Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เจแปน - แจนแปล
•
ติดตาม
8 ก.ค. เวลา 05:14 • ข่าวรอบโลก
“ เขาเกิดมาเพื่อเป็นหมอ แม้ไม่ได้เป็นหมอ แต่ก็ไม่เคยคิดเลิกเป็นหมอ ”
ซ้ำชั้น 11 ปี
ซ้ำหลักสูตรอีก 6 ปี
สอบไม่ผ่านอีก 5 ปี
แม้ถูกบอกว่า
“คุณไม่มีความเหมาะสม”
แต่เขาก็ไม่เคยเลิกตามความฝัน
30 ปีที่ไล่ตามเป้าหมาย
ใช้เงินไปแล้วราว 20 ล้านเยน
เขาพยายามสอบเข้าคณะแพทย์ถึง 11 ปี
จากนั้นใช้เวลาถึง 14 ปี กว่าจะเรียนจบมหาวิทยาลัยนั้น
และหลังเรียนจบ
เขาก็สอบตกใบประกอบโรคศิลป์…ติดต่อกัน 5 ปี
30 ปีที่เขาไล่ตามความฝัน
และตอนนี้
เขายังพูดว่า
“それでも私は決して諦めません”
“ถึงอย่างนั้น…ผมก็จะไม่มีวันยอมแพ้”
นี่คือเรื่องราวของ
จินจิน
ชายวัย 48 ปี
ที่ยังเป็นเพียง “ไข่ของหมอ”
ชีวิตของเขา…
เต็มไปด้วยความวกวน และไม่ธรรมดา
—⸻
|หนังสือเล่มหนึ่ง ที่เปลี่ยนทิศชีวิต
หนังสือเล่มหนึ่งที่ได้อ่านตอนอายุ 20
ทำให้เขาตัดสินใจเดินบนเส้นทางของจิตแพทย์
⸻
เดือนมีนาคมปีนี้
ผลสอบใบประกอบโรคศิลป์
ที่จัดขึ้นเมื่อเดือนก่อน
ถูกส่งมาถึงมือของจินจิน
ข้อสอบภาคบังคับ
ต้องได้ 160 คะแนนขึ้นไปจาก 200 คะแนน
แต่เขาได้ไม่ถึง ขาดไป 10 คะแนน
นี่คือการสอบตก…เป็นปีที่ 5 ติดต่อกัน
แต่ผู้ชายคนนี้
ไม่ใช่คนที่จะพ่ายแพ้เพราะเรื่องแค่นี้
“ไม่หรอกครับ แน่นอนว่าตกใจนะ
แต่ก็ทำได้ใกล้เคียงมากแล้ว
ผมคิดว่า…เอาน่า รีเซ็ตแล้วเริ่มใหม่อีกพรุ่งนี้ก็แล้วกัน”
ซ้ำชั้น 11 ปี
ซ้ำหลักสูตร 6 ปี
สอบตกใบประกอบ 5 ปี
ในขณะที่บางคน
แค่ซ้ำชั้นหรือสอบตกปีเดียว
ก็ท้อแท้จนหมดหวัง
แต่จินจินกลับใช้ชีวิต
เหมือนเป็นตัวแทนของคำว่า “ไม่ยอมแพ้”
⸻
|แล้วทำไมถึงยึดติดกับอาชีพนี้?
“ผมแค่อยากช่วยคนที่ลำบาก
แค่นั้นเองครับ”
คำตอบที่ฟังดูดีเกินไปแบบนั้น
บางคนที่อ่านมาถึงตรงนี้
อาจจะเผลอคิดในใจว่า
“จริง ๆ แล้วก็แค่อยากรวย
อยากมีคนชอบนั่นแหละ
ไม่ได้อยากช่วยคนหรอก”
ลองฟังเขาพูดอีกสักหน่อย
“ถามว่าอะไรเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้ผมอยากเป็นหมอเหรอครับ?
ผมก็แค่…
รู้สึกชื่นชอบอาชีพหมอมาตั้งแต่ประถมน่ะครับ
ตอนมัธยมปลาย
ก็คิดไว้ลาง ๆ ว่าถ้าได้เป็นหมอ
ก็น่าจะอยากเป็นหมออายุรกรรม
แต่พออายุ 20
ผมได้อ่านหนังสือเกี่ยวกับจิตเวชเล่มหนึ่ง
ชื่อว่า 『心の病理を考える』
เขียนโดยคุณหมอคิมุระ บิน (木村敏)
หนังสือเล่มนั้นทำให้ผมประทับใจมากครับ
อีกอย่าง ตอนมัธยม
ผมมีเพื่อนสนิทคนหนึ่ง
ที่ซึมเศร้าจนต้องลาออกจากมหาวิทยาลัย
พอเจอเรื่องแบบนั้น
มันทำให้ผมสนใจ
‘การพิสูจน์ความเจ็บป่วยของใจ’ อย่างมาก
แล้วก็ตัดสินใจ…
ว่าจะเป็นจิตแพทย์ครับ”
⸻
|คนธรรมดาในโลกของคนเก่ง
แม้จะมีจุดเปลี่ยนของชีวิต
มาจากเหตุบังเอิญเล็ก ๆ
แต่ในโลกของแพทย์
ที่เต็มไปด้วยคนที่ทำคะแนนได้ดีที่สุด
ตั้งแต่สมัยเป็นนักเรียน
จินจิน
ก็เป็นแค่ “คนธรรมดา” คนหนึ่ง
“โรงเรียนมัธยมของผม
ก็ไม่ใช่โรงเรียนดังอะไรนะครับ
แล้วผลการเรียนของผมตอนนั้น
ก็แค่ปานกลาง ไม่ได้โดดเด่นอะไรเลย
ถ้าถามว่า
คนแบบผมจะเป็นหมอได้ไหม…
ตอนนั้นผมก็ไม่ได้คิดอะไรลึกซึ้งขนาดนั้น
แค่คิดว่า ลองพยายามดูละกัน
พ่อแม่ก็ให้กำลังใจครับ”
“แต่พอเริ่มสอบตกซ้ำ ๆ ตอนเข้ามหาวิทยาลัย
ผมก็เริ่มคิดแล้วล่ะครับว่า
‘หรือจริง ๆ แล้ว เราอาจจะไปไม่ไหวจริง ๆ ก็ได้’ ”
แล้วเขาก็ต้องใช้เวลา 11 ปี
ในการก้าวข้าม “ด่านแรก” ที่ชื่อว่า “สอบติดคณะแพทย์”
พ่อแม่
ที่เคยคอยให้กำลังใจในตอนแรก
ก็เริ่มหมดคำจะพูด…ในช่วงเวลานั้น
⸻
หน้า 2 |ชีวิตในคณะแพทย์ ที่ไม่ได้ง่ายอย่างที่คิด
ในที่สุด
เขาก็สอบติดคณะแพทย์…ที่เฝ้ารอมานาน
ตอนนั้น อายุ 29 ปี
มหาวิทยาลัยที่สอบติดคือ
มหาวิทยาลัยฮิโรชิมะ — ไกลจากบ้านเกิดที่นาโกย่า
เป็นคณะแพทย์ของมหาวิทยาลัยรัฐ ที่ขึ้นชื่อเรื่องความยาก
ครอบครัวของเขา
ไม่ได้ร่ำรวย
มหาวิทยาลัยเอกชนจึงไม่เคยอยู่ในทางเลือก
นี่คือเส้นทางเดียว
ที่เขาพอจะเปิดออกมาได้ เพื่อไปให้ถึงฝัน
“ตอนนั้นผมรู้สึกว่า
ในที่สุดก็จบลงสักที
แล้วก็คิดว่า จากนี้คงไม่มีเวลาย่ำเท้าอยู่กับที่อีกแล้ว
มองโลกในแง่ดีเลยครับ ว่าคงไปได้สวย
แล้วจะให้พูดว่า
ไม่เคยจินตนาการถึงชีวิตมหา’ลัยอันสดใสในฐานะนักศึกษาแพทย์เลย
ก็คงโกหกน่ะครับ… (หัวเราะเจื่อน ๆ)”
⸻
|เข้าสังคมไม่ได้ จนกลายเป็นโรคซึมเศร้าเสียเอง
แต่กับนักศึกษารุ่นปกติ
เขาก็เป็น “ลุง” ที่แก่กว่าถึง 11 ปี
เขามักถูกมองด้วยสายตา
ที่เหมือนเป็นสิ่งแปลกปลอม
แม้จะพยายามพูดคุยตอนเรียนภาคปฏิบัติ
หรือทักทายในมหาวิทยาลัย
ก็แทบไม่มีใครตอบกลับ
เขาเคยเข้าไปอยู่ในชมรมออร์เคสตร้า และเริ่มเล่นฟาโกต์
แต่สถานการณ์ก็ยังไม่ดีขึ้น
เมื่อเริ่มรู้สึกกดดันจากความสัมพันธ์กับคนรอบข้าง
สุดท้าย จินจินเองก็กลายเป็นคนที่ป่วยเป็นโรคซึมเศร้าเสียเอง
“คณะแพทย์เรียนกัน 6 ปีใช่ไหมครับ
แต่เพราะสภาพแบบนั้น ผมเลยต้องซ้ำชั้น 6 ครั้ง
กับพักการเรียนอีก 2 ปี
สุดท้าย…
ผมก็ใช้เวลาอยู่ในมหาวิทยาลัยถึง 14 ปีเลยครับ”
ตอนนั้น เขาอายุ 43 ปีแล้ว
เลยวัย “ไม่ลังเล” ไปนาน
แต่ก็ยังเต็มไปด้วยความลังเลในชีวิต
ถึงอย่างนั้น
เขาก็ยังพูดด้วยสีหน้ามุ่งมั่นว่า
“ในเมื่อจบมาได้แล้ว
คราวนี้แหละ…จะต้องได้เป็นหมอแบบราบรื่นซะที!”
อย่างน้อย
อัตราสอบผ่านใบประกอบโรคศิลป์ ก็อยู่ที่ราว 90%
ตัวเลขนี้…ทำให้เขามีความหวัง
⸻
|สอบไม่ผ่านอีกครั้ง…ในปีที่ 31 ของการไล่ตามความฝัน
แต่อย่าลืมว่า
ผู้เข้าสอบในสนามนี้
ล้วนเป็นคนที่เรียนจบคณะแพทย์มาแล้วทั้งนั้น
พูดอีกแบบก็คือ
แม้แต่ “คนเก่งที่สุด” เหล่านี้
ยังมีถึง 1 ใน 10…ที่สอบตก
ขณะเดียวกัน
พ่อแม่ของเขา ที่เคยช่วยสนับสนุนค่าใช้จ่าย
ตอนนี้ก็เข้าสู่วัยผู้สูงอายุช่วงปลายแล้ว
สำหรับเขา
การไปเรียนโรงเรียนเตรียมสอบโดยเฉพาะ
กลายเป็นเรื่องที่ “ทำไม่ได้อีกแล้ว”
เขาทำได้เพียง…อ่านหนังสือสอบด้วยตัวเอง
ระหว่างนั้น
ก็ต้องทำงานพิเศษเป็นติวเตอร์
หรือรับงานรายวันเป็นครั้งคราว
เพื่อหาเงินใช้จ่ายประจำวัน
แต่การอ่านหนังสือสอบ
ไปพร้อม ๆ กับทำงานเลี้ยงชีพ
กลับไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ยิ่งกว่านั้น
เขายังมีภาระเรื่องหนี้ทุนการศึกษาที่ต้องทยอยจ่าย
“ต้องรีบเป็นหมอให้ได้เร็วที่สุด…”
ในขณะที่ความกดดันเริ่มก่อตัว
เหมือนจะเยาะเย้ยความพยายามของเขา
เดือนมีนาคมปีนี้
เขาสอบตกใบประกอบโรคศิลป์…เป็นครั้งที่ 5
และในปีที่ 31
ของการไล่ตามความฝัน
จินจิน
ก็ยังคงเป็น “ไข่ของหมอ” อยู่เช่นเดิม
⸻
( อ่านต่อ …. )
ญี่ปุ่น
ข่าวรอบโลก
เรื่องเล่า
บันทึก
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย