10 ก.ค. เวลา 02:24 • ความคิดเห็น

"โตมารู้เลยว่า...ไม่มีอะไรฟรี แม้แต่ความฝัน"

— เมื่อชีวิตต้องเลือกระหว่าง “สิ่งที่อยากทำ” กับ “สิ่งที่ต้องทำ”
---
สมัยเด็ก ใครๆ ก็พูดว่า
> “ให้ตามหาความฝันของตัวเอง”
“อย่าหยุดเชื่อในสิ่งที่ใจอยากเป็น”
“ความพยายามอยู่ที่ไหน ความสำเร็จอยู่ที่นั่น”
แล้วพอโตมา...
ความจริงก็เดินมาบอกเราตรงๆ ว่า:
> “ที่ไหนล่ะ? ลำพังเงินเดือนยังไม่พอค่าเช่าห้องเลย”
---
ฝันมันฟรี…แต่จะทำตามฝัน มันมีค่าใช้จ่าย
อยากลาออกไปเปิดร้านกาแฟ → ต้องมีเงินลงทุน + ทุนสำรองขั้นต่ำ 6 เดือน
อยากเป็นนักวาด → ต้องมีเวลาว่างจากงานประจำที่ดูดพลังจนหมด
อยากไปเรียนต่อต่างประเทศ → ค่าเทอม ค่าที่พัก ค่าใช้จ่ายแอบน่ากลัว
เราถูกบอกให้ตามฝัน
แต่ลืมบอกว่า “ความฝันก็ต้องผ่อนแบบมีดอกเบี้ย”
---
ตลกร้ายของชีวิตวัยทำงานก็คือ...
> บางทีเรารู้ชัดว่าตัวเองอยากทำอะไร
แต่เราต้อง “พักฝันไว้ก่อน”
เพื่อแลกกับความมั่นคงแบบที่ไม่รู้ว่ามันมั่นคงจริงไหม
เราไม่ได้หยุดฝันเพราะขี้เกียจ
แต่เพราะ…ชีวิตจริงมันไม่ขำเหมือนคำคมในอินเทอร์เน็ต
---
แล้วเราควรยอมแพ้ไหม?
ไม่ต้องยอมแพ้…แต่ควรปรับแผน
ถ้าเลิกฝันไม่ได้ → ก็เก็บฝันไว้ในรูปแบบ “โปรเจกต์ข้างเคียง”
ถ้าทำเต็มเวลาไม่ได้ → ก็เริ่มเล็กๆ ทีละนิด
ถ้าไม่มีเงิน → ก็ใช้เวลาเป็นทุนก่อน
เพราะคนที่ได้ทำในสิ่งที่รัก ไม่ได้เริ่มจาก “พร้อม”
แต่เริ่มจาก “ไม่ยอมรอให้พร้อม 100%”
---
ความฝันไม่ต้องใหญ่เสมอไป…แค่ไม่ลืมว่ามันมีอยู่ ก็พอ
บางคนแค่นั่งเขียนบทความตอนกลางคืน
บางคนแค่เปิดกล้องสอนภาษาออนไลน์ตอนวันหยุด
บางคนแค่ฝึกทำขนมขายในกลุ่มเพื่อน
และบางคน...ก็แค่ “ยังไม่ลืมว่าเคยฝันอะไร”
---
บทสรุป: ไม่มีอะไรฟรี แม้แต่ความฝัน
เพราะความฝัน…ก็ต้องจ่ายด้วยเวลา, พลังใจ, ความอดทน และความพยายาม
แต่ข่าวดีคือ…
ยังไม่มีใครเก็บภาษีจาก “คนที่กล้าทำตามฝัน”
คุณอาจยังไม่สำเร็จวันนี้
แต่อย่างน้อย…คุณก็ไม่ได้ลืมว่าตัวเองอยากไปที่ไหน
และแค่นั้น…ก็ถือว่าคุณชนะคนที่ยอมลืมมันไปแล้วครึ่งหนึ่ง
โฆษณา