9 ก.ค. เวลา 00:00 • วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

👨‍👨‍👦 ครั้งแรกในประวัติศาสตร์ | สร้าง "หนูที่มีพ่อสองตัว" และสืบพันธุ์ได้สำเร็จ

การมีลูกที่สืบสายเลือดทางพันธุกรรมของตัวเอง คือหนึ่งในความปรารถนาที่ลึกซึ้งที่สุดของมนุษย์ แต่สำหรับคู่รักชายรักชาย ความปรารถนานี้เคยเป็นไปไม่ได้ในทางชีววิทยา... แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้ากำแพงนั้นกำลังจะถูกทลายลง?
ล่าสุด นักวิทยาศาสตร์ได้ประสบความสำเร็จครั้งประวัติศาสตร์ในการสร้าง "หนูที่มีพ่อสองคน" และที่สำคัญคือ... หนูตัวนั้นสามารถเติบโตจนสืบพันธุ์มีลูกของตัวเองได้ นี่คือก้าวสำคัญที่อาจเปลี่ยนนิยามของคำว่า "ครอบครัว" ไปตลอดกาล
🧬 ทำไมการมี "พ่อสองตัว" ถึงยากกว่า "แม่สองตัว"?
การสร้างสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนมที่มีพ่อสองคนหรือแม่สองคนนั้นยากอย่างยิ่งยวด เนื่องมาจากปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "การประทับตราทางจีโนม" (genomic imprinting)
ลองนึกภาพว่ายีนของเรามี "สวิตช์เปิด-ปิด" ครับ ในระหว่างการสร้างเซลล์ไข่และสเปิร์ม ธรรมชาติจะทำการ "ปิด" ยีนบางตัวในไข่ และ "ปิด" ยีนคนละตัวในสเปิร์ม การจะพัฒนาเป็นตัวอ่อนที่สมบูรณ์ได้นั้น จำเป็นต้องได้ยีนชุดที่ "เปิด" จากฝั่งพ่อ มาเจอกับยีนชุดที่ "เปิด" จากฝั่งแม่ มาทำงานร่วมกันอย่างสมดุล
ดังนั้น หากตัวอ่อนมีโครโมโซมของพ่อสองชุด (ไม่มีแม่) ยีนสำคัญบางตัวที่ปกติจะถูก "เปิด" โดยแม่ ก็จะถูก "ปิด" ทั้งสองชุด ทำให้ตัวอ่อนไม่สามารถพัฒนาได้ต่อไปได้
💻 การ "แฮก" ธรรมชาติด้วย CRISPR
ทีมนักวิจัยนำโดย ยานชาง เว่ย (Yanchang Wei) จาก Shanghai Jiao Tong University ได้เอาชนะอุปสรรคนี้โดยใช้เทคโนโลยี "การตัดต่อเอพิเจโนม" (epigenome editing)
พวกเขาไม่ได้เข้าไป "ตัด" DNA แต่ใช้โปรตีน CRISPR ในรูปแบบดัดแปลงเพื่อเข้าไป "เปิดสวิตช์" ยีนที่ถูกปิดโดยธรรมชาติในโครโมโซมของพ่อตัวที่สอง ให้กลับมาทำงานเหมือนกับยีนที่มาจากแม่
• กระบวนการ: พวกเขานำเซลล์สเปิร์มสองเซลล์มารวมกันในเซลล์ไข่ที่ถูกนำนิวเคลียสออกไปแล้ว จากนั้นจึงใช้เทคนิคนี้ "เปิดสวิตช์" ยีนสำคัญ 7 ตำแหน่ง
• ผลลัพธ์: แม้อัตราความสำเร็จยังต่ำมาก แต่ก็มีลูกหนูสองตัวที่รอดชีวิตและเติบโตจนเต็มวัย และที่สำคัญคือสามารถ สืบพันธุ์มีลูกหลานของตัวเองได้
"การศึกษานี้เป็นก้าวที่สำคัญอย่างยิ่ง" เฮเลน โอนีล (Helen O’Neill) ที่ University College London กล่าว "มันยืนยันว่าการประทับตราทางจีโนมคืออุปสรรคหลัก และแสดงให้เห็นว่ามันสามารถเอาชนะได้"
🛤️ หนทางอีกยาวไกลสู่การใช้งานในมนุษย์
เนื่องจากมันไม่ได้เกี่ยวข้องกับการดัดแปลงพันธุกรรม โดยหลักการแล้วแนวทางนี้จึงสามารถนำมาใช้เพื่อให้คู่รักชายมีลูกทางพันธุกรรมของตัวเองได้ อย่างไรก็ตาม ยังมีหนทางอีกยาวไกลและมีอุปสรรคอีกมาก ทั้งในแง่ อัตราความสำเร็จที่ยังต่ำ และ ประเด็นด้านจริยธรรม ที่ต้องถกเถียงกันอย่างรอบคอบ
"ในขณะที่งานวิจัยนี้มีแนวโน้มที่ดี มันเป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงที่จะนำมาใช้กับมนุษย์ในเร็วๆ นี้" คริสตอฟ กาลิเชต์ (Christophe Galichet) ที่ Sainsbury Wellcome Centre กล่าว
🏡 แล้วเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเราอย่างไร?
การค้นพบนี้เกิดขึ้นในจังหวะที่น่าสนใจอย่างยิ่งสำหรับสังคมไทย ที่เพิ่งจะก้าวผ่าน กฎหมายสมรสเท่าเทียม ไป... แม้เทคโนโลยีนี้จะยัง "ห่างไกล" จากการใช้งานจริงในมนุษย์ แต่มันก็ได้เปิด "ความเป็นไปได้" ทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมาเป็นครั้งแรก
ที่วันหนึ่งในอนาคต คู่รักชายในไทยอาจสามารถมีบุตรที่มีสายเลือดทางพันธุกรรมของทั้งสองคนได้จริงๆ มันคือการที่วิทยาศาสตร์กำลังไล่ตามความเปลี่ยนแปลงทางสังคม และมอบความหวังให้กับนิยามของคำว่า "ครอบครัว" ที่หลากหลายยิ่งขึ้น
🎯 สรุปประเด็นสำคัญ
✅ ครั้งแรกของโลก: นักวิทยาศาสตร์สร้าง "หนูที่มีพ่อสองคน" ที่สามารถสืบพันธุ์มีลูกของตัวเองได้สำเร็จเป็นครั้งแรก
✅ เอาชนะอุปสรรคธรรมชาติ: ความสำเร็จนี้เกิดขึ้นได้ด้วยเทคนิค "การตัดต่อเอพิเจโนม" (epigenome editing) เพื่อแก้ไข "การประทับตราทางจีโนม" ซึ่งเป็นอุปสรรคทางชีววิทยาที่ขัดขวางการสืบพันธุ์จากเพศเดียวกัน
✅ ปลอดภัยกว่า: วิธีนี้ไม่ไปเปลี่ยนแปลงลำดับ DNA โดยตรง ซึ่งต่างจากความพยายามครั้งก่อนๆ ที่ต้องมีการดัดแปลงพันธุกรรมและได้ผลลัพธ์ที่ไม่สมบูรณ์
✅ หนทางยังอีกไกล: แม้จะเป็นก้าวที่ยิ่งใหญ่ แต่อัตราความสำเร็จยังต่ำมาก และมีอุปสรรคทางเทคนิคและจริยธรรมอีกมากก่อนที่จะสามารถพิจารณาเพื่อใช้ในมนุษย์ได้
✅ ความหวังของครอบครัวหลากหลายทางเพศ: นี่คือจุดเริ่มต้นที่สำคัญซึ่งในอนาคตอาจนำไปสู่การทำให้คู่รักชายสามารถมีบุตรทางสายเลือดของตัวเองได้
💬 แล้วคุณล่ะครับ...
ในยุคที่ไทยมี "สมรสเท่าเทียม" แล้ว การที่วิทยาศาสตร์อาจทำให้คู่รักชายมีบุตรทางสายเลือดของตัวเองได้ในอนาคตนี้ มีความหมายกับคุณอย่างไร? และคุณคิดว่าประเด็นด้านจริยธรรมเรื่องไหนที่สังคมเราควรจะพูดคุยกันมากที่สุด?
มาแบ่งปันมุมมองกันในคอมเมนต์... และถ้าเรื่องราวนี้มอบความหวังให้คุณ 👨‍👨‍👦 อย่าลืมกดบันทึกไว้ หรือแชร์ส่งต่อให้คนอื่นๆ ได้เลยนะครับ!
🔎 แหล่งอ้างอิง
1. Wei, Y., et al. (2025). Fertile androgenetic mice generated by targeted epigenetic editing of imprinting control regions. PNAS. http://doi.org/10.1073/pnas.2425307122
💖 มาช่วยกันขับเคลื่อน "Witly" กันครับ!
วิทยาศาสตร์กำลังทลายกำแพงของ "สิ่งที่เป็นไปไม่ได้" และ "เขียน" นิยามใหม่ๆ ให้กับชีวิตและครอบครัว...
เป้าหมายของ Witly ก็เช่นกัน คือการพยายามทลาย "กำแพง" ของความรู้ที่ซับซ้อน และเรียบเรียงเรื่องราวทางวิทยาศาสตร์ขึ้นมาใหม่ เพื่อสร้างความเข้าใจและความหวัง
ทุกการสนับสนุนผ่าน "ค่ากาแฟ" ของคุณ คือพลังที่ช่วยให้เราสามารถ "เขียน" เรื่องราวแห่งความเป็นไปได้เหล่านี้ต่อไปได้ครับ

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา