15 ก.ค. เวลา 07:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

WHA ยันลูกค้าไม่ถอนทุน อวดแบ็กล็อกหนา 2 พันไร่ จ่อโอนไตรมาส 4/68

จากกระแสภาษีสหรัฐฯ WHA ยืนยันนักลงทุนยังมั่นใจไทย เผยแผนขยายลงทุนทั้งนิคมฯ และโลจิสติกส์ กระจายความเสี่ยง เชื่อยอดโอนปีนี้แตะ 2.3 พันไร่ เสริมพอร์ตเวียดนามรับเทรนด์การผลิตกระจายความเสี่ยง
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหาร และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA เปิดเผยกับ "ฐานเศรษฐกิจ" ว่า มองว่าจากประเด็นมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) ของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ กำลังเป็นกระแสร้อนแรงที่หลายฝ่ายต่างให้ความสนใจ
โดยทาง WHA ไม่ได้นิ่งนอนใจมีการสำรวจผลความคิดเห็นจากทั้งลูกค้ารายเดิมที่มีการลงทุนและตั้งฐานผลิตในนิคมอุตสาหกรรม WHA รวมถึงลูกค้ารายใหม่ที่มีการเซ็นสัญญาบันทึกข้อตกลงร่วมไว้แล้ว (Loi) ยังคงยืนยันไม่มีการยกเลิกสัญญา หรือย้านฐานการผลิตไปยังประเทศอื่นแต่อย่างใด
หากมองภาพการลงทุนให้กว้างอีกนิดจะพบว่า ในการย้ายฐานผลิตแต่ละครั้งไม่ใช่เรื่องงาน และใช้เงินลงทุนเป็นจำนวนมาก รวมถึงต้องใช้ระยะเวลาในการก่อสร้างและติดตั้งเครื่องจักรในประผลิต ดังนั้น แผนการลงทุนคงไม่ปรับเปลี่ยนในทันทีทันใดได้ง่ายนัก
"ด้วยนโยบายที่เปลี่ยนแปลงตามอารมณ์ของสหรัฐฯ อย่างรวดเร็ว การลงทุนทางธุรกิจต้องมองภาพในระยะยาว ต้องมีการพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนถึงความเหมาะสม ความคุ้มค่า ต้นทุนในการผลิต การขนส่งต่างๆ ร่วมด้วย"
พร้อมกันนี้ บริษัทยังเดินหน้าให้ข้อมูลกับผู้ลงทุน (Road Show) ในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการให้ข้อมูลกับทางสิคโปร์และญี่ปุ่นไปบ้างแล้ว และผลการตอบรับก็ออกมาในทิศทางที่ค่อนข้างดี
นิคมฯ-โลจิสติกส์ ยังมีดีมานด์
ธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม ยอดขายที่รอการโอนกรรมสิทธิ์ (Backlog) ให้กับลูกค้าในมือปัจจุบันอยู่ที่ประมาณ 1,500 - 2,000 ไร่ ซึ่งคาดว่าการโอนกรรมสิทธิ์จะสูงสุดที่ในช่วงปลายปีหรือไตรมาส 4/68 โดยทั้งปี 68 บริษัทตั้งเป้าหมายยอดการโอนกรรมสิทธิ์ไว้ที่ประมาณ 2,350 ไร่ ในไตรมาส 1/68 มีการโอนกรรมสิทธิ์ไปแล้วราว 876 ไร่
นอกจากนี้ บริษัทยังคงความสนใจของลูกค้ารายใหม่ที่มีเข้ามาอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้บริษํทมี Loi ในมือรวมมากกว่า 1,000 ไร่ ซึ่งเป็นผู้ประกอบการต่างชาติรายใหญ่ จำนวน 2 ราย มีความต้องการซื้อที่ดินแปลงใหญ่ ขนาด 400 และ 500 ไร่ ตามลำดับ
ส่วน ธุรกิจโลจิสติกส์ ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะความต้องการเช่าคลังสินค้าคุณภาพสูงประเภท Built-To-Suit ขณะเดียวกันยังมีสัญญาเช่าระยะสั้นที่ให้ผลตอบแทนสูง เข้ามาเพิ่มเติมทั้งจากลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่ทั้งในและต่างประเทศ
บริษัทมุ่งขยายโครงการใหม่ในทำเลที่มีศักยภาพไทย เพื่อรองรับความต้องการใช้พื้นที่คลังสินค้าเพิ่ม ได้แก่ WHA Mega Logistics Center ชลหารพิจิตร กม.4 โครงการ 2, WHA Mega Logistics Center เทพารักษ์ กม. 21 เฟส 3 และ WHA Mega Logistics Center บางนาตราด กม. 23 Inbound รวมพื้นที่กว่า 380,000 ตารางเมตร (ตร.ม.)
โดยบริษัทได้ตั้งเป้ากลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์ในปี 68 นี้ โดยการเพิ่มสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการเป็นประมาณ 3,309,000 ตร.ม. โดยมีโครงการให้เช่าพื้นที่ใหม่ประมาณ 200,000 ตร.ม.(ไทย 163,000 ตร.ม./ เวียดนาม 37,000 ตร.ม.)
สำหรับการขยายการลงทุนในประเทศเวียดนามนั้น ตอนนี้มีนิคมฯ อยู่ 2 โครงการ ขนาดพื้นที่รวม 2,297 ไร่ (368 เฮกตาร์) ที่ได้รับการอนุมัติใบอนุญาตลงทุน (Investment Registration Certificate, IRC) เรียบร้อยแล้ว และ 1 โครงการ ขนาด 1,094 ไร่ (175 เฮกตาร์) และได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MoU) กับรัฐบาลท้องถิ่นประจำจังหวัด Thanh Hoa เพื่อพัฒนาเขตอุตสาหกรรม 2 แห่ง พื้นที่รวม 4,000 ไร่ (640 เฮกตาร์)
ด้านธุรกิจโลจิสติกส์ในเวียดนาม ในช่วงที่ผ่านมาบริษัทได้เปิดตัวศูนย์โลจิสติกส์เซ็นเตอร์ แห่งแรกของ WHA ภายในนิคมอุตสาหกรรมมินห์กวาง จังหวัดฮึงเอียน พื้นที่ 37,500 ตร.ม.
และได้ลงนามบันทึกข้อตกลง (MOU) กับรัฐบาลท้องถิ่นประจำจังหวัด Thanh Hoa เพื่อศึกษาการพัฒนาโครงการโลจิสติกส์ในพื้นที่ 300 ไร่ ซึ่งแผนการขยายดังกล่าวสอดคล้องกับกลยุทธ์การเติบโตธุรกิจโลจิสติกส์ทั้งในประเทศและต่างประเทศ
"จากยอด Backlog ที่มีในมือปัจจุบันกว่า 1.5-2 พันไร่ ซึ่งส่วนใหญ่จะโอนกรรมสิทธิ์ในช่วงปลายปีนี้ ละท้อนให้เห็นว่าความต้องการลงทุนในประเทศไทยยังคงมีอยู่ และยอดการโอนในปี 68 WHA จะทำได้ตามเป้าหมาย 2.35 พันไร่ การกระจายลงทุนในหลากหลายธุรกิจของ WHA จะช่วยสร้างเสถียรภาพให้กับผลประกอบการเติบโตไปได้อย่างยั่งยืนแน่นอน"
โฆษณา