7 ก.ค. เวลา 13:02 • สัตว์เลี้ยง

🐾 เจ้าเหมียว

ใครบอกล่ะว่าแม่ฉันเลี้ยงแค่ไก่กับเป็ดเท่านั้น แม่ฉันนี่แหละ...ทาสแมวของแท้! รุ่นบุกเบิก! ยุค 80's!
นอกจากแม่จะเลี้ยงไก่กับเป็ดหลังบ้าน
ในบ้านยังมีแมวอีกสามตัวที่แม่ดูแลเหมือนเป็นลูกอีกคน
เจ้าเทา เจ้าดำ และเจ้าเหลือง
เจ้าเหลืองเป็นตัวเมีย ขี้อ้อน และ...เนื้อหอม
ช่วงนี้มันกำลังเป็นแม่ลูกอ่อน
มันแอบไปคลอดลูกไว้ในลังใต้บันไดขึ้นเหล่าเต้ง
ซ่อนลึกเสียจนไม่มีใครรู้ จนได้ยินเสียงลูกแมวร้องแผ่วๆ ในวันฝนพรำ
ฉันไม่รู้หรอกว่าใครเป็นพ่อของลูกแมว
ระหว่างเจ้าเทากับเจ้าดำ
เพราะบางคืนมันก็ร้องตามหากัน
บางคืนก็เหมือนข่มกัน แข่งเสียงคำรามลั่นหลังบ้าน
ดึกๆ ทีไร พอเงียบทั้งหมู่บ้าน
เสียงฝีเท้าแมววิ่งวอ่งบนชั้นไม้ก็โครมครามจนฉันสะดุ้งตื่น
เสียงลากกงเล็บ เสียงครางต่ำๆ ราวกับกำลังท้าทายกัน
แต่ในขณะเดียวกัน เสียงพวกนี้...ก็เหมือนเฝ้าบ้านไปในตัว
เจ้าหนูบ้านที่เคยวิ่งพล่านหายหัวไปหลายวัน
แม่ว่าแมวคงช่วยไล่มัน
เพราะนานๆ ที ฉันก็จะเห็นงูเลื้อยเข้ามาในครัว
เข้ามากินหนูเงียบๆ แล้วหายกลับไปทางเดิม
พ่อบอกว่า "งูบ้านพวกนี้กลัวคน ไม่ทำอะไรหรอก"
แต่สำหรับฉัน...งูก็คืองู
อสรพิษตัวเย็นๆ ที่ไม่ว่าอย่างไรก็น่ากลัวอยู่ดี
และบางที...
เสียงคำรามของแมวตอนดึก กับแววตาของเจ้าเหลืองที่กอดลูกไว้แนบอก
มันก็ทำให้บ้านไม้หลังนี้รู้สึกปลอดภัยขึ้นมานิดหน่อย
แม้จะมีบางคืนที่เสียงมันดังเกินนอนไปบ้างก็ตาม
🐾 "ใครกันแน่...ที่ทำขี้ไว้บนเหล่าเต๊ง"
ในบรรดาแมวสามตัวใหญ่ของแม่
ตัวที่ดูน่าสงสารที่สุดก็คงไม่พ้น “เจ้าเทา”
มันพิการที่ตาข้างหนึ่ง
ไม่รู้ไปโดนอะไรมา แม่บอกว่าเจอข้างทางตอนยังลูกแมว เลยเก็บมาเลี้ยง
ตอนนั้นมันตัวเล็กแห้งเหมือนลูกนกตกน้ำ
แม่เห็นก็สงสาร จับมาเช็ดตัว หยอดยา แล้วตั้งชื่อให้ว่า “เจ้าเทา”
อีกตัวคือ “เจ้าดำ” — หัวโจกของบ้าน
ขี้วุ่น วิ่งไล่หนูจนแก้วจานตก แตกเสียงดังโครมคราม
เศษอาหารหกกระจายเหมือนผ่านสงคราม
แถมยังชอบสำรอกไว้ตามมุมบ้าน
พอเราหาที่วางแก้วน้ำไม่ได้ ให้ลองมองซ้ายขวา…เพราะอาจมีของแถมจากเจ้าดำอยู่แถวนั้น
อยู่มาวันหนึ่ง แม่ขึ้นไปบนชั้นเหล่าเต๊ง
แล้วก็พบกองของขวัญ...ขี้แมว
แม่บ่นอุบอิบ แต่ก็เก็บไปทิ้ง
พอวันต่อมา...ก็เจออีก
วันต่อๆ มาก็ยังเจอ
จากขี้เล็กกลายเป็นเรื่องใหญ่ในบ้านทันที
แม่เริ่มสงสัยว่า “ไม่เจ้าดำ ก็เจ้าเทา” นี่แหละ ตัวการ
พอเจ้าดำสำรอกอีกมุมหนึ่ง แม่ตัดสินใจจับมัน “กักตัวชั่วคราว”
ไม่ปล่อยขึ้นบ้าน แต่ยังให้อาหารตามปกติ
ส่วนเจ้าเทายังเดินเพ่นพ่านได้เหมือนเดิม
แต่...เรื่องมันไม่จบแค่นั้น
ไม่นานแม่ก็ขึ้นไปเจอกองขี้แมวบนเหล่าเต๊งอีก—ที่เดิม!
