Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
“วันละเรื่องสองเรื่อง”
•
ติดตาม
11 ก.ค. เวลา 07:41 • ธุรกิจ
🚴♂️ "Meituan" ไม่ใช่แค่ Delivery! แต่คือ 'ระบบนิเวศบริการ' ที่พลิกชีวิตคนจีนทั้งเมือง
“ถอดบทเรียน Meituan Ecosystem สำหรับธุรกิจไทย”
จากแอปส่งอาหาร...สู่ระบบนิเวศแห่งการใช้ชีวิต
หลายคนรู้จัก “Meituan” แค่ในฐานะ “แอปส่งอาหาร” ของจีน แต่ในความเป็นจริง Meituan ได้กลายเป็น “ระบบนิเวศแห่งการใช้ชีวิต” ที่ฝังรากลึกในวิถีคนเมืองจีนตั้งแต่ตื่นนอนยันเข้านอน
* ตั้งแต่การสั่งอาหาร, เรียกคนขับ, จองตั๋วหนัง, จองบริการทำความสะอาด, ไปจนถึงจองหมอนวดหรือโรงพยาบาล — ทุกสิ่งรวมอยู่ในแอปเดียวที่กลายเป็น “OS ของเมือง” อย่างแท้จริง
* สิ่งที่น่าทึ่งคือ Meituan ไม่ได้แค่เป็นผู้ให้บริการแบบ Marketplace แต่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐาน” ที่กำหนดรูปแบบการใช้ชีวิตของคนจีนหลายร้อยล้านคน ผ่านเทคโนโลยี, ข้อมูล, และเครือข่ายคนส่งที่ครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ
* Meituan ไม่ได้แค่ขายของหรือส่งอาหาร แต่ “ออกแบบวิถีชีวิตใหม่ทั้งเมือง” ผ่าน Data, Logistics, และ Service Design ระดับชาติ
คำถามคือ...ธุรกิจไทยเรียนรู้อะไรจากโมเดลนี้ได้?
=====
1. Meituan คืออะไร? (Beyond Delivery)
* จุดเริ่มต้นจาก Deal Aggregator → Food Delivery → Lifestyle Super App ที่ไม่ใช่แค่ 'ส่งของไว' แต่คือ 'ฝังตัวในวิถีชีวิต'
* Core Vision: “We help people eat better, live better” ที่ไม่ใช่แค่สโลแกน แต่เป็นแกนหลักในการออกแบบบริการ
* Key Stats ที่สะท้อน 'Scale' และ 'Scope' ที่ลึกกว่าธุรกิจทั่วไป เช่น
* ผู้ใช้งานกว่า 450 ล้านราย ณ ปี 2023 (พอดีผู้เขียนยังไม่เจอตัวเลขในปีใหม่กว่านี้ แต่แค่ในปี 2023 ก็เกินครึ่งของตลาดในจีนแล้ว)
* พันธมิตรร้านค้าท้องถิ่นกว่า 9 ล้านราย — ตั้งแต่ร้านอาหาร, ร้านผลไม้, ยันคลินิกและร้านทำผม
* ยอดคำสั่งซื้อมากกว่า 50 ล้านรายการ/วัน
* มีบริการมากกว่า 200+ ประเภทในแอปเดียว ครอบคลุมทุกมิติของชีวิตเมือง
Meituan ไม่ได้โตเพราะ “โปรลดราคา” แต่โตเพราะ “ให้คุณภาพชีวิตดีขึ้น” ในมุมเล็กๆ ทุกวัน ผ่านความเข้าใจ 'บริบทชีวิต' ของผู้คนในแต่ละช่วงเวลา ตัวอย่างเช่น
* คนทำงานที่ต้องรีบขึ้นรถเมล์ในตอนเช้า สามารถสั่งอาหารล่วงหน้าให้รอรับที่ป้ายรถเมล์
* หญิงสูงวัยที่ขายผักริมถนนสามารถใช้ Meituan ช่วยสั่งซื้อผักสดจากตลาดใหญ่ได้ราคาส่ง และไม่ต้องเดินทาง
* แม่บ้านในเมืองที่ต้องดูแลลูกและบ้าน สามารถสั่งน้ำดื่ม, ของใช้จำเป็น, หรือแม้แต่บริการทำความสะอาดโดยไม่ต้องออกจากบ้าน
Meituan จึงไม่ได้เป็นแค่ Marketplace แต่กลายเป็น “โครงสร้างพื้นฐานของชีวิตเมืองจีน” (Urban Infrastructure-as-a-Service) ที่ออกแบบมาสำหรับผู้คนหลากหลายกลุ่ม ตั้งแต่ Tier-1 Cities จนถึงเมืองระดับชานเมืองที่ระบบขนส่งยังเข้าไม่ถึง
(อ้างอิง: Meituan Financial Report 2023, South China Morning Post, McKinsey China Insights)
====
2. เจาะลึก Use Case “Meituan ทำสิ่งที่ Platform อื่นทำไม่ได้อย่างไร?”
📍 2.1 Meituan x ร้านหม้อไฟ (Haidilao)
* Meituan ทำ partnership กับร้านหม้อไฟชื่อดังอย่าง Haidilao ซึ่งเป็นแบรนด์ที่ขึ้นชื่อเรื่องการบริการระดับพรีเมียมในจีน
* โดย Meituan ไม่ได้แค่ช่วยขายดีลออนไลน์ แต่เข้าไปร่วมวิเคราะห์พฤติกรรมลูกค้าในแต่ละพื้นที่ เช่น จำนวนลูกค้าเฉลี่ยในแต่ละช่วงเวลา, ระดับการใช้จ่าย, และเมนูที่เป็นที่นิยม
* แล้วใช้ข้อมูลนี้เสนอช่วงเวลาที่ควรจัด Flash Deal เช่น “อังคารบ่าย” หรือ “กลางเดือน” ที่ร้านมักมีลูกค้าน้อย เพื่อดึง Traffic เข้าร้านโดยไม่กระทบลูกค้าประจำ
✅ ผลลัพธ์: เพิ่มยอดลูกค้าใหม่ 23% ในช่วงเวลาที่เคยนั่งรอเก้าอี้ว่างกันทั้งวัน (SCMP, 2022)
* ไม่เพียงเท่านั้น Meituan ยังช่วยพัฒนาโมเดลบริการใหม่ที่ Haidilao ไม่เคยทำมาก่อน คือ “ส่งชุดหม้อไฟถึงบ้าน” (Hotpot at Home) โดยมีการจัดชุดบริการที่ครบทั้งน้ำซุป, เนื้อคุณภาพ, ผักสด, น้ำจิ้ม และเครื่องเคียง พร้อมอุปกรณ์ครบเซ็ตสำหรับการจัดโต๊ะที่บ้าน ลูกค้าสามารถเลือกระดับราคา-ความหรูหราได้ โดยมีพนักงานส่งที่ผ่านการเทรนมาเป็นพิเศษคอยให้บริการถึงหน้าบ้าน ช่วยจัดวางให้เรียบร้อย เสมือนยกประสบการณ์ร้านหรูมาไว้ที่บ้าน
🧠 โมเดลนี้ไม่เพียงเพิ่มยอดขาย แต่ยังขยาย “Brand Touchpoint” ไปยังพื้นที่ที่ไม่มีหน้าร้าน Haidilao และสร้าง brand intimacy ในมุมใหม่ — โดยเฉพาะกับกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบรอคิวนาน หรืออยากเลี้ยงแขกที่บ้านแบบมีระดับ
🎯 นี่เป็นบทเรียนสำคัญให้ร้านอาหารต่างๆ ที่อยากสร้างบริการใหม่ อาจเริ่มจาก Data Insight ก่อน แล้วออกแบบบริการร่วมกับ Platform โดยไม่ต้องทำเองทั้งหมด
🍜 2.2 Meituan x ร้านซาลาเปาในเมืองรอง
* ในเมือง Tier-3 อย่าง Deyang ที่ระบบโลจิสติกส์และดิจิทัลยังไม่ทั่วถึง Meituan เลือกลงทุนส่งทีม “Merchant Success” เข้าไป onsite กับร้านซาลาเปาท้องถิ่นเล็กๆ ที่เปิดมา 10 กว่าปีแต่ยังไม่มีระบบจัดการหลังบ้านเลยแม้แต่น้อย
* ร้านเหล่านี้ไม่มีแม้แต่เครื่องคิดเงินหรือระบบบันทึกข้อมูลลูกค้า Meituan จึงเริ่มต้นด้วยการช่วยติดตั้งระบบ POS, สอนใช้ระบบ inventory และเชื่อมเข้ากับระบบจัดส่งของ Meituan แบบครบวงจรภายใน 24 ชั่วโมง
✅ ร้านที่ไม่เคยรู้เลยว่าลูกค้าซื้ออะไรเยอะในช่วงไหน กลับสามารถวางแผนจัดโปรโมชั่นช่วงเทศกาลท้องถิ่น เช่น เทศกาลกินเจ, วันพระ, หรือวันตลาดนัด พร้อมทั้งใช้ Loyalty Campaign ที่ Meituan ออกแบบให้ ดึงลูกค้าขาประจำกลับมาซื้อซ้ำ และเพิ่มยอดเฉลี่ยต่อบิลขึ้น 18% ภายใน 1 เดือนแรก (อ้างอิง: Meituan Local Commerce Whitepaper, 2023)
* นอกจากระบบขายหน้าร้าน Meituan ยังช่วยพัฒนาระบบ QR Payment ที่ลูกค้าสามารถสแกนจ่ายเองได้, ออกแบบเมนูภาพสีที่แสดงบนมือถือแบบ interactive เพื่อให้สั่งซื้อง่ายขึ้น และสร้าง Dashboard รายวันให้เจ้าของร้านสามารถดูยอดขาย, เมนูขายดี, และชั่วโมงทองได้แบบ real-time ราวกับมี “ฝ่ายวิเคราะห์ข้อมูล” ส่วนตัวทั้งที่ร้านมีพนักงานเพียง 3 คน
🎯 บทเรียนสำคัญ SME ไทยจำนวนมากยังอยู่ในจุดเดียวกับร้านซาลาเปานี้ — ขายดีแต่ไม่รู้ว่าขายเพราะอะไร และโตไม่ได้เพราะไม่มีระบบสนับสนุน การจับมือกับ platform ที่เน้น empower ร้านแทนการเอายอดแบบ marketplace จึงเป็นโจทย์ที่ต้องคิดให้ลึกกว่าแค่ “ดึงลูกค้าเข้าแอป”
🚁 2.3 Meituan Drone Delivery ที่ Chongqing
* Chongqing เป็นหนึ่งในเมืองที่มีภูมิประเทศท้าทายที่สุดในจีน — เต็มไปด้วยภูเขา, สะพานข้ามแม่น้ำ, และคอนโดที่ตั้งอยู่บนเขา การขนส่งแบบดั้งเดิมจึงต้องใช้เวลาและต้นทุนสูงโดยเฉพาะในช่วงชั่วโมงเร่งด่วนหรือพื้นที่ที่รถเข้าถึงยาก
* Meituan จึงลงทุนสร้างเครือข่ายเส้นทางโดรนมากกว่า 100 เส้นใน Chongqing โดยเริ่มจากเขต Shapingba และ Yubei ซึ่งเป็นเขตที่มีทั้งออฟฟิศ, ย่านพักอาศัย, และร้านอาหารท้องถิ่นจำนวนมาก การส่งอาหารโดยโดรนสามารถทำได้ภายใน 10–15 นาที แม้ระยะทางจะขึ้นเขาหรือมีการเปลี่ยนระดับความสูงหลายครั้ง
✅ โดรนของ Meituan ถูกออกแบบให้ลงจอดได้ในพื้นที่จำกัด เช่น จุด drop-off ชั้น 22 ของคอนโด, พื้นที่ rooftop หรือ platform พิเศษที่ร่วมมือกับเจ้าของอาคารโดยเฉพาะ ต้นทุนต่อคำสั่งซื้อลดลงถึง 40% เมื่อเทียบกับการใช้พนักงานส่งโดยเฉพาะในช่วง peak hour (อ้างอิง: TechNode, 2023)
* ไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว โดรนของ Meituan ยังถูกปรับใช้ในช่วงวิกฤตโควิด โดยร่วมมือกับเทศบาลเมืองในการส่งเวชภัณฑ์, หน้ากากอนามัย, และยาไปยังอาคารที่ถูกล็อกดาวน์หรืออยู่ในเขตที่รถเข้าไม่ถึง ภายในเวลาไม่ถึง 20 นาที ทำให้ Meituan กลายเป็นส่วนหนึ่งของ “ระบบโลจิสติกส์ทางการแพทย์ฉุกเฉิน” ของเมืองอย่างแท้จริง
🧠 ดังนั้น Drone delivery ไม่ใช่แค่เทคโนโลยีโชว์นวัตกรรม แต่คือ “โซลูชันที่ตอบโจทย์บริบทเฉพาะ” เช่น ในไทยอาจเริ่มจากพื้นที่น้ำท่วมซ้ำซาก, ชุมชนริมน้ำ, หรือการส่งยาระยะไกลที่โรงพยาบาลท้องถิ่นไม่มีรถขนส่ง — หากภาครัฐหรือเอกชนร่วมมือกันเชิง ecosystem
====
3. กลยุทธ์ลับที่ Meituan ใช้ชนะทั้งตลาด และหัวใจ
🧠 3.1 Meituan ไม่ได้ขาย “อาหาร” แต่ขาย “เวลาและพลังชีวิต”
แทนที่จะมองตัวเองว่าเป็น “Food Delivery App” Meituan กลับมองว่าตัวเองคือ “Time & Energy Platform” เพราะในประเทศที่ผู้คนทำงานวันละ 10 ชั่วโมง การมีอาหารร้อนๆ ถึงมือโดยไม่ต้องเสียเวลาต่อคิวหรือขับรถออกไป คือการมอบคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างแท้จริง
* Core value ของ Meituan คือ “ส่งของเร็ว = ส่งชีวิตที่สะดวกกว่า” ซึ่งไม่ใช่แค่เรื่องความเร็ว แต่คือการออกแบบ ‘moment of convenience’ ให้เหมาะกับแต่ละบริบทของลูกค้า เช่น คนที่อยู่ในคอนโดสูงริมแม่น้ำที่รถเข้าไม่ถึง หรือแม่บ้านที่มีเวลาว่างเพียง 15 นาที
* Meituan ไม่ได้แข่งขันกับร้านอาหารหรือ delivery service รายอื่น แต่แข่งกับ “ความไม่สะดวกในชีวิตประจำวัน” เช่น ความเหนื่อย ความรีบ ความหิวตอนฝนตก
* เขาสร้าง Loyalty ด้วย “ความเข้าใจบริบทของผู้ใช้” มากกว่าแค่การแจกคูปอง โดยใช้ Data เพื่อ personalize journey เช่น การเสนอเมนูมังสวิรัติในวันพระ หรือจัด Route ส่งแบบรวมคำสั่งซื้อที่อยู่ในบริเวณเดียวกันเพื่อความรวดเร็ว
ตัวอย่าง: ในย่าน Chaoyang ของปักกิ่ง Meituan มีบริการ express drop ที่จุด MRT ซึ่งลูกค้าสามารถสั่งอาหารระหว่างเดินอยู่ในสถานี และรับของที่ตู้ drop-off ข้างบันไดเลื่อนภายใน 5 นาทีหลังขึ้นจากชานชาลา
🌆 3.2 Meituan เป็น “Operating System ของเมือง”
Meituan ไม่ได้ทำธุรกิจแบบแยกส่วน แต่กลายเป็น “OS ของชีวิตในเมือง” ที่ภาครัฐยังต้องพึ่งพา โดยเปิดข้อมูลแบบ aggregate ให้เทศบาลและฝ่ายวางผังเมืองเข้าถึงได้แบบ near real-time
* Meituan เน้นใช้ data มาขับเคลื่อนการทำงานภายใน โดยเน้นแสดงสถิติพฤติกรรมผู้บริโภค เช่น เวลา peak ที่ผู้คนออกมาทานอาหารนอกบ้าน, ถนนที่มีคนสั่ง delivery เยอะแต่ไม่มีร้านอาหาร, หรือช่วงเทศกาลที่ความต้องการพุ่งสูงผิดปกติ
* เมือง Chengdu ใช้ข้อมูลนี้ในการวางแผนจัดเทศกาล Street Food 2022 โดยปรับ layout ให้เหมาะกับจุดที่มี demand จริง ลดปัญหาความแออัดลงกว่า 30% (อ้างอิง:
Gov.cn
)
* บางเมืองอย่าง Hangzhou ยังใช้ data ของ Meituan เพื่อกำหนด zoning ของธุรกิจอาหารใหม่ เช่น เปิดโอกาสให้ร้านขนาดกลางเช่าพื้นที่เฉพาะ delivery hub โดยไม่ต้องเปิดหน้าร้าน เพื่อไม่แออัด
ใช่ครับ แพลตฟอร์มเอกชนอย่าง Meituan กลายเป็น “ส่วนต่อขยายของนโยบายรัฐ” ในระดับ micro-policy
🪙 3.3 Meituan คิดแบบ “จีน” ไม่เลียนแบบ Silicon Valley
Meituan รู้ดีว่าความต้องการของคนจีนไม่เหมือนซานฟรานฯ จึงไม่หลงไปกับโมเดล Silicon Valley แบบ startup ทั่วไปที่เน้น MVP (Minimal Viable Product)
* กลยุทธ์หลักของ Meituan คือ “Vertical First, Then Horizontal” โดยลงลึกใน vertical เดียวให้ครบทุกจุดสัมผัส เช่น Food delivery ที่ไม่ใช่แค่ส่งอาหาร แต่รวมถึง supply chain, ระบบคนส่ง, เครื่องมือให้ร้านค้า, การชำระเงิน, และการดูแลหลังการขาย
* ทุก touchpoint ถูกออกแบบให้ seamless ตั้งแต่ UX บนแอป, ไปจนถึงหน้าตาของพนักงานส่งที่ใส่ uniform สีเหลืองสดพร้อมร่มกันฝนและกระเป๋าที่เก็บความร้อน
* ในขณะที่ Silicon Valley มองเทคโนโลยีเป็น “product” ที่มี feature สวยๆ Meituan กลับมองเทคโนโลยีเป็น “infrastructure” ที่ต้องแทรกซึมในวิถีชีวิตคนธรรมดา
💡 นี่คือ “ภาวะผู้นำทางการออกแบบ (Design Leadership)” แบบเอเชียที่ไม่พูดเยอะ แต่ลึก และแฝงอยู่ในชีวิตจริงอย่างแนบเนียน
====
4. ธุรกิจไทยเรียนรู้อะไรได้? (Beyond Platform Economy)
🇹🇭 4.1 ร้านเล็กอาจไม่ได้อยากได้คูปอง…แต่อยากได้ระบบ?
* ในขณะที่ Grab/Lineman ในไทยเน้นโปรคูปอง ลดราคา และความเร็วในการจัดส่งเป็นหลัก แต่กลับไม่มีระบบสนับสนุนหลังบ้านให้ร้านค้าเล็กๆ อย่างแท้จริง ไม่ว่าจะเป็นการจัดการสต๊อกสินค้า การวางแผนโปรโมชั่น หรือการบริหารลูกค้าประจำ
* ในทางตรงกันข้าม Meituan สร้างระบบหลังบ้านให้ร้านขนาดเล็กใช้งานได้โดยไม่ต้องลงทุนพัฒนาเอง เช่น ระบบ POS, Inventory, CRM, Loyalty Campaign, และ Dashboard การขายแบบเรียลไทม์ ทำให้ร้านเหล่านี้สามารถ "บริหารธุรกิจอย่างมีข้อมูล" เหมือนร้านใหญ่ได้
1
→ โจทย์ของไทยจึงไม่ใช่แค่การสร้างแพลตฟอร์มเพื่อให้คนสั่งอาหารเท่านั้น แต่คือการสร้าง “B2B Platform” ที่ทำหน้าที่เหมือน "ฝ่ายจัดการหลังบ้าน" ที่ช่วยให้ร้านค้าเล็กๆ เติบโตได้อย่างยั่งยืน ลดภาระ และไม่ต้องพึ่งโปรคูปองเพียงอย่างเดียว
🇹🇭 4.2 Data = ทุนที่คนเล็กเข้าถึงได้ (ถ้ารัฐหรือเอกชนช่วย)
* Meituan ให้ร้านค้าเห็นข้อมูลเชิงลึกของลูกค้าผ่าน Dashboard เช่น สถิติยอดขายรายวัน เมนูขายดี พฤติกรรมลูกค้าใหม่เทียบกับลูกค้าเก่า หรือแม้กระทั่งช่วงเวลาที่ลูกค้าเข้ามาซื้อซ้ำมากที่สุด
* ร้านซาลาเปาริมถนนในจีนยังมี Business Intelligence Report แบบเดียวกับร้านใหญ่ ขณะที่ร้านอาหารไทยจำนวนมากไม่มีแม้แต่ข้อมูลยอดขายรายวันให้ตรวจสอบ — ทำให้ไม่สามารถวางแผนการตลาด, เมนู, หรือการปรับราคาตามพฤติกรรมลูกค้าได้เลย
* ไทยควรสร้าง "Data Coop" หรือแพลตฟอร์มที่ทำหน้าที่รวบรวมข้อมูลจากหลายร้านในลักษณะ Anonymized & Aggregated Data โดยมีรัฐหรือเอกชนกลางเป็นผู้ดูแล เพื่อให้ร้านเล็กเห็นแนวโน้มอุตสาหกรรม และปรับกลยุทธ์ได้แบบร้านใหญ่ เช่น เห็นว่า “กลุ่มร้านอาหารอีสานในย่านลาดพร้าวมียอดขายลดลง 10% หลังเปิดภัตตาคารใหม่ใกล้ MRT” เป็นต้น
→ ถ้า Data คือ ‘น้ำมันใหม่ของเศรษฐกิจ’ ประเทศไทยไม่ควรปล่อยให้คนตัวเล็กไม่มีแม้แต่ ‘น้ำ’ ดื่มในการตัดสินใจ
🇹🇭 4.3 คิดแบบ Ecosystem ไม่ใช่ E-Commerce
* Meituan ไม่ได้มองตัวเองว่าเป็นแพลตฟอร์มขายของหรือจัดส่งอาหาร แต่คือ "ระบบนิเวศของชีวิตรายวัน" (Daily Life Operating System) ที่เข้าไปอยู่ในทุก Moment ของลูกค้า ตั้งแต่เช้าจนเข้านอน เช่น สั่งอาหารก่อนออกจาก MRT, เรียกช่างซ่อมตอนพักกลางวัน, หรือส่งเวชภัณฑ์ให้พ่อแม่ที่อยู่ต่างเมือง
* ธุรกิจไทยควรถามกลับว่า "วันนี้เราช่วยให้ชีวิตลูกค้าดีขึ้นในช่วงเวลาใดของวัน?" — ไม่ใช่แค่ "ขายของได้เท่าไร" หรือ "มี Traffic เข้าแอปกี่คน"
* แทนที่จะวัดผลความสำเร็จจาก Conversion Rate หรือยอดขายเพียงอย่างเดียว ธุรกิจควรสร้าง Platform ที่ลูกค้า "อยากมีอยู่ใกล้ตัว" เช่นเดียวกับที่คนจีนเปิด Meituan ก่อนจะตัดสินใจว่าจะกินอะไร พักที่ไหน หรือทำอะไรต่อไป
→ Platform ที่ดีไม่ควรเป็นแค่ช่องทางการขาย แต่คือ "พื้นที่ชีวิต" ที่ลูกค้ารู้สึกว่าอยู่แล้วชีวิตดีขึ้น
=====
✨ ถ้า Platform ของคุณยังต้องให้คน ‘เปิดแอป’ แปลว่ายังไม่กลายเป็นชีวิตเขา
Meituan คือบทเรียนเรื่อง “การฝังตัวเข้าไปในชีวิตลูกค้าแบบไร้รอยต่อ” โดยใช้ Data, Design, และ Delivery ที่ไม่ใช่แค่รวดเร็ว — แต่ “แม่น” และ “เหมาะเจาะ” กับแต่ละคน
เพราะอนาคตของบริการ ไม่ได้อยู่ที่ใครขายของเก่งที่สุด แต่ใครทำให้ลูกค้า ‘อยากใช้ชีวิตร่วมกัน’ มากที่สุด
#วันละเรื่องสองเรื่อง #MeituanThailand #PlatformStrategy #DigitalEcosystem
superapp
platform
1 บันทึก
1
1
3
1
1
1
3
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย