:59

แนะกลยุทธ์ลงทุนในช่วงตลาดผันผวน กับ 5 กองทุนแนะนำจาก BBLAM

สถานการณ์ตลาดหุ้นโลกยังคงผันผวนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ ที่ปรับฐานลง จากปัจจัยลบหลายด้าน ไม่ว่าจะเป็น ความกังวลใจต่อข้อสรุปนโยบายกีดกันทางการค้าของสหรัฐฯ ความเสี่ยงของเงินเฟ้อ และการชะลอตัวของเศรษฐกิจ
ในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูงเช่นนี้ กลยุทธ์การลงทุนที่ BBLAM ยังคงแนะนำคือให้นักลงทุนระมัดระวังในการลงทุน และควรกระจายเงินลงทุนบางส่วนไปยังสินทรัพย์ปลอดภัย ตัวอย่างเช่น ทองคํา ผ่านกองทุน BGOLD
และแน่นอนว่าในวิกฤตย่อมมีโอกาส สําหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้ค่อนข้างสูง การที่ตลาดหุ้นปรับฐานครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีในการเข้าซื้อหุ้นคุณภาพในราคาที่ถูกลง เช่น กองทุน B-GLOBAL ที่ลงทุนในหุ้นคุณภาพจากทั่วโลก กองทุน B-USALPHA ที่เน้นลงทุนหุ้นสหรัฐฯ โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีชั้นนํา รวมถึงกองทุน B-INNOTECH ที่เน้นลงทุนในหุ้นนวัตกรรมและเทคโนโลยีทั่วโลกซึ่งมีแนวโน้มเติบโตสูงในระยะยาว
นอกจากนี้ ยังมีกองทุน B-DYNAMIC BOND กองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ ที่สามารถปรับเปลี่ยนการลงทุนตามภาวะตลาด ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
ในช่วงที่ตลาดตราสารหนี้และตราสารทุนมีความผันผวนสูง กลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำคือนักลงทุนควรระมัดระวังและกระจายความเสี่ยงในการลงทุน โดยในระยะสั้นการมีสัดส่วนในทองคำซึ่งถือเป็นสินทรัพย์ปลอดภัย ผ่านกองทุนเปิดบัวหลวงโกลด์ฟันด์ (BGOLD) ก็สามารถช่วยลดความเสี่ยงในกรณีที่ความเสี่ยงโดยรวมปรับตัวสูงขึ้นได้
และเมื่อพิจารณาในระยะกลางขึ้นไป รวมถึงปัจจัยเรื่องระดับมูลค่าการซื้อขายที่ปรับลดลงมา สําหรับนักลงทุนที่สามารถรับความผันผวนได้ เรายังมองเป็นโอกาสที่ดีในการสะสมกองทุนหุ้นโลกอย่าง กองทุนเปิดบัวหลวงหุ้นโกลบอล (B-GLOBAL) ที่เน้นการลงทุนในหุ้นคุณภาพหลากหลายกลุ่มอุตสาหกรรมจากทั่วโลก เช่น เทคโนโลยี การเงิน สื่อสาร สินค้าฟุ่มเฟือย และการแพทย์
นอกจากนี้ยังมีกองทุนเปิดบัวหลวงยูเอสอัลฟ่า (B-USALPHA) มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นสหรัฐฯ โดยมีสัดส่วนการลงทุนในหุ้นกลุ่ม Magnificent 7 อยู่อย่างมีนัยสําคัญ เรามองว่าในระยะยาว กลุ่มนี้จะยังคงให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าตลาด
และที่พลาดไม่ได้คือ กองทุนเปิดบัวหลวงโกลบอลอินโนเวชั่นและเทคโนโลยี (B-INNOTECH) ที่มุ่งเน้นการลงทุนในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและนวัตกรรมทั่วโลก ก็มีความน่าสนใจในระยะกลางเช่นกัน โดยเฉพาะเมื่อผู้จัดการกองทุนเริ่มเพิ่มน้ำหนักการลงทุนในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีน ซึ่งเป็นแรงหนุนสําคัญให้กับกองทุน
สุดท้ายกับกองทุนตราสารหนี้ต่างประเทศ กองทุนเปิดบัวหลวงไดนามิก บอนด์ (B-DYNAMIC BOND) กองทุนที่มีจุดเด่นอยู่ที่การบริหารจัดการแบบยืดหยุ่น ผู้จัดการกองทุนสามารถปรับเปลี่ยนสัดส่วนการลงทุนได้ตามความเหมาะสม ช่วยลดความผันผวนของพอร์ต และยังช่วยกระจายความเสี่ยงในตลาดหุ้น เหมาะกับสภาวะเศรษฐกิจที่ไม่แน่นอน ก็เป็นอีกหนึ่งทางเลือกที่น่าสนใจเช่นกัน
กล่าวโดยสรุปคือในช่วงเวลาที่ตลาดมีความผันผวนสูง นักลงทุนควรแบ่งเงินเพื่อกระจายลงทุนในหลากหลายสินทรัพย์ เพื่อช่วยลดความเสี่ยง โดยเลือกลงทุนในกองทุนที่มีศักยภาพ และให้โอกาสได้รับผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว อาทิ กองทุนข้างต้นที่กล่าวถึง ซึ่งจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนโดยรวมมีความสมดุลและโอกาสได้รับผลตอบแทนที่เหมาะสมตามระดับความเสี่ยงได้
คำเตือน : การลงทุนมิใช่การฝากเงินและมีความเสี่ยงที่ผู้ลงทุนอาจไม่ได้รับเงินลงทุนคืนเต็มจำนวนเมื่อไถ่ถอน (ไม่คุ้มครองเงินต้น) / ผู้ลงทุนต้องศึกษาและทำความเข้าใจลักษณะสินค้า ข้อมูลสำคัญ นโยบายการลงทุน เงื่อนไขผลตอบแทน และความเสี่ยง ก่อนการตัดสินใจลงทุน
กองทุนที่มีการลงทุนในต่างประเทศมิได้มีนโยบายป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนทั้งหมดหรือเกือบทั้งหมด ทั้งนี้ อยู่ในดุลยพินิจของผู้จัดการกองทุน ดังนั้น ผู้ลงทุนอาจขาดทุนหรือได้กำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนจากการลงทุนในกองทุนดังกล่าว หรืออาจได้รับเงินคืนต่ำกว่าเงินลงทุนเริ่มแรกได้
#BBLAM #กองทุนบัวหลวง #BFFundTrading #MobileBanking #ธนาคารกรุงเทพ #RMF #SSF #ThaiESG #thaiesgx #BGOLD #binnotech #bglobal #busalpha #bdynamicbond #กองทุนแนะนำ
โฆษณา