คราวนี้แม่มั่นใจแล้วว่า...“ไม่ผิดตัว”
เจ้าเทานี่แหละ
แมวตาเดียวผู้เงียบเฉียบแต่ทิ้งร่องรอยได้แม่นยำ
แม่ถอนหายใจหนักๆ แล้วสลับแผน
ปล่อยเจ้าดำออกมาร้องหง่าวอย่างดีใจ
แล้วเปลี่ยนไปกักตัวเจ้าเทาบ้าง เพื่อดัดนิสัย
แต่หลังจากเหตุการณ์วันนั้น…
เจ้าเทาเหมือนจะไม่ยอมกลับขึ้นบ้านอีกเลย
มันออกไปเดินเพ่นพ่านหากินอย่างอิสระ
หายไปตามชายสวน หายไปในความเงียบ
ฉันไม่รู้ว่าเจ้าเทาจะไปอยู่ตรงไหน
หรือจะกลับมาไหม
แต่ที่แน่ๆ...ตอนนี้สายตาฉันจับอยู่ที่ “เจ้าตัวเล็ก”
ลูกแมวที่เพิ่งลืมตาดูโลก
ดูดนมแม่มันอย่างเพลิน จนหัวเล็กๆ นั้นสั่นดุ๊กดิ๊ก
ฉันนั่งมองมันแล้วอดยิ้มไม่ได้
อดคิดไม่ได้ว่า...
ในบ้านไม้ที่เต็มไปด้วยเรื่องวุ่นวาย
ในกลิ่นขี้แมวที่แม่บ่น
ในเสียงวิ่งโครมครามบนพื้นไม้
ชีวิตเล็กๆ พวกนี้ก็ยังเติบโตด้วยความรักแบบงงๆ ของเรานี่แหละ
รออยู่นะ...เจ้าตัวเล็ก 😽
บ้านเรานี่แหละ คือสนามเด็กเล่นของเธอ
แม่ก็เป็นแบบนี้แหละ
ดูอ่อนโยน พูดเบาๆ แต่ก็มีระเบียบของแม่เองที่แน่วแน่
แม่ไม่เคยตีแมวแรงๆ แต่ก็ไม่ปล่อยให้ทำตามใจ
แค่เสียงเรียกสั้นๆ หรือจ้องด้วยสายตานิ่งๆ
เจ้าแมวพวกนั้นก็ยอมเดินออกจากครัวอย่างรู้หน้าที่
บางที...ฉันก็มองภาพนั้นแล้วนึกย้อนถึงตัวเอง
แม่ก็เลี้ยงฉันแบบนั้นเหมือนกัน
ไม่ได้ใช้ไม้เรียว ไม่ได้พูดเสียงดัง
แต่ฝึกให้ฉันตักข้าวเองตั้งแต่ยังไม่ถึงขอบหม้อ
ให้ล้างจาน ล้างรองเท้า เก็บเสื้อผ้า เก็บความคิด
แม่ไม่เคยพูดตรงๆ ว่า
“ให้หัดมีวินัย”
แต่การกระทำของแม่มันบอกอยู่ทุกวัน
บางที...ฉันก็รู้สึกว่า
แม่เลี้ยงฉันให้รู้จักรับผิดชอบ
ไม่ต่างจากเจ้าเหมียวตัวนั้นเลย
โฆษณา