Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
7 ก.ค. เวลา 08:48 • ข่าวรอบโลก
♟️ ‘เจรจาเงื่อนไขภาษีในสงครามการค้า' หรือ 'เกมวัดใจ'? 🇹🇭-🇺🇸
ถอดรหัสกลยุทธ์เจรจาที่ไทยต้อง 'อ่านเกม’ อย่างไร…ไม่ให้ 'แพ้' ทั้งกระดาน! 💥
เมื่อ "การเจรจา" ไม่คืบหน้า...ปัญหาอยู่ที่ "ทีมไทย" หรือ "เกมของมหาอำนาจ"?
ท่ามกลางความตึงเครียดของเศรษฐกิจโลก "การเจรจาการค้า" ระหว่างประเทศไทยและสหรัฐอเมริกา คือหนึ่งในสมรภูมิที่คนไทยทั้งประเทศจับตามองด้วยความหวังและความกังวล แต่เมื่อการเจรจาดูเหมือนจะ "ยืดเยื้อ" และ "ไม่คืบหน้า" อย่างที่หวัง เสียงวิพากษ์วิจารณ์ก็เริ่มดังขึ้น...หลายคนอาจจะด่วนสรุปว่า "ทีมเจรจาของไทยไม่เก่งพอ" หรือ "เรากำลังจะเสียเปรียบ"
แต่จะเกิดอะไรขึ้นถ้าปัญหาที่แท้จริงมัน "ใหญ่กว่า" และ "ซับซ้อนกว่า" แค่ความสามารถของคนไม่กี่คน? จะเกิดอะไรขึ้นถ้าทั้งหมดนี้คือ "เกมจิตวิทยา" และ "กลยุทธ์ระดับโลก" ที่มหาอำนาจอย่างสหรัฐฯ กำลังวางหมากเพื่อ "บีบ" ให้ทุกประเทศต้องเดินไปในทางที่พวกเขาต้องการ?
บทความนี้ไม่ได้มาตัดสินว่าใครถูกใครผิดนะครับ แต่จะชวนคุณมา "คิดให้ลึก แต่เข้าใจง่าย" เพื่อ "ถอดรหัสกลยุทธ์" ที่ซ่อนอยู่เบื้องหลังโต๊ะเจรจา, วิเคราะห์ "บทเรียน" จากประเทศที่ปิดดีลไปแล้ว, และสำรวจ "ทางเลือกเชิงกลยุทธ์" ที่ประเทศไทยควรจะ "เดินหมาก" อย่างไรในเกมที่เดิมพันด้วยอนาคตของประเทศเกมนี้
====
1. "More, More, More" – ถอดรหัสกลยุทธ์ "บีบให้ยอม" ของสหรัฐฯ ที่ใช้กับทั้งโลก 🇺🇸
หากมองจากภายนอก สหรัฐฯ ดูเหมือนจะมีอำนาจต่อรองที่เหนือกว่าอย่างมหาศาล แต่หากสังเกตให้ดีจะพบว่ากลยุทธ์ของพวกเขาเต็มไปด้วยการวางจิตวิทยาแยบยล ไม่ได้อาศัยแค่พลังเศรษฐกิจอย่างเดียว
* กลยุทธ์ "More, More, More": ไม่ว่าจะเสนออะไรไป คำตอบที่ได้กลับมาคือ "ยังไม่พอ...ต้องให้มากกว่านี้" เป็นการสร้างแรงกดดันให้ทีมเจรจาของแต่ละประเทศกลับไปมือเปล่า พร้อมเสียงวิจารณ์จากในประเทศตัวเอง
* เป้าหมายที่แท้จริง: ไม่ได้ต้องการแค่ข้อเสนอจากอีกฝ่าย แต่ต้องการสร้างแรงกดดันจากภายในประเทศนั้นๆ ให้บีบรัฐบาลตัวเอง เช่น เสียงด่าจากประชาชน, แรงกดดันจากภาคธุรกิจ, หรือสื่อที่ทำให้ทีมเจรจาดู "ล้มเหลว"
* "ปากกล้า แต่ขาสั่น?": บางฝ่ายวิเคราะห์ว่า แม้สหรัฐฯ แสดงความแข็งแกร่ง แต่ก็มีข้อเปราะบางอยู่ไม่น้อย เพราะหากหลายประเทศพร้อมใจกัน "ไม่ยอม" เดินตามเกม ก็อาจเกิดผลกระทบเชิงโครงสร้างต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ เอง การที่สหรัฐฯ ตัดสินใจ "ขยายเส้นตายเงียบๆ" จึงอาจสะท้อนสัญญาณของความลังเลและความไม่มั่นใจในระยะหลัง
คำถามชวนคิด: สหรัฐฯ กำลังเจรจาด้วย "อำนาจที่แท้จริง" หรือกำลังใช้ "จิตวิทยา" เพื่อสร้างภาพลวงตาแห่งความแข็งแกร่ง?
====
2. ตัวอย่างบนกระดานหมากรุกโลก: บทเรียนจาก "สหราชอาณาจักร-จีน-เวียดนาม" ♟️
เพื่อให้กลยุทธ์ "บีบให้ยอม" นี้ทรงพลังยิ่งขึ้น สหรัฐฯ ดูเหมือนจะเลือกวางหมาก "ตัวอย่าง" (Exemplars) เอาไว้ล่วงหน้า เพื่อใช้เป็นบรรทัดฐานในการเจรจากับประเทศอื่นๆ
1. สหราชอาณาจักร (The Ally - มหามิตร): ได้ดีลที่ดีที่สุด เพราะเป็นพันธมิตรเหนียวแน่น และเพื่อใช้เป็นตัวอย่างว่า "หากคุณอยู่ข้างเรา คุณจะได้ประโยชน์"
2. จีน (The Rival - คู่แข่ง): ได้ดีลที่แย่ที่สุด เพื่อแสดงให้เห็นว่าผู้ท้าทายจะถูกลงโทษ และเพื่อส่งสัญญาณไปยังประเทศอื่นไม่ให้เดินรอยตาม
3. เวียดนาม (The New Benchmark - บรรทัดฐานใหม่): เป็นตัวอย่างของประเทศที่สามารถปิดดีลได้ด้วยการยอมเงื่อนไขหลายอย่าง ทำให้สหรัฐฯ ใช้เวียดนามเป็น "เพดานสูงสุด" ในการเจรจากับประเทศที่เหลือ
====
3. กลยุทธ์ของ "ประเทศเล็ก" ในเกมของ "ยักษ์ใหญ่": ประเทศไทยควร "เดินหมาก" อย่างไร? 🇹🇭
ในสถานการณ์ที่ซับซ้อนและเปราะบาง ประเทศไทยจำเป็นต้องเลือก "แนวทางที่ชาญฉลาด" ไม่ใช่เพียงแค่เลือกฝั่ง แต่คือการเดินเกมให้เกิดความคุ้มค่าในระยะยาว
1. อย่าเป็น 'คนแรก' และอย่าเป็น 'คนสุดท้าย': คนแรกมักเสียเปรียบ คนสุดท้ายมักโดนบีบหนักที่สุด ช่วงเวลาที่เหมาะสมคือช่วงกลางเกม ซึ่งสามารถสังเกตท่าทีของผู้เล่นก่อนหน้าได้
2. ใช้ 'เวียดนาม' เป็น 'เพดานสูงสุด' ไม่ใช่ 'พื้นฐาน': หากเวียดนามยอมมาก ไทยไม่จำเป็นต้องเดินตามทั้งหมด เราสามารถใช้เป็นกรอบบน (ceiling) แล้วค่อยๆ เปิดไพ่ของตัวเองด้วยความระมัดระวัง
3. แลก 'ผลประโยชน์ระยะสั้น' เพื่อปกป้อง 'ผลประโยชน์ระยะยาว':
* สิ่งที่อาจยอมได้: เช่น การเปิดทางให้กับการนำเข้าสินค้าที่เราต้องใช้อยู่แล้ว
* สิ่งที่ต้องรักษาไว้: เช่น ภาคเกษตรกรรม บริการบางประเภท หรือทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคงระยะยาว
4. ตอบโต้อย่างมีศิลปะ ไม่ใช่ด้วยการปฏิเสธ: การเจรจาไม่ควรใช้แค่การยืนยันหรือปฏิเสธ แต่ควรใช้เทคนิคต่อรอง เช่น การเสนอทางเลือก, การชะลอการตอบ, หรือการเรียกร้องสิทธิพิเศษเพิ่มเติมในประเด็นอื่น เพื่อลดแรงกดดันในข้อเสนอหลัก
การเจรจาไม่ใช่การแข่งขันเพื่อ "ชนะทุกเรื่อง" แต่คือการรู้ว่าเรื่องใดควร "ยอมได้บางส่วน" เพื่อรักษาโครงสร้างใหญ่ไว้ได้ครบ
====
ดังนั้น ไม่ต้อง "ชนะ" แต่จง "อย่าแพ้หลุดลุ่ย" – เป้าหมายอย่างน้อยของไทยที่ต้องทำให้ได้ 🏆
หากเราเดินเกมด้วยสติ ความยืดหยุ่น และระยะยาว การได้ดีลที่ "ยอมน้อยกว่าเวียดนาม 20%" อาจถือเป็นชัยชนะที่เหมาะสมแล้วในบริบทของเรา เป้าหมายไม่ใช่การเป็นผู้ชนะที่เด็ดขาดในเกมมหาอำนาจ แต่คือการออกจากเกมโดยไม่เสียโครงสร้างสำคัญของประเทศ
ข้อคิดปิดท้าย
"ในเกมที่เราไม่ได้เป็นคนกำหนดกติกา การยืนอยู่ให้ครบยก และเดินออกจากเวทีอย่างไม่บอบช้ำ... อาจคือชัยชนะที่ชาญฉลาดที่สุดที่เราควรออกแบบเอง"
#วันละเรื่องสองเรื่อง #การเมืองระหว่างประเทศ
#เจรจาการค้าไทยสหรัฐ
#วิเคราะห์การเมือง #กลยุทธ์ประเทศไทย
#เกมของมหาอำนาจ
#StrategicNegotiation #ThailandsStrategy
#ReadTheGame
เศรษฐกิจ
เศรษฐกิจไทย
เศรษฐกิจโลก
บันทึก
2
1
2
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย