12 ก.ค. เวลา 02:08 • ธุรกิจ

โมเดลธุรกิจ JR สถานีรถไฟ พ่วงห้าง-โรงแรม ในญี่ปุ่น กำไรรวมกัน เป็น 100,000 ล้าน

-ในญี่ปุ่น มีโมเดลธุรกิจหนึ่งที่น่าสนใจ
คือสถานีรถไฟ พ่วงศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า และโรงแรม
ซึ่งโมเดลแบบนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ บริษัทบริหารสายรถไฟในญี่ปุ่นที่หลายคนอาจจะคุ้นชื่อว่า ‘JR’ ทำกำไรได้ ในระดับที่ไม่ธรรมดา
แล้วโมเดลสถานีรถไฟ พ่วงห้าง-โรงแรม ในญี่ปุ่น เป็นอย่างไร ?
BrandCase เล่าให้ฟัง แบบเข้าใจง่าย ๆ
ย้อนกลับไปเมื่อ 130 ปีก่อน เส้นทางรถไฟในญี่ปุ่น กว่า 3,000 กิโลเมตร ที่รัฐบาลญี่ปุ่นได้ก่อสร้างขึ้น
จะให้สิทธิ์ในการเดินรถไฟแก่บริษัทเอกชน ตามเส้นทางหัวเมืองต่าง ๆ
1
โดยบริษัทเอกชน หลัก ๆ จะรับหน้าที่แค่เดินรถไฟอย่างเดียว ส่วนพื้นที่รอบ ๆ เส้นทางรถไฟ ก็ยังไม่มีการพัฒนามากนัก
จนกระทั่ง นักธุรกิจชาวญี่ปุ่นคนหนึ่งชื่อ คุณอิจิโซ โคบายาชิ มีแนวคิดอยากที่จะพัฒนาเมือง
ด้วยการสร้างอสังหาริมทรัพย์ ตามแนวเส้นทางรถไฟ
1
ตัวอย่างเช่น
- สร้างที่อยู่อาศัยและสวนสนุก ตามแนวเส้นทางรถไฟ ที่ยังมีคนอาศัยอยู่น้อย ๆ
- สร้างห้างสรรพสินค้าให้อยู่ใกล้สถานีรถไฟ
1
เมื่อคิดได้ดังนี้ คุณอิจิโซ ก็ได้ก่อตั้งบริษัทเดินรถไฟชื่อ บริษัทฮันคิว
เพื่อทำธุรกิจเดินรถไฟ พร้อม ๆ กับพัฒนาพื้นที่ ตามแนวเส้นทางรถไฟในเมืองโอซากา และเมืองใกล้เคียง
เส้นทางรถไฟสายแรก ที่บริษัทเปิดให้บริการเดินรถไฟ พร้อมกับพัฒนาที่ดินตามแนวเส้นทางรถไฟ
คือสาย Takarazuka main line ในปี 1910
โดยวิ่งจากใจกลางเมืองโอซากา ไปยังเมืองใกล้เคียง
1
หลังจากนั้น บริษัทก็ทยอยสร้างอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ เช่น สวนสนุก ที่พักอาศัย และห้างสรรพสินค้าฮันคิว ในพื้นที่เดียวกันกับสถานีรถไฟ Umeda ในเมืองโอซากา
1
เรียกได้ว่า สถานีรถไฟ Umeda เป็นสถานีรถไฟแห่งแรกในญี่ปุ่น ที่มีห้างสรรพสินค้าพ่วงมาด้วย
1
ซึ่งโครงการพัฒนาที่ดินแบบนี้ ก็ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากในเวลาต่อมา
จนที่ดินบริเวณรอบ ๆ มีราคาแพงขึ้น และผู้คนก็เริ่มย้ายเข้ามาอยู่อาศัย ในพื้นที่ตามแนวเส้นทางรถไฟมากขึ้น
1
โดยสิ่งที่บริษัทฮันคิวทำ ก็กลายเป็นต้นแบบให้บริษัทเดินรถไฟเจ้าอื่น ๆ นำโมเดลธุรกิจแบบนี้ไปใช้เดินรถไฟ และพัฒนาเมืองควบคู่กันไปด้วย
1
ต่อมา ญี่ปุ่นเริ่มเข้าสู่สงครามโลกครั้งที่ 2 ทำให้โครงสร้างพื้นฐานที่สำคัญของเมืองหลายอย่าง ถูกทำลาย รวมถึงเส้นทางรถไฟ และสถานีรถไฟหลายแห่ง
แต่ญี่ปุ่นก็ใช้วิกฤตินี้เป็นโอกาสในการจัดการที่ดินใหม่หลังช่วงสงครามโลก ด้วยการวางผังเมืองใหม่
