"Chelsea" กับดีกรีแชมป์โลกที่น่าตราตรึง!
“เกือบหลับแต่กลับมาได้!”
คงไม่มีประโยคไหนจะนิยามผลงาน
ของ “Chelsea” ในฤดูกาลที่ผ่านมา
ได้ดีไปกว่านี้อีกแล้วจริงๆ
หลังการออกสตาร์ทแบบไม่ดีนัก
ตั้งแต่รูปแบบการเล่นที่ไม่เป็นทรง
ทั้งโค้ชและกลุ่มนักเตะใหม่จัดเต็ม
ชนิดที่แทบจะขี่คอกันลง
แบ่งเป็น 2-3 ทีมยังได้
จนไม่มีใครคาดคิดว่า
พวกเขาจะประสบความสำเร็จ
คว้าดับเบิ้ลแชมป์ในปลายทาง
อย่างสวยสดงดงามเช่นนี้
บดขยี้ PSG ที่ชนะทีมใหญ่ด้วยกัน
มานักต่อนักตลอดฤดูกาล
ถลุงแบบขาดลอย 3-0 ตั้งแต่ครึ่งแรก
กลายเป็นทีมแรกคว้าแชมป์
สโมสรโลกในรูปแบบใหม่
ติดตราแชมป์โลกหล่อๆ
ไปตลอด 4 ปีจากนี้และยังเป็น
ทีมเดียวที่คว้ามาหมดแล้วทุกถ้วย
จุดนี้เลยอยากชวนมาถอดรหัส
เบื้องหลังภาพชูถ้วยอันยิ่งใหญ่
พร้อมจะพาไปเจาะอินไซต์
จากใจแฟนสิงห์บลูส์ตัวจริง
ผ่านบทสัมภาษณ์นี้กันครับ
.
.
.
1. จากแชมป์ UCEL สู่แชมป์โลก คิดว่าอะไรคือปัจจัยสำคัญที่ทำให้ Chelsea เกือบกลับแต่กลับมาได้ดีขนาดนี้ครับ?
- ส่วนแรกต้องยอมรับว่าสายการแข่งขันในรอบน็อกเอาท์ของ Chelsea ถือว่าสบายกว่า PSG มากๆ ซึ่งต้องขอบคุณชัยชนะของ CR Flamengo ในวันนั้น ที่ผลักให้เราลงมาอยู่ในสายเบา อีกส่วนคือการเซ็นสัญญา “J.Pedro” และสามารถลงทะเบียนได้ทัน ซึ่งเป็นนักเตะที่ผลต่อเกมอย่างมาก โดยเฉพาะในรอบรองฯ และรอบชิงฯ ซื้อมาแล้วตอบโจทย์ทันทีทำประตูได้ทั้งสองนัดทันใจ
2. พูดถึง "มาเรสก้า" จากโค้ชจอมดื้อ ชอบฝืนให้นักเตะเล่นตำแหน่งไม่ถนัด ผลงานลุ่มๆ ดอนๆ ในช่วงแรก จนทำได้ดีมาก คิดว่าอะไรคือจุดเปลี่ยนและจุดเด่นของเขาครับ?
- ต้องเข้าใจว่านี่คือปีแรกของมาเรสก้าที่เชลซี และแผนการเล่นของเขา ด้วยนักเตะที่มีในตอนนั้นอาจจะไม่ได้ตอบโจทย์การใช้งานบางตำแหน่ง จึงต้องมีการเลือกใช้งานตามศักยภาพและความสามารถมากกว่าตำแหน่งที่ถนัด กรณีที่ชัดเจนที่สุดคงไม่พ้นการโยกเอา R.James มายืนกองกลางเพื่อหวังการเปิดบอลยาว ด้วยความที่ไม่ใช่ตำแหน่งถนัดของนักเตะเอง จึงต้องใช้เวลาในการทำความเข้าใจเกม อย่างความสำเร็จในรอบชิงฯ กับ PSG อาจจะพอเริ่มเห็นได้แล้วว่าสิ่งที่มาเรสก้าต้องการจาก R.James คืออะไร
3. มาที่ "R.Sanchez" จากโกลจอมรั่ว สู่ร่างทองผู้เซฟทีมไว้ได้มาก โดยเฉพาะนัดชิง อะไรคือสิ่งที่ทำให้เขากลับมา?
