4 ก.ค. เวลา 12:30 • หนังสือ

“7 สิ่งที่ต้องเลิกทำทันที ถ้าอยากเปลี่ยนชีวิต… เป็นนักเขียนออนไลน์”

“สิ่งที่คุณยอมเลิกวันนี้อาจกลายเป็นจุดเริ่มต้นของชีวิตใหม่ที่จะเปลี่ยนคุณไปตลอดกาล”
คุณเคยฝันอยากเป็นนักเขียนมั้ย?
บางคนฝันตั้งแต่เด็ก แต่ไม่เคยเริ่ม…
บางคนเริ่มแล้วก็หยุด เพราะคิดไปเองว่า “เขียนไม่เก่งพอ” หรือ “ยังไม่พร้อม” ซึ่งแท้จริงแล้วมันไม่ได้เกี่ยวว่าคุณจะต้องมีพรสวรรค์แต่อย่างใด แต่มันเกี่ยวกับ “สิ่งที่คุณยังไม่กล้าปล่อย” ต่างหากล่ะ
เพราะก่อนจะเริ่มต้นใหม่ คุณต้องกล้ายอมรับว่ามีบางสิ่งที่คุณ “ต้องเลิก” เพื่อให้ชีวิตได้ไปต่อ และนี่คือ 7 สิ่งสำคัญที่คุณควรเลิกทำทันที ถ้าคุณอยากเปลี่ยนชีวิตด้วย “ปลายปากกา”
1. เลิกบอกตัวเองว่า “ฉันเขียนไม่เก่งพอ”
ไม่มีนักเขียนคนไหนที่เก่งตั้งแต่บรรทัดแรกหรอกค่ะ ทุกคนเริ่มจากศูนย์ทั้งนั้น โดยเริ่มเขียนจากคำง่ายๆ เริ่มจากเรื่องของตัวเองก่อน และถ้าคุณผ่านอะไรมามากในชีวิต นั่นแหละคือขุมทรัพย์สำหรับการเขียน คุณไม่ต้องเริ่มจากคำสวยหรู แค่ “เขียนจากความจริง” แล้วค่อยๆ ฝึกพัฒนาไปก็พอ
ตัวอย่าง
คุณอาจเริ่มต้นจากการเขียนเรื่องของตัวเอง เช่น “วันที่ฉันล้มป่วยแต่ไม่ยอมแพ้” หรือ “เริ่มต้นเขียนในวัยเกษียณ” เรื่องเหล่านี้คือพลังที่ทำคนอยากอ่าน เพราะมันเป็นเรื่อง “จริง” และ “จับใจ”
2. เลิกผัดวันประกันพรุ่ง
นักเขียนออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จ ไม่ใช่คนที่มีเวลาว่างที่สุด แต่คือคนที่ “ไม่ต้องรอให้พร้อม” แล้วลงมือเขียนเลย เขียนวันละหน้า สองหน้า หรือแม้แต่วันละย่อหน้า นั่นคือความก้าวหน้าแล้วค่ะ
ตัวอย่าง
แทนที่คุณจะบอกว่า “พรุ่งนี้ค่อยเขียน” ให้ลองตั้งเวลาสัก 20 นาทีหลังตื่นนอน แล้วลงมือเขียนเรื่องแรกทันที แล้วคุณจะพบความจริงว่า “ยิ่งเขียนมากเท่าไร ก็ยิ่งอยากเขียนอีก”
3. เลิกคิดว่าต้องรอไอเดียสมบูรณ์ก่อน
จำไว้นะคะว่าไอเดียที่ดีไม่ใช่สิ่งที่ “รอให้มา” แต่มันคือสิ่งที่เกิดขึ้นระหว่าง “ลงมือเขียน” คุณอาจเริ่มต้นด้วยหัวข้อง่ายๆ เช่น “สิ่งที่ฉันเรียนรู้จากการล้มเหลว” แล้วเนื้อหาอื่นจะค่อยๆ เติมมาเอง
ตัวอย่าง
ให้คุณลองนั่งหน้าจอ เปิดไฟล์ Word แล้วพิมพ์หัวข้อว่า “ชีวิตใหม่ในวัย 60” โดยเริ่มต้นง่ายๆ แค่เล่าว่าเคยทำงานอะไรมาก่อน แล้ววันหนึ่งก็เกิดอยากเขียนขึ้นมา เชื่อได้เลย! พอเริ่มพิมพ์เท่านั้นแหละคำต่างๆ ก็จะพรั่งพรูออกมาเองอย่างน่าอัศจรรย์
4. เลิกเปรียบเทียบตัวเองกับนักเขียนคนอื่น
เขาคนนั้นอาจเขียนมานานแล้ว เขาอาจมีผลงานขายดี มีชื่อเสียงในวงการนักเขียน แต่นั่นไม่ใช่เหตุผลที่คุณควรหยุดก้าวต่อไป นักเขียนทุกคนย่อมมี “เสียงของตัวเอง” ทั้งนั้น เสียงของคุณในวันนี้อาจยังไม่ชัดเจน แต่เชื่อเหอะทุกครั้งที่คุณลงมือเขียน เสียงนั้นมันจะค่อยๆ ดังขึ้นๆ เองค่ะ
ตัวอย่าง
แทนที่คุณจะกังวลว่า “งานของฉันยังไม่ดีพอเท่าเขา” ขอให้กลับมาโฟกัสว่า “วันนี้ฉันได้เขียนหรือยัง?” แค่นั้นพอ! ทำเช่นนี้แล้วคุณจะชนะตัวเองในทุกๆ วัน
5. เลิกกลัวคำวิจารณ์
ทุกงานเขียนย่อมมีทั้งคนชอบและไม่ชอบ เป็นเรื่องปกติ ขอแค่เปิดใจฟัง แล้วเลือกเก็บเฉพาะคำแนะนำที่ช่วยให้คุณได้พัฒนา อย่าให้คำวิจารณ์มาเป็นกำแพงปิดกั้น แต่ให้มันเป็นบันไดให้คุณก้าวไปต่อ เพราะนักเขียนทุกคนก็เคยได้ยินคำว่า “ยังไม่ดีพอ” มาแล้วทั้งนั้น
ตัวอย่าง
ถ้ามีคนบอกว่าบทความของคุณ “อ่านเข้าใจยาก” ก็อย่าเพิ่งท้อ แต่ให้ใช้คำแนะนำนั้นมาปรับการเขียนให้กระชับขึ้น เข้าใจง่ายขึ้น และใช้ภาษาที่เป็นกันเองมากขึ้น เพราะนั่นคือโอกาสที่คุณจะได้พัฒนาและก้าวไปในทางที่ดีขึ้นค่ะ
6. เลิกอยู่ในสภาพแวดล้อมที่ไม่สนับสนุน
ถ้าคนรอบตัวทำให้คุณเริ่มหมดกำลังใจ จงรีบหาพื้นที่ใหม่ที่มีพลังบวก เช่น เข้ากลุ่มนักเขียนใน Facebook, เรียนการเขียนออนไลน์ หรือฟัง Podcast การได้อยู่ในวงล้อมของคนที่ “เชื่อในฝัน” เหมือนๆ กัน คือการเติมเชื้อไฟชั้นดีนั่นเอง
ตัวอย่าง
คุณอาจตั้งเป้าว่าจะอ่านโพสต์จากเพจๆ หนึ่งที่เกี่ยวกับงานเขียนทุกวัน หรือคุยกับเพื่อนที่เป็นนักเขียนด้วยกันวันละ 10 นาที แค่นี้ก็ช่วยให้คุณรู้สึกไม่เดียวดายในการก้าวเดินไปแล้วค่ะ
7. เลิกคิดว่า “อายุมากแล้ว จะเขียนไปทำไม”
จำไว้นะคะ ชีวิตไม่มีคำว่าสายเกินไป คุณเขียนเพื่อถ่ายทอดประสบการณ์ เพื่อส่งต่อหัวใจผ่านปลายปากกา บางคนเริ่มเขียนตอนอายุ 60 แต่กลับมีคนอ่านและติดตามทั่วประเทศ เพราะสิ่งที่คนต้องการ ไม่ใช่ความเพอร์เฟกต์ แต่คือความจริงใจจากคนที่เคยผ่านเรื่องราวมา แล้วกล้าเล่าออกมาต่างหาก
ตัวอย่าง
ถ้าคุณเขียนเรื่อง “ชีวิตหลังเกษียณ” แล้วเล่าว่าเริ่มเขียนตอนอยู่ในโรงพยาบาล นั่นแหละคือเรื่องจริงที่ “คนจะหยุดอ่านไม่ได้” เพราะมันเต็มไปด้วยความรู้สึก และความเป็นชีวิตจริงที่คนอ่านสัมผัสได้
สรุป
บางคนไม่กล้าเริ่มเขียน ไม่ใช่เพราะเขียนไม่ได้ แต่เพราะเขายังไม่กล้าปล่อยบางอย่างที่ฉุดรั้งไว้
เมื่อคุณเลิกกลัว เลิกผัดวัน เลิกเปรียบเทียบ คุณจะพบว่าความฝันมันไม่ไกลอย่างที่คิดและปลายปากกาในมือคุณนี้เอง ที่จะเป็นกุญแจทองพร้อมเปิดประตูให้คุณได้ก้าวสู่ชีวิตใหม่
จงลุกขึ้นมาเขียนเถอะค่ะ แม้วันนี้ยังไม่มีใครอ่าน แต่อย่าท้อ เพราะวันหนึ่งงานเขียนของคุณอาจเป็นแรงบันดาลใจให้ใครอีกหลายคนบนโลกใบนี้.
โฆษณา