1
โดยการวางโครงสร้างสถานีรถไฟใหม่
ให้แต่ละสายเชื่อมต่อกันอย่างเป็นระบบ เพื่อให้ผู้โดยสารเดินทางได้สะดวกขึ้น
ซึ่งการทำแบบนี้ ทางภาครัฐ ก็ร่วมมือกับบริษัทเดินรถไฟของเอกชนด้วย
 
การรถไฟญี่ปุ่น แปรรูปเป็นรัฐวิสาหกิจ โดยใช้ชื่อใหม่ว่า Japanese National Railways หรือ JNR ในปี 1949 เพื่อให้การบริหารงานมีความคล่องตัวมากขึ้น
1
แม้ว่า JNR จะถูกเปลี่ยนเป็นรัฐวิสาหกิจ แต่หน้าที่หลักของ JNR ก็ยังคงเหมือนเดิมคือ
สร้างเส้นทางเดินรถไฟ และรับหน้าที่เดินรถไฟเท่านั้น
1
ต่อมาเมื่อเศรษฐกิจญี่ปุ่น เติบโตอย่างก้าวกระโดด JNR ก็เร่งสร้างเส้นทางรถไฟในญี่ปุ่นเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว
ซึ่งผลที่ตามมาคือ ช่วงหนึ่ง JNR ขาดทุนอย่างหนัก และมีหนี้เพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทำให้ทางรัฐบาลญี่ปุ่น ต้องแก้ปัญหา
โดยการปรับปรุงกฎหมายใหม่ เพื่อให้ทาง JNR สามารถนำที่ดินรอบสถานีรถไฟ ไปพัฒนาด้วยการสร้างอสังหาริมทรัพย์ เพื่อขายหรือปล่อยเช่าต่อได้
2
ทำให้ในปี 1987 JNR แบ่งตัวเองออกเป็นหลายบริษัท
โดยเป็น 6 บริษัทเดินรถ แยกกันดูแลธุรกิจการเดินรถไฟตามภูมิภาคต่าง ๆ และ 1 บริษัทขนส่ง
6 บริษัทเดินรถ คือ
- JR East
- JR West
- JR Central
- JR Hokkaido
- JR Shikoku
- JR Kyushu
2
และ 1 บริษัทขนส่ง คือ JR Freight
1
ซึ่งทั้งหมดนี้ ก็รวมกันเป็น Japan Railways Group หรือ JR Group
1
พอถูกแยกบริษัทเป็นเอกชนแล้ว ที่ดินและอาคารต่าง ๆ
ที่เคยเป็นของการรถไฟ หรือ JNR มาก่อน ก็ถูกโอนมาให้บริษัท JR Group ในภูมิภาคต่าง ๆ เป็นผู้ดูแล
หมายความว่า ตอนนี้บริษัทเดินรถไฟของ JR Group ที่ประจำตามภูมิภาคต่าง ๆ สามารถนำพื้นที่ข้างในสถานี และที่ดินโดยรอบ มาใช้ประโยชน์เชิงพาณิชย์ได้อย่างเต็มที่
ซึ่งแต่ละ JR ก็เริ่มเอาที่ดินโดยรอบ มาพัฒนาเป็น “มิกซ์ยูส” ด้วยโครงการอสังหาริมทรัพย์ต่าง ๆ
เช่น ศูนย์การค้า ห้างสรรพสินค้า โรงแรม อาคารสำนักงาน ไปจนถึงที่พักอาศัย
1
โดยทุก ๆ โครงการที่ว่ามา ก็จะมีการพัฒนาในรูปแบบ Transit Oriented Development (TOD )
ซึ่ง TOD หมายถึง การพัฒนาพื้นที่โดยรอบ โดยให้สถานีรถไฟเป็นศูนย์กลาง
เช่น สามารถสร้างตึกสูงรอบสถานีรถไฟ หรือคร่อมสถานีรถไฟเลยก็ได้
ยกตัวอย่าง สถานีโตเกียว ที่บริหารโดย บริษัท JR East
- สร้างอาคาร GranTokyo North Tower
โดยแบ่งพื้นที่ 14 ชั้นด้านล่าง ให้กับห้างสรรพสินค้า Daimaru มาเช่าพื้นที่ และแบ่งพื้นที่ด้านบน สร้างเป็นอาคารสำนักงานให้เช่า
1
- แบ่งพื้นที่ด้านบนของตัวสถานี สร้างโรงแรม 5 ดาวชื่อ Tokyo Grand Station คร่อมตัวสถานีไปเลย
1
นอกจากที่กล่าวมานี้ ก็ยังมีตึกที่เป็นโรงแรม และอาคารสำนักงานอีกหลาย ๆ แห่ง ที่บริษัท JR East ได้สร้าง เพื่อขายหรือให้บริษัทต่าง ๆ มาเช่าพื้นที่
โดยทุก ๆ ตึก ก็จะมีทางเชื่อม เพื่อไปยังสถานีรถไฟความเร็วสูงชินคันเซ็น หรือสถานีรถไฟใต้ดิน ที่มีเส้นทางรถไฟรวมทั้งหมด มากกว่า 20 เส้นทาง
1
ซึ่งการที่สิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ สามารถเชื่อมโยงกันได้แบบไร้รอยต่อนี้ ก็ทำให้สถานีโตเกียว มีผู้โดยสารเดินทางเข้า-ออก กว่า 500,000 คนต่อวัน
1
ซึ่งนอกจากสถานีโตเกียว หลาย ๆ สถานีรถไฟอื่น ๆ ในญี่ปุ่น ก็มีการนำพื้นที่ของตัวเอง มาพัฒนาให้เป็นมิกซ์ยูสแบบนี้ แทบจะทุกภูมิภาค ไม่ว่าจะเป็น
- สถานีโอซากา ที่บริหารโดย JR West
- สถานีนาโกยะ ที่บริหารโดย JR Central
- สถานีฮากาตะ ที่บริหารโดย JR Kyushu
การพัฒนาพื้นที่แบบนี้ ทำให้แทบทุกสถานีหลัก ของหัวเมืองใหญ่ ๆ ในญี่ปุ่น มีผู้ใช้บริการแตะหลักแสนคนต่อวัน
ซึ่งถ้าเราไปดูรายได้จากบริษัท JR ของ ปีบัญชี 2025 (ตั้งแต่เดือนเมษายน ปี 2024 - มีนาคม ปี 2025)
JR East (สถานีรถไฟหลักคือ โตเกียว)
มีรายได้ 638,000 ล้านบาท และกำไร 49,600 ล้านบาท
1
JR West (สถานีรถไฟหลักคือ โอซากา)
มีรายได้ 377,000 ล้านบาท และกำไร 25,200 ล้านบาท
JR Central (สถานีรถไฟหลักคือ นาโกยะ)
มีรายได้ 405,000 ล้านบาท และกำไร 101,000 ล้านบาท
1
JR Kyushu (สถานีรถไฟหลักคือ ฮากาตะ)
มีรายได้ 100,400 ล้านบาท และกำไร 9,600 ล้านบาท
1
ที่น่าสนใจก็คือ บริษัท JR เหล่านี้
ส่วนใหญ่แล้ว มีรายได้จากธุรกิจที่เรียกว่า Non-Transportation หรือก็คือธุรกิจพัฒนา และให้เช่าพื้นที่ มากกว่า 30% ของรายได้ทั้งหมด
1
ซึ่งโมเดลแบบนี้ เป็นส่วนสำคัญที่ทำให้ บริษัทเดินรถไฟเครือ JR ทำกำไรได้ดี
นอกเหนือไปจากธุรกิจเดินรถไฟ ที่โดยธรรมชาติแล้ว มีต้นทุนคงที่ค่อนข้างมาก จากทั้งค่าจ้างพนักงาน ค่าบำรุงรักษารถไฟ และค่าเชื้อเพลิง
1
และทั้งหมดนี้ก็คือ โมเดลสถานีรถไฟ พ่วงห้างสรรพสินค้าและโรงแรม ในญี่ปุ่น
1
ที่นอกจากจะทำให้ผู้คนได้รับความสะดวกสบาย จนมาใช้บริการรถไฟมากขึ้นแล้ว
ยังเป็นการสร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจ
จากการใช้พื้นที่ในบริเวณสถานี และรอบ ๆ สถานี ได้อย่างไม่สูญเปล่า อีกด้วย..
1
References
-หนังสือเรื่อง ใส่ใจไว้ในเมือง Livable Japan โดย ปริพนธ์ นำพบสันติ
-TOD for Sustainable Urban Development Planning and Implementation Approach by JICA
-TOD Practice in Japan, Tokyo, A Global City Created by Railways
by Takashi Yajima and Hitoshi Ieda
โฆษณา