Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เรื่องเล่าเขย่าโลก-World Wide Wow! Stories
•
ติดตาม
4 ก.ค. เวลา 05:34 • การเมือง
ชัยชนะครั้งประวัติศาสตร์แบบรากเลือดของทรัมป์!
3 ก.ค. 2025 (เวลาสหรัฐฯ) สภาคองเกรสผ่านร่างกฎหมายงบประมาณขนาดใหญ่ ที่รู้จักกันในชื่อ “One Big Beautiful Bill“ ด้วยคะแนน 218 ต่อ 214 เสียง
กฎหมายนี้ผลักดันโดยรัฐบาลของโดนัลด์ ทรัมป์ เพื่อปฏิรูประบบภาษีและระบบการบริหารภายในของสหรัฐฯ ครั้งใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ ครอบคลุมทั้งงบประมาณของรัฐบาลกลาง การลดหย่อนภาษีจำนวนมาก มาตรการใช้จ่ายด้านโครงสร้างพื้นฐาน และความมั่นคงชายแดน หรือพูดง่ายๆ ก็คือทรัมป์เพิ่งได้เงินทุนมหาศาลจากสภา เพื่อเอาไปสานฝันให้นโยบายที่เขาหาเสียงไว้เป็นความจริง
หลายฝ่ายวิจารณ์ว่าร่างกฎหมายนี้จะทำให้สหรัฐอเมริกามีหนี้เพิ่มขึ้นถึง 3 ล้านล้านดอลลาร์!!! เสี่ยงถูกลดความน่าเชื่อถือทางการเงิน และมีหลายอย่างในนั้นที่จะกระทบต่อชีวิตของชนชั้นล่างและแรงงานในสหรัฐฯ เช่น การตัดงบโครงการประกันสุขภาพสำหรับผู้มีรายได้น้อย (Medicaid) ตัดงบโครงการช่วยเหลือด้านอาหาร (SNAP) ไปจนถึงการลดภาษีให้คนรวยและกลุ่มธุรกิจขนาดใหญ่ (ฝั่งทรัมป์ก็เถียงว่ามันจะช่วยให้ชีวิตของคนอเมริกันดีขึ้นต่างหาก)
อินโฟกราฟฟิกจากทำเนียบขาว งบประมาณที่ได้เอาไปทำอะไร
กว่าจะมาถึงจุดนี้ ต้องใช้คำว่า“รากเลือด” ก่อนหน้านี้กฎหมายผ่านการโหวตจากวุฒิสภา มาได้อย่างฉิวเฉียดด้วยคะแนน 51 ต่อ 50 หนึ่งเสียงที่ทำให้ชนะคือเจดี แวนซ์ รองประธานาธิบดีของทรัมป์ ซึ่งควบตำแหน่งประธานวุฒิสภาใช้สิทธิ์โหวตช่วยอีกแรง กฎหมายจึงถูกส่งต่อให้สภาผู้แทนราษฎรโหวตขั้นสุดท้าย เพื่อผ่านเป็นกฎหมายจริง
ผ่าน สว. ว่ายากแล้ว สส. นี่แหละงานช้าง เพราะแม้พรรครีพับลิกันจะครองเสียงข้างมากทั้งสภาล่าง (สส.) และสภาสูง (สว.) แต่ก็มากกว่าแค่นิดหน่อย และไม่ใช่รีพับลิกันทุกคนที่เห็นด้วยกับทรัมป์ ซึ่งเสียงของกลุ่มนี้ เมื่อรวมกับฝ่ายเดโมแครต ก็มีมากพอจะทำให้ร่างกฎหมายนี้เป็นอันตกไปและดับฝันทรัมป์ได้เลย
เมื่อมีเสียงที่แตกแถว และรู้ว่ายังไงก็เปลี่ยนใจเดโมแครตไม่ได้ รีพับลิกันจึงต้องงัดทุกวิทยายุทธการเมืองที่มีมาใช้ เพื่อโน้มน้าวให้คนในพรรคที่ไม่เห็นด้วยยอมโหวตให้ร่างนี้ผ่าน โดยคนที่เป็นหัวหอกสำคัญในการรวมเสียงคือ ไมค์ จอห์นสัน ประธานสภาผู้แทนราษฎรจากรีพับลิกัน ผู้เป็นดั่งขุนพลการเมืองคู่ใจ และคอยเป็นหูเป็นตาให้ทรัมป์ในสภาคองเกรส
งานนี้ต่อสายคุยกันจนโทรศัพท์แทบระเบิด มีรายงานจากสื่อด้วยว่า มีช่วงที่ทรัมป์ถึงขั้นโทรไปดีลกับ สส รีพับลิกันที่ไม่เห็นชอบด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นว่าเขาจริงจังและคาดหวังกับเรื่องนี้ขนาดไหน
สุดท้ายความพยายามของจอห์นสันและทรัมป์ก็บรรลุผล พวกเขาสามารถรวมเสียงของรีพับลิกันได้ แม้จะไม่ทั้งหมดแต่ก็เพียงพอให้กฎหมายผ่านในการโหวตวาระแรกแรก (Procedural Vote) ด้วยคะแนน 219 ต่อ 213 ในตอนแรกมี สส. รีพับลิกัน 4 คนโหวตคัดค้าน จนร่างกฎหมายเกือบแท้ง แต่ไม่รู้ว่าจอห์นสันกับทรัมป์เป่าคาถาอะไร สามารถดึงเสียง สส 3 คน ให้เปลี่ยนใจกลับมาโหวตเห็นชอบได้ ก่อนที่เวลาในการโหวตจะหมดลง
กฎหมายจึงเข้าสู่การลงมติขั้นสุดท้าย (Final Passage) และในที่สุดทรัมป์ก็ได้ในสิ่งที่เขาต้องการ ถือเป็นชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ที่สุด นับตั้งแต่เขาเป็นประธานาธิบดีมาเลยก็ว่าได้ นอกจากจะทำให้นโยบายมากมายที่เคยหาเสียงไว้เป็นจริง ยังทำให้อีกหลายคำสั่งที่ทรัมป์เคยประกาศใช้ กลายเป็นกฎหมายถาวร ที่จะอยู่ตลอดไปแม้ทรัมป์หมดวาระไปแล้ว ไม่ใช่สิ่งที่ผู้นำคนถัดไปจะมาเซ็นยกเลิกได้ง่ายๆ เหมือนที่ทรัมป์ทำกับคำสั่งของไบเดนตอนรับตำแหน่งวันแรก หากอยากจะยกเลิก ต้องยื่นแก้กฎหมายในสภา ซึ่งก็คง “รากเลือด” ไม่ต่างกับการผ่านร่าง
ไมค์ จอห์นสัน ขณะประกาศผลโหวตรอบสุดท้าย
เวลานี้ One Big Beautiful Bill กำลังถูกส่งตรงไปที่โต๊ะทำงานของทรัมป์ โดยจะได้ลายเซ็นจากเขาในวันที่ 4 ก.ค. นี้ ซึ่งตรงกับวันชาติสหรัฐอเมริกา ที่ทรัมป์ถือว่าเป็นมหาฤกษ์ จึงเร่งผลักดันกฎหมายให้ทันวันนี้โดยเฉพาะ
ยังไม่มีใครรู้ว่าแผนการใช้จ่ายมหาศาลนี้ จะเป็นคุณหรือโทษต่อสหรัฐอเมริกา แต่หลังจากนี้ ทรัมป์คงถูกจดจำในฐานะ “The Promise Keeper” ผู้รักษาสัญญาที่หาเสียงไว้แล้วทำได้จริง ไม่ได้มีดีแค่ลมปาก และมรดกก้อนโตที่เขาทิ้งไว้ จะติดตัวชาวอเมริกันและประเทศไปอีกนาน ส่วนมันจะเป็น “มรดกบุญ” หรือ “มรดกบาป” คงมีแต่อนาคตเท่านั้นที่จะตอบได้
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย