30 มิ.ย. เวลา 03:03 • ข่าวรอบโลก

🧩 ปมดราม่า: “บรีฟแน่น แต่ไม่มีค่าจ้าง”

แอมมี่ กิตติยา บิวตี้บล็อกเกอร์ตัวแม่ โพสต์แรงว่ามีแบรนด์ (อ้างว่าเป็น Love Potion) ส่งสินค้าให้เทสต์ฟรี พร้อมบรีฟงานแน่น ทั้งขอให้ถ่ายรูป/วิดีโอ เก็บผลลัพธ์ 7–14 วัน และอนุญาตแบรนด์ใช้ภาพเดินหน้าต่อ แต่ ไม่มีการจ้างงาน หรือ “งบตอบแทน” ให้เธอเลย
แอมมี่บอกว่าใน 14 ปีของงานรีวิว ยังไม่เคยเจอข้อตกลงแบบนี้ และรู้สึกว่าแบรนด์ใช้จิตใจดีมาเอาเปรียบ
💬 ซ้อก้าดแก้ต่าง: "เป็นแค่ทดสอบสินค้า ยังไม่เสร็จสมบูรณ์"
ซ้อก้าดออกมาคอมเมนต์ใต้โพสต์ ยอมรับเหตุไม่รู้ลงรายละเอียดชัดเจน และขอโทษต่อแอมมี่
เธอเล่าว่าสินค้ายังเป็น “ตัวเทสเตอร์” ยังไม่วางขายจริง ส่งเพื่อให้กลับมาให้ฟีดแบ็กก่อนผลิตจริง และยืนยันว่าไม่ได้ตั้งใจให้โพสต์ลง แต่สำคัญที่สุดคือ มีการขออนุญาตใช้ภาพทุกครั้ง
🔄 ประเด็นโต้กลับและความไม่ลงรอย
ซ้อก้าดเผยว่า “แชท” ที่โพสต์เผยแพร่ ยังอยู่ในขั้นตอนเจรจา ยังไม่ส่งสินค้า และมีการชี้แจงเงื่อนไขทุกครั้งก่อนส่ง
เธอยังโต้ว่าอาจเกิดความเข้าใจผิด เพราะแอมมี่โพสต์ก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร
แอมมี่โต้กลับว่า มีอินฟลูเอนเซอร์อีกหลายคนถูกเรียกร้องด้วยเงื่อนไขแบบเดียวกัน และยืนยันว่าเธอตอบกลับไปในเพจแล้ว ขณะที่งานส่วนตัวยุ่งจนอาจไม่ได้อ่านทันที
✅ บทเรียนจากดราม่า
ประเด็น ข้อเรียนรู้
การสื่อสารเงื่อนไขงาน ต้องชัดเจนทั้งก่อนและหลัง หากมีการบรีฟหรือขอแบ่งเนื้อหา เช่น รูป/วิดีโอ
การใช้ภาพรีวิว ควรมีการขออนุญาตล่วงหน้าเสมอ หากนำไปใช้ในโฆษณาหรือสื่ออื่น
จ้างงาน vs การเทสต์ แบรนด์ควรแยกระหว่าง “มอบแทสเตอร์เพื่อเทสต์” กับ “งานจ้างรีวิว” ให้ชัดเจน
ความจริงต้องเกิดขึ้นก่อนการโพสต์ หากยังไม่บรรลุข้อตกลงเป็นลายลักษณ์อักษร และยังคุยกันไม่จบ แนะนำควรรอให้เรียบร้อยก่อนลงเรื่อง
ดราม่านี้ไม่ได้เป็นแค่เรื่องเล็ก แต่สะท้อนถึง “จิตวิทยาทางธุรกิจและการสื่อสาร” ระหว่างแบรนด์กับอินฟลูเอนเซอร์ การแบ่งปันสินค้าให้รีวิวไม่เท่ากับการจ้างรีวิว และทุกขั้นตอนควรทำให้เท่ากันทั้งในข้อสัญญาและความโปร่งใส
ที่มาของข่าว
โฆษณา