Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
สงคราม story
•
ติดตาม
16 ก.ค. เวลา 11:16 • การเมือง
ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนไทย F-16 ฝูงใหม่รอดับซ่าเขมร
สวัสดีครับท่านผู้อ่านทุกท่าน ก่อนที่จะไปอ่านบทความนี้ ผู้เขียนขอให้ทุกท่านโปรดช่วยกดไลก์ กดติดตาม และกดแชร์ เพื่อเป็นกำลังใจให้ผู้เขียนในการทำบทความต่อๆไป
สำหรับท่านใดที่มีเรื่องใดน่าสนใจ ท่านสามารถส่ง inbox ข้อความมาได้ที่ Facebook Supakrit Falcon หากเรื่องใดโดนใจผู้เขียนจะนำเรื่องราวไปศึกษาค้นคว้าหาข้อมูลเพื่อเตรียมการเสนอครั้งต่อไป
วันนี้มีข่าวร้อนเรื่องไทย-กัมพูชากับประเด็นที่กองทัพอากาศไทยมองหาความเป็นไปได้ที่จะมี F-16 รุ่นใหม่มาประจำแทน F-16 รุ่นเก่าที่โคราช ทั้ง 2 เรื่องนี้จะเชื่อมโยงหรือไม่ประการใดขอให้ทุกท่านติดตามกันเลยดีกว่าครับ
▶️ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนไทย
วันนี้มีข่าวร้อนแรงไปทั่วโลกโซเชียลหลังจาก “นโรดม แพน โมนิก้า” หญิงกัมพูชาหลานสาว ”เจ้านโรดมสีหนุ“ หวังเป็นวีรสตรี
ชี้หน้าตะโกนไล่ทหารไทยที่ปราสาทตาเมือนธม ส่งผลให้ทหารเขมรดาหน้าออกมาเต็มตีนปราสาท และสั่งตั้งปืน ในขณะที่มีการโต้เถียงกันกับทหารเขมร จนต้องผลักทหารไทยล้ม ในวันที่ 15 กรกฎาคมพ.ศ.2568
กองทัพบก ออกเอกสารชี้แจง ระบุว่า ตามที่เกิดเหตุการณ์กระทบกระทั่งระหว่างนักท่องเที่ยวชาวกัมพูชากับทหารไทย บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เมื่อวันที่ 15 กรกฎาคม เวลาประมาณ 14.00 น. นั้น กองทัพบกได้ตรวจสอบข้อเท็จจริงและขอชี้แจงเพื่อสร้างความเข้าใจที่ถูกต้อง ดังนี้
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อนักท่องเที่ยวหญิงชาวกัมพูชารายหนึ่งแสดงความไม่พอใจ พร้อมกล่าวตำหนิด้วยเสียงดังต่อเจ้าหน้าที่ทหารไทยซึ่งกำลังปฏิบัติหน้าที่นับจำนวนนักท่องเที่ยวบริเวณใกล้ทางเข้าปราสาทฝั่งกัมพูชา
โดยมีการกล่าวหาว่าทหารไทยได้รุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชา ทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงของไทยได้ชี้แจงหนักเเน่นว่า ปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนอธิปไตยของประเทศไทย ฝ่ายไทยไม่ได้มีการรุกล้ำอธิปไตยของกัมพูชาตามที่ถูกกล่าวหา
ขณะเดียวกัน เมื่อเจ้าหน้าที่ทหารทั้งฝ่ายไทยและกัมพูชาที่ประจำการอยู่ในพื้นที่ใกล้เคียงทราบเหตุจึงได้เข้ามาร่วมไกล่เกลี่ยและช่วยระงับเหตุที่เกิดขึ้น
โดยในระหว่างการคลี่คลายสถานการณ์
ฝ่ายไทยจึงได้เชิญประชาชนออกจากบริเวณปราสาทในช่วงเวลานั้นชั่วคราว เพื่อป้องกันไม่ให้เหตุการณ์ลุกลามบานปลาย และเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยวโดยรอบ
ทั้งนี้ ภายหลังการเจรจาทั้งสองฝ่ายได้มีความเข้าใจร่วมกัน และสถานการณ์ได้ยุติลงด้วยดี โดยเจ้าหน้าที่ของทั้งสองฝ่ายได้แยกย้ายไปปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ
มีรายงานเพิ่มเติมว่ากองทัพบกขอขอบคุณพี่น้องประชาชนชาวไทยที่ได้เดินทางมาเยี่ยมชมปราสาทตาเมือนธม ซึ่งนอกจากจะเป็นการร่วมอนุรักษ์มรดกทางวัฒนธรรมของชาติแล้ว ยังมีส่วนสำคัญในการส่งเสริมเศรษฐกิจและการท่องเที่ยวภายในประเทศอย่างเป็นรูปธรรม
พร้อมกันนี้ กองทัพบก ขอขอบคุณในทุกกำลังใจและการสนับสนุนที่มอบให้แก่เจ้าหน้าที่ทหารมาโดยตลอด อันเป็นพลังสำคัญในการปฏิบัติภารกิจดูแลความสงบเรียบร้อยและปกป้องอธิปไตยของชาติบริเวณแนวชายแดนอย่างมั่นคง
จากข่าวที่หยิบยกมาข้างต้นไม่ว่าชาวกัมพูชาคนนี้หรือใครที่อยู่ในประเทศดังกล่าว ผู้เขียนมองว่าแม้เรื่องนี้จะเคลียร์ได้ไร้ปัญหา อย่างไรก็ตามหากทหารกัมพูชาเข้ามาป่วนทหารