"Dark Red" ของ Steve Lacy: บทเพลงแห่งความเปราะบางและปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรม
บทนำ: "Dark Red" เพลงที่มากกว่าแค่เพลงฮิต
Steve Thomas Lacy-Moya ศิลปินชาวอเมริกันผู้มากความสามารถ เกิดเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 1998 ได้สร้างชื่อเสียงในวงการดนตรีในฐานะนักร้อง นักแต่งเพลง นักกีตาร์ และโปรดิวเซอร์.
เขาเริ่มเป็นที่รู้จักจากการเป็นนักกีตาร์ของวง Alternative R&B ที่มีอิทธิพลอย่าง The Internet ซึ่งเขาเข้าร่วมในปี 2015. เส้นทางอาชีพเดี่ยวของ Lacy เริ่มต้นขึ้นอย่างแข็งแกร่งด้วยอีพีแรกของเขา "Steve Lacy's Demo" ที่ออกในปี 2017 ซึ่งได้รับการยกย่องจากนักวิจารณ์และกลายเป็นเพลงฮิตแบบ "sleeper hit" ที่ค่อยๆ สร้างกระแสความนิยม.
ความสำเร็จของ Lacy ขยายวงกว้างไปอีกขั้นเมื่อเพลง "Bad Habit" ของเขากลายเป็นกระแสไวรัลบน TikTok และขึ้นอันดับสูงสุดบน Billboard Hot 100 ในขณะที่อัลบั้ม "Gemini Rights" ก็คว้ารางวัล Best Progressive R&B Album จากงาน Grammy Awards ครั้งที่ 65.
ความโดดเด่นของเขาได้รับการยอมรับในระดับสากล โดยนิตยสาร Time ยกให้เขาเป็นหนึ่งใน 100 บุคคลผู้ทรงอิทธิพลที่สุดในโลกประจำปี 2023. สไตล์ดนตรีของ Lacy มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เขาอธิบายว่าเป็น "Plaid" (ลายสก๊อต) เพราะ "มีอะไรเกิดขึ้นมากมาย แต่ไม่ขัดแย้งกัน". แนวเพลงของเขามีความหลากหลาย ครอบคลุมตั้งแต่ Alternative R&B, Neo Soul, Funk, Jazz, Indie Rock, Lo-fi ไปจนถึง Psychedelic Soul.
ผลงานชิ้นนี้ทำหน้าที่เป็นพิมพ์เขียวของสุนทรียภาพทางดนตรีของ Steve Lacy ซึ่งแสดงให้เห็นถึงวิวัฒนาการของศิลปินที่สามารถสร้างสรรค์แนวทางที่แตกต่างและยั่งยืนในอุตสาหกรรมเพลงที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว.
Lacy ได้รับอิทธิพลทางดนตรีที่หลากหลายและน่าสนใจ ซึ่งช่วยหล่อหลอม "Plaid Sound" ของเขา. ศิลปินที่เขาอ้างถึงว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญ ได้แก่ Thundercat, Erykah Badu, Black Moth Super Rainbow, Pharrell Williams และ The Neptunes. เขายังกล่าวถึง Prince, Weezer, Paramore และ Jimi Hendrix ว่าเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในซาวด์กีตาร์ของเขา.
ในแง่ของการผลิต Mac DeMarco ก็เป็นหนึ่งในอิทธิพลที่ใหญ่ที่สุดของเขา. ก่อนหน้าผลงานเดี่ยว Lacy ได้แสดงให้เห็นถึงความสามารถในการทำงานร่วมกับศิลปินระดับโลก เช่น Kendrick Lamar ในเพลง "PRIDE" และ J. Cole ในเพลง "Foldin Clothes" ซึ่งทั้งสองเพลงนี้โดดเด่นด้วยทักษะกีตาร์อันเป็นเอกลักษณ์ของ Lacy. เขายังมีส่วนร่วมในการร้องแบ็คอัพและโปรดิวซ์ให้กับ Syd the Kid เพื่อนร่วมวง The Internet ในอัลบั้มเดบิวต์ของเธอ "Fin".