3 ก.ค. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้นไทย รอความชัดเจนภาษีสหรัฐฯ เร็วๆนี้ คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น

InnovestX เผย หุ้นไทย รอความชัดเจนภาษีสหรัฐฯ เร็วๆนี้ หากไม่สูงไปกว่า 15% คาดว่าตลาดจะตอบสนองเชิงบวก คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น
InnovestX บริษัทหลักทรัพย์ในกลุ่ม SCBX ระบุว่า คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น หลังไม่หลุดต่ำกว่า 1105/1100 ไม่หลุดต่ำกว่าจะเป็นการแกว่งตัวเพื่อรอขึ้น มีแนวต้านที่ 1120/1128 ผ่านได้จะเป็นสัญญาณยืนยันของการแกว่งตัวขึ้นรอบใหม่ รอประกาศภาษีศุลกากรสหรัฐฯ กับไทยก่อน 9 ก.ค. นี้ หากไม่สูงไปกว่า 15% คาดว่าตลาดจะตอบสนองเชิงบวก หลังสหรัฐฯประกาศเก็บภาษีนำเข้าเวียดนามเหลือ 20% จากเดิม 46%
กลยุทธ์ลงทุนประจำวัน 3 ก.ค.2568
ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์และผันผวนต่อ หลังยังรอความชัดเจนของปัจจัยทั้งในและนอกประเทศ โดยปัจจัยภายนอกติดตามสถานการณ์ในตะวันออกกลาง และความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐฯ หลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค. ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา อย่างไรก็ดีเราประเมิน SET ที่บริเวณต่ำกว่า 1100 จุด คิดเป็น PER ปี 2568 ต่ำกว่า 12 เท่า ยังเป็นจุดที่เหมาะสมสำหรับนักลงทุนระยะกลาง-ยาว โดยกลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัวไซด์เวย์และยังผันผวนต่อ เนื่องจากยังรอความชัดเจนทั้งปัจจัยภายนอก (ความคืบหน้าการเจรจาทางการค้ากับสหรัฐหลังใกล้เส้นตาย 9 ก.ค.) ขณะที่ปัจจัยภายในติดตามเสถียรภาพทางการเมืองและปัญหาความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชา กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 3 ธีม หลักและ 2 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1. หุ้น Defensive ที่ผันผวนต่ำและผลการดำเนินงานต้านทานความเสี่ยงภายนอกได้ (ผลกระทบจำกัดจากปัจจัยภายในและภายนอก) อีกทั้งยังมีศักยภาพจ่ายปันผลสม่ำเสมอ แนะนำ ADVANC BCH DIF
2. หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลจากกำไร 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3. หุ้น Earning sPlay ซึ่งโมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ แนะนำ ADVANC CPALL BTG
4. Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ 1) หุ้น Undervalue (PER PBV < -1SD) และเราแนะนำ Outperform อีกทั้งคาดให้ Div. Yield ไม่ต่ำกว่าปีละ 3% แนะนำ BBL BDMS CPALL DIF PTT SIRI TIDLOR และ 2) หุ้นที่มีโอกาสได้ประโยชน์จากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจภาครัฐอย่างกลุ่มปูนซีเมนต์และท่องเที่ยว แนะนำ SCC SCCC ERW CENTEL AAV
TOP PICKS
KTB : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น มีโอกาสมีแรงซื้อเข้ามาตามภาพของตลาด เป็นหุ้นเด่นในกลุ่มธนาคาร มี Upside จากการเพิ่มอัตราการจ่ายปันผลเพิ่ม และ Credit Cost สูงสุดใน1Q68 แล้วมีโอกาสลดลงในช่วงที่เหลือของปี ในขณะที่ความเสี่ยงด้านคุณภาพสินทรัพย์ต่ำกว่าธนาคารอื่นๆ และมี LLR Coverage สูง
BCH : ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้น จากแนวโน้มงบ 2Q68 คาดว่าจะออกมาดี รายได้ที่เร่งตัวขึ้นมีโอกาสหนุนให้กำไรหลักของ BCH ให้เติบโตทั้ง YoY และ QoQ ใน Low Season และคาดว่าโมเมนตัมกำไรจะดีต่อเนื่องใน 3Q68 ซึ่งเป็นช่วง High Season ส่วนเรื่องไทย-กัมพูชา แต่เรามองว่าผลกระทบจำกัด ผู้ป่วยกัมพูชาคิดเป็นเพียง 1.7% ของรายได้เท่านั้น คาดว่ากำไรหลักปี 68 บริษัทจะยังสามารถเติบโตได้ 15%YoY
ประเด็นสำคัญสำหรับตลาดหุ้นไทย
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา