15 ก.ค. เวลา 06:33 • ภาพยนตร์ & ซีรีส์

Dragon Swamp ดาบมังกรหยก (1969)

เจิ้งเพ่ยเพ่ยสองบทบาท แม่ลูกกลางบึงมังกร
ณ จุดหนึ่งของยุคสมัยที่กำลังภายในยุคใหม่ของฮ่องกงรุ่งเรืองสุดขีด Dragon Swamp ก็ปรากฏตัวขึ้นในโรงภาพยนตร์เมื่อปี 1969 ทำรายได้ทะลุหนึ่งล้านเหรียญฮ่องกง(1.2 ล้านเหรียญ) ซึ่งนับว่าสูงมากในยุคนั้น ซึ่งด้วยชื่อของเจิ้งเพ่ยเพ่ยและฝีมือของผู้กำกับหลอเว่ย ก็น่าจะทำได้อยู่แล้ว
แม้ Dragon Swamp อาจไม่ใช่ผลงานแถวหน้าของค่ายชอว์ บราเดอร์ส ไม่ถึงขั้นเป็นตำนานที่ถูกกล่าวขานอย่าง Come Drink with Me หรือ One-Armed Swordsman และถึงแม้จะมีบางอย่างที่เชยไปแล้วก็ตาม แต่หนังก็เต็มไปด้วยไอเดียที่ถักทอเข้าด้วยกันอย่างสนุกสนาน ดูเพลินกว่าที่คาดไว้ไม่น้อย โดยเฉพาะสำหรับแฟน ๆ ของเจิ้งเพ่ยเพ่ย ที่จะได้เห็นเธอในบทบาทที่ท้าทายถึงสองตัวละครในเรื่องเดียว ทั้งบทแม่ และบทลูกสาว ที่แม้จะมีใบหน้าเหมือนกันราวกับเงาสะท้อน แต่หัวใจของสองคนกลับแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง
หนึ่งคือฟานหยิงผู้เป็นแม่ คือหญิงที่ถูกโชคชะตาโบยตีจนด้านชา ขมขื่นและไร้รอยยิ้ม อีกหนึ่งคือชิงเอ๋อลูกสาวกลับเป็นเด็กสาวผู้ร่าเริง สดใสรวมกับผ้าขาวที่เติบโตมาในยุทธภพ
ฟานหยิง คือศิษย์หสตรีของสำนักเต๋า ผู้ถูกชายใจชั่วล่อลวงให้ช่วยขโมยดาบวิเศษ แต่สุดท้ายกลับถูกทอดทิ้ง เมื่อความจริงถูกเปิดเผย ฟานหยิงจึงถูกสำนักลงโทษให้ใช้ชีวิตเนรเทศอยู่ที่ “บึงมังกร” อันลึกลับ เป็นเวลายี่สิบปี เธอถูกแยกลูกสาวที่เพิ่งเกิดออกจากอก ให้หลอเว่ยหัวหน้าสำนักรับไปเลี้ยงดูแทน โดยได้รับคำเตือนว่า หากวันหนึ่งเธอต้องการกลับสู่โลกภายนอก เธอจะต้องเอาชนะ “เจ้าบ้านบึงมังกร” ให้ได้
และจากนั้น หนังก็กระโดดผ่านกาลเวลาอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทันให้รู้ตัว นอกเสียจากสีเทาแซมเส้นผมของหลอเว่ยที่ค่อย ๆ ปรากฏขึ้นอย่างแนบเนียน
ยี่สิบปีผ่านไป เด็กหญิงคนนั้นได้เติบโตขึ้นเป็นสาวน้อยนามว่า “ชิงเอ๋อ”ผู้ที่มีหัวใจบริสุทธิ์ ร่าเริง สดใส เติบโตมากับการฝึกวิทยายุทธ์ในสำนัก โดยไม่เคยรู้เลยว่าแม่แท้ ๆ ของเธอยังมีชีวิตอยู่ ณ บึงมังกร แต่แล้วโชคชะตาก็นำพาให้เธอพลาดพลั้ง ทำให้ ดาบมังกรหยกถูกขโมยอีกครั้ง คราวนี้ชิงเอ๋อกลายเป็นผู้ต้องสงสัย เธอจึงออกเดินทางตามหาดาบคืนเพื่อพิสูจน์ความบริสุทธิ์และระหว่างทาง ก็ได้พบกับ จอมยุทธพเนจรผู้ไร้นาม รับบทโดยเยี่ยหัว ผู้มีอดีตฝังใจและความหลังที่รอวันเปิดเผย
ตลอดทั้งเรื่อง หนังเดินเรื่องด้วยจังหวะที่เร็ว ฉับไว มีการหักมุมอย่างต่อเนื่อง หักมุมไปมาหลายตลบพาให้คนดูต้องตามเรื่องไปด้วยอย่างใกล้ชิด บางช่วงบางตอนอาจจะดูเมโลดราม่าหนักไปนิด แต่ก็แลกมาด้วยความบันเทิงและเสน่ห์บางอย่างที่หาไม่ได้จากหนังยุคหลัง
แต่ด้วยจังหวะที่รวดเร็วและโทนที่สนุกสนาน หนังจึงยังดูเพลินอยู่ดี เจิ้งเพ่ยเพ่ยรับผิดชอบหน้าจอได้อย่างยอดเยี่ยม สลับบทระหว่างชิงเอ๋อผู้แก่นแก้วสดใส กับฟานหยิงผู้เงียบขรึมและเต็มไปด้วยอดีตอันเจ็บปวดได้อย่างไม่สะดุด แม้แต่ในฉากที่สองตัวละครปรากฏพร้อมกันในเฟรมเดียวกัน
หนึ่งในความยอดเยี่ยมของเรื่องนี้คือฉากที่เจิ้งเพ่ยเพ่ยต้องปรากฏในร่างของ “แม่” และ “ลูก” ในฉากเดียวกัน เทคนิคพิเศษของชอว์ บราเดอร์สยุคนั้นอาจยังไม่ซับซ้อน แต่พวกเขาใช้กล้องและมุมถ่ายอย่างชาญฉลาด มีทั้งการหันหลัง ซบไหล่ ซ่อนหน้า และแม้กระทั่งช็อตที่หันหน้าทั้งสองคนเข้ากล้องในเฟรมเดียวกันอย่างแนบเนียน การแต่งหน้าที่ทำให้ฟานหยิงดูแก่กว่าและมีบาดแผลชีวิตที่มองเห็นผ่านสายตา ก็ช่วยให้คนดูสามารถแยกแยะได้อย่างชัดเจน แม้จะเป็นนักแสดงคนเดียวกันก็ตาม
อย่างไรก็ตาม หนังยังมีจุดอ่อนบ้าง เช่น เทคนิคพิเศษบางฉากที่ดูตกยุคมาก (โดยเฉพาะฉากในบึงมังกรที่มีฉากกิ่งก่ายักษ์ปรากฏผ่านการฉายหลังฉากด้วยเทคนิคเรียโปรเจคเตอร์อย่างเห็นได้ชัดเจน ทำให้ดูตลกมากกว่าน่าตื่นตา) หรือฉากต่อสู้บางฉากที่ค่อนข้างแข็งทื่อ เมื่อเทียบกับหนังรุ่นหลังในยุค 70s หรือเทียบกับความพลิ้วไหวแบบ Come Drink With Me ของคิงฮูที่เหนือชั้นกว่าชัดเจน
อย่างไรก็ดี หนังยังมีฉากต่อสู้ที่จัดว่าทำได้ดีในบางช่วง โดยเฉพาะการต่อสู้แบบหมู่ญ ส่วนการประลองแบบตัวต่อตัวกลับขาดทั้งความคล่องตัวและมุมกล้องที่ชาญฉลาดอย่างที่หนังในยุคถัดมาจะทำได้ดีกว่า และฉากบู๊ที่ยังไม่แคล่วคล่องเท่าหนังจางเชอะในยุคต่อมา
ที่สำคัญคือ เจิ้งเพ่ยเพ่ยเองในช่วงปีทองของเธอที่กำลังรุ่งโรจน์สุดขีด ได้พิสูจน์ตัวเองอีกครั้งว่าเธอไม่ใช่แค่ “หงส์ทองคะนองศึก” แต่คือศิลปินหญิงผู้แสดงได้ทุกแนว ตั้งแต่หนังกำลังภายใน หนังเพลง หนังสายลับ หรือแม้แต่บทเมโลดราม่าในโลกเหนือจริงแบบ Dragon Swamp ที่ทำให้คนดูเชื่ออย่างแท้จริงว่าหญิงสาวสองคนที่เจอหน้ากันในป่าลึกนั้น คือแม่ลูกที่พลัดพรากกันจริง ๆ
Dragon Swamp เป็นหนังแฟนตาซีกำลังภายในยุคทองของชอว์บราเดอร์สที่อาจไม่ยิ่งใหญ่ แต่ก็มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีเสน่ห์ และให้ความบันเทิงได้อย่างครบถ้วน โดยเฉพาะกับคนที่ชอบกลิ่นอายแฟนตาซีลึกลับแบบจีน ๆ และฝีมือการแสดงของเจิ้งเพ่ยเพ่ยที่ยังเปล่งประกายไม่จางหาย
และบางที...เมื่อดูจบ เราอาจไม่ได้จำเฉพาะแค่ดาบวิเศษ หรือชื่อบึงมังกร แต่จะจำได้ว่าครั้งหนึ่งในโลกภาพยนตร์จีน มีนักแสดงหญิงคนหนึ่ง ที่เล่นเป็น “แม่ที่เจ็บปวด” และ “ลูกสาวที่สดใส” ได้อย่างไม่ทิ้งเงาใครทับใครและนั่นแหละคือสิ่งที่ทำให้ Dragon Swamp ยังคงน่าจดจำแม้จะผ่านมานานนับครึ่งศตวรรษแล้วก็ตาม
โฆษณา