10 ก.ค. เวลา 03:10

ชีวิตในฤดูฝนกับความจริงที่ไม่มีร่มให้กาง☔️

ช่วงนี้ฝนตกแทบทุกวัน
ไม่ใช่แค่โปรยปรายแบบขอไปที
แต่มาแบบ “เข้าหน้าฝนเต็มตัว”
เปียกจริง หนักจริง
และไม่มีวี่แววว่าจะหยุดง่าย ๆ
มันเป็นฤดูที่ต้นไม้ดูสดชื่น
แต่มนุษย์บางคน…อาจไม่ได้รู้สึกแบบนั้น
สำหรับผม เมื่อวานก็เป็นอีกวันธรรมดา
วันนึงที่ตื่นมาพร้อมกับเสียงฝน
และต้องลุกขึ้นมาทำกิจวัตรเหมือนเดิม
ให้อาหารหมา ล้างหน้า แปรงฟัน เตรียมตัวไปสวน
แม้ฝนจะยังตกอยู่ก็เถอะ
ผมไปสวนกลางฝนนั่นแหละ
ฝนตกจนถึงสิบโมงเช้า
แต่งานก็ยังต้องเดิน
ฝนทำให้ไม่ร้อน ทำงานได้ต่อเนื่อง
ไม่ได้ห่วงหรือกลัวจะไม่สบายอะไร
ตรงกันข้าม ถ้าเป็นแดดแรง ๆ อาจเหนื่อยเร็วกว่านี้ด้วยซ้ำ
ช่วงนี้รู้สึกว่าตัวเองทำงานหนักเป็นพิเศษ
เพราะอยากให้ที่บ้านเห็นว่างานเดินหน้า
จะได้ไม่โดนบ่น
กลับมาบ้านบ่ายสอง
กว่าจะได้อาบน้ำ กินข้าว ก็บ่ายสาม
แทบจะเย็นอยู่แล้ว
มันเป็นชีวิตที่น่าเบื่อแบบวนลูป
เล่นเกมไม่ค่อยอินเหมือนเดิม
แต่ก็ไม่ได้มีอะไรมาแทนที่
มีเพียงความคิดวน ๆ ว่า
“จะหารายได้เสริมจากตรงไหนได้อีก?”
บางทีก็มีเข้ามาบ้าง
แต่ก็แค่ห้านาที สิบนาที แล้วก็วูบหาย
ความสุขที่เคยมีแบบง่าย ๆ
มันค่อย ๆ จางลง
กลายเป็นเรื่องต้องแลก…และต้องซื้อ
ผมเคยบอกตัวเองว่า
“ความสุขหาเมื่อไหร่ก็ได้ ถ้าใจเราดี”
แต่โลกจริง ๆ กลับบอกว่า
“ถ้าไม่มีเงิน ยังไงก็ไม่มีความสุขได้เต็มที่”
อยากพาแฟนไปเที่ยว
อยากพากินของอร่อย
อยากมีโมเมนต์ดี ๆ ไม่ใช่แค่คำว่า “เข้าใจกัน”
เพราะเข้าใจอย่างเดียว…มันไม่พาไปเที่ยวไม่ได้
ชีวิตบางช่วงไม่ได้เศร้า…แต่มันก็ไม่ได้มีอะไรให้ยิ้ม
เราดำเนินชีวิตด้วยความพยายามและหน้าที่
แต่ลึก ๆ แล้ว ทุกคนก็แค่อยากมี “วันธรรมดาที่รู้สึกดี”
บางที…เราต้องยอมรับว่า
“เงิน” ไม่ใช่สิ่งเดียวที่ซื้อความสุขได้
แต่ความจริงก็คือ…
“ไม่มีเงิน ก็ลำบากจะหาความสุข” เช่นกัน
สิ่งสำคัญอาจไม่ใช่แค่ทำเพื่อหาเงิน
แต่คือการหาวิธีที่ “เราไม่หล่นหายไปจากตัวเอง”
ในระหว่างที่กำลังวิ่งตามมัน
เพราะถ้าเราหลงทางจากตัวเองไปไกล
ถึงวันนึงจะมีเงิน…เราอาจจะไม่มีตัวตนที่รู้จักอีกแล้ว
- จากเพจใต้ต้นไม้หลังบ้าน🌳
โฆษณา