- ยังคงเร็วเกินไปที่จะบอกว่า R.Sanchez เป็นมือ 1 ที่ไว้ใจได้ในการแข่งขันลีกซึ่งต้องยืนระยะมากกว่าทัวร์นาเมนต์ 1 เดือนเพียงไม่กี่นัด อีกทั้งบททดสอบของ เขายังมีเพียงไม่กี่ครั้งในเกมกับ PSG และส่วนมากเป็นลูกเซฟด้วยมือซึ่งก็ทำได้ดีอยู่แล้วตั้งแต่ในช่วงเวลากับ Brighton
แต่สิ่งที่ผิดพลาดบ่อยครั้งที่แฟนเชลซีคุ้นตาคือการออกบอลด้วยเท้า ซึ่งยังโชคดีที่ไม่เจอชาลเลนจ์หนักๆ ในเกมรอบชิงฯนี้ เพราะหากเชลซีหวังจะยืนความสำเร็จระยะยาว ผมก็ยังยืนว่าต้องเปลี่ยนผู้รักษาประตู และก็ยังมีสัญญาณที่ดีในการหาผู้รักษาประตูใหม่อยู่บ้าง อย่างการเจรจากับ AC Milan เพื่อการดึงตัว M.Maignan ก่อนการแข่งขันชิงแชมป์สโมสรโลกจะเริ่มต้นขึ้น (แม้ล่าสุดมีข่าวว่าเจ้าตัวจะเฝ้าเสาในถิ่น San Siro ต่อไปก็ตาม)
4. มีใครที่อยากให้เครดิตอีกมั้ยครับ เช่น E.Fernandez / P.Neto / M.Gusto? เพราะอะไรยังไงบ้าง?
- ทั้งทีมทำผลงานได้ดีทุกคนครับ แต่คนที่โดดเด่นทุกคนคงจะถูกพูดถึงหมดแล้ว เลยอยากจะพูดถึง “T.Chalobah” ที่สู้อดทนจนกลับมายืนเป็นตัวหลักในแดนหลังให้กับทีมได้วันนี้ จากนักเตะที่จะโดนปล่อยทิ้ง ก่อนจะฝ่าฟันทำผลงานได้ดีกับ Crystal Palace ช่วงต้นฤดูกาลที่ผ่านมาในช่วงเวลายืมตัว พอหวนคืนสู่ทีมแม่ก็ยังทำได้ดี อย่างทัวร์นาเมนต์นี้ในรอบรองฯ และรอบชิงฯ ก็ยืนหยัดเต็มเกมพาเชลซีเก็บคลีนชีทได้ทั้ง 2 เกม
5. รู้สึกยังไงหลังทีมได้กองหน้าคมๆ แบบ J.Pedro มาช่วยทีมอย่างแท้จริง หลังไม่เคยมีกองหน้าดีๆ แบบนี้อีกเลย นับจาก D.Costa (และคิดว่า L.Delap จะพอซัพได้ดีหรือไม่ อย่างไร?)
- สปอตไลท์ส่องไปที่ “L.Delap” ในวันที่เขาถูกเปิดตัวก่อนการแข่งขันสโมสรโลก แต่ผลงานในช่วง 2-3 นัดแสดงให้เห็นแล้วว่า “J.Pedro” มีโอกาสสูงที่จะกลายเป็นตัวเลือกอันดับ 1 ในช่วงเปิดฤดูกาล เพราะไม่เพียงแต่ทักษะทำประตูอันเฉียบคม แต่การพักบอล หาตำแหน่ง และพาบอลขึ้นไปสร้างโอกาส ถือว่าทำได้ดีมาก
เพราะจะเห็นได้ว่าเชลซีเป็นทีมหนึ่งที่สร้างโอกาสการทำประตูมากที่สุดในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมา แต่ไม่สามารถเปลี่ยนให้เป็นประตูได้เท่าที่ควร ก็คาดหวังว่าเขาจะเข้ามาเปลี่ยนเกมได้ในฤดูกาลใหม่ต่อไป และเหนือสิ่งอื่นใดคือการเพิ่มดีกรีการแข่งขันในตำแหน่งกองหน้า ที่น่าจะทำให้ทุกตัวเลือกต้องเค้นฟอร์มเพื่อลงตัวจริงให้ได้ ต่างจากฤดูกาลก่อนที่จำใจต้องกุมขมับกับ N.Jackson เกือบทุกนัด = =
6. บอร์ดบริหารตอนนี้ กำลังไปถูกทางมั้ยครับ? ระยะยาวจะดีแค่ไหน เมื่อเทียบกับยุคเสี่ยหมี (เพราะคนวิจารณ์เสี่ยท็อดด์กันเยอะมากว่าไม่รู้เรื่องฟุตบอล)
- คิดว่าในระยะยาวเชลซีจะกลายเป็นสโมสรที่ประสบความสำเร็จทางในธุรกิจ และเริ่มเห็นแล้วว่าบางสโมสรเริ่มดำเนินการจัดการซื้อนักเตะและระบบบัญชีในรูปแบบเดียวกันเพื่อหวังกำไร ส่วนทางฟุตบอลคงจะเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จากในช่วงที่ผ่านที่เริ่มตั้งต้นกันในยุคเลือดใหม่
สิ่งเดียวที่น่าห่วงคือความผูกพันระหว่างสโมสร นักฟุตบอล แฟนบอล และตัวท็อดด์เอง ด้วยการสลับสับเปลี่ยนของนักเตะอยู่เรื่อยๆ รวมไปถึงการจัดการสโมสรที่ออกไปเชิงธุรกิจอย่างชัดเจน สิ่งนี้อาจจะทำให้เชลซีขาดบุคลิกของทีมที่ชัดเจนและเสน่ห์อาจจะเลือนหายไป แม้จะประสบความสำเร็จก็ตาม
7. สิ่งที่อยากบอก "C.Palmer" อะไรคือแรงผลักดันให้เขาเก่งแบบก้าวกระโดดขนาดนี้? มีสิทธิ์บัลลงดอร์มั้ยครับ?
- ชื่นชมทั้งเท้าซ้ายสุดฉมัง การเลี้ยงกินตัว เข้าตัดในยิงนิ่มๆ มี Vision ในการคิด อ่าน และสร้างสรรค์เกมอย่างล้ำเลิศ พร้อมให้เราเพลิดเพลินไปกับลูกเล่นอันแพรวพราวราวกับร่ายเวทมนต์บนฟลอร์หญ้า เป็นภาพจำ ทั้งเซ็ตฟีชหวังพึ่งได้ตลอด ทักษะพลิ้วไหวไปกับบอลได้ดีเยี่ยม เล่นเหมือนง่าย แต่ได้ประสิทธิภาพมาก ทว่าอาจจะยังเร็วไปสำหรับ C.Palmer ในการได้รับบัลลงดอร์
แต่เชื่อว่าวันหนึ่งที่มีโอกาสขึ้นมาประสบความสำเร็จกับทีมชาติมากขึ้น เวลานั้นก็ยังคงไม่สายเกินไปด้วยวัยและศักยภาพของเขา ซึ่งจัดว่าโดดเด่นมากในฤดูกาลแรกกับเชลซี ก่อนจะเริ่มโดนจับทางและประกบตัวในทุกนัดในปีต่อมา
และการเรียกความมั่นใจในรายการสโมสรโลกนี้ ประกอบกับผู้เล่นชุดใหม่ที่จะเข้ามาเติมเต็มอาจจะช่วยให้ C.Palmer เล่นได้อย่างมีอิสระและแสดงผลงานได้ดีขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว
8. “Chelsea” พร้อมแค่ไหนในการท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีก และถ้วยต่างๆ ในฤดูกาลหน้า? เมื่อมองจากการเสริมทัพ ปล่อยตัว และทิศทางบริหารครับ
- การจบอันดับ 4 ในพรีเมียร์ลีกฤดูกาลที่ผ่านมาถือว่ามาได้ไกลเกินคาด ซึ่งน่าจะทำให้สโมสรและผู้เล่นได้เรียนรู้ความผิดพลาดที่เกิดขึ้น และปรับใช้ในซีซั่นที่กำลังจะมาถึงเพื่อผลงานที่ดีขึ้น โดยมาเรสก้าให้สัมภาษณ์ตลอดฤดูกาลก่อนนี้ว่าเชลซีไม่ได้มีเป้าหมายในการลุ้นแชมป์ แต่เชื่อว่าในปีนี้กับความสำเร็จในคอนเฟอเรนซ์ลีก และศึกชิงแชมป์สโมสรโลก คงยากที่จะปฏิเสธว่าเชลซีนั้นไม่มีความพร้อมในท้าชิงแชมป์พรีเมียร์ลีกในฤดูกาลที่กำลังจะมาถึง
9. อะไรที่อยากบอกสปอนเซอร์รายใหม่ใจดีแบบ Arsenal?
- ถือว่าได้ของดีไปทั้ง 2 ราย K.Arrizabalaga ในราคาไม่สูง ทำให้ Arsenal ได้ผู้รักษาประตูมือสองที่มีประสบการณ์ ส่วนในกรณีของ N.Madueke เป็นนักเตะที่มีความคล่องตัวสูงเหมาะกับเกมการเล่นของทัพปืน
เพราะเมื่อมองย้อนไปในวันเวลาของเขาเมื่อยามสวมชุดน้ำเงินคราม แฟนบอลหลายคนอาจจะไม่ค่อยสบอารมณ์กับความพยายามทำประตูที่ล้มเหลว แต่นั่นก็ไม่ได้ความหมายว่าเขาจะเป็นแบบเดียวกันที่ Arsenal คงต้องขึ้นอยู่กับมือของ M.Arteta แล้วว่าจะดึงศักยภาพออกมาใช้งานยังไง แต่สุดท้ายอย่างไรก็ขอบใจเพื่อนยากร่วมกรุงลอนดอน ลูกค้าเจ้าเก่าเจ้าเดิม :)
10. สิ่งที่อยากบอกแฟนๆ สิงห์บลูส์ด้วยกัน มีอะไรบ้างครับ?
- ทุกสโมสรมีช่วงเวลาที่ดีและยากลำบาก หลายทีมต้องรอเวลาเป็นสิบๆ ปีกว่าจะทวงความสำเร็จกลับมาได้ และช่วงเวลาหลายปีที่ผ่านมาเชลซีเจอมรสุมมากมายทั้งในช่วงท้ายของ Roman Abramovich ที่ถูกบีบออก สโมสรถูกห้ามซื้อขายนักเตะ
แต่วันเวลาได้บ่มเพาะนักเตะมากมายจากอคาเดมี่ขึ้นมาเป็นกำลังสำคัญทั้งในช่วง 5-6 ปีที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบัน ความสำเร็จในปีนี้ และทิศทางที่ดีขึ้นของสโมสร เชื่อได้เลยว่าวันที่สดใสกำลังจะกลับมาแล้วครับ
ขอขอบคุณ: "แอดโก เรดิโอ บลูส์ ” และ “แอดแล้วแต่” ที่ให้เกียรติสละเวลามาสัมภาษณ์ และแชร์เรื่องราวดีๆ เก็บเป็นความทรงจำแด่แฟนบอลด้วยกัน
ขอบคุณภาพจาก: Chelsea FC
ยินดีด้วยนะครับเด็กสิงห์บลูส์ทุกคน 💙🦁🏆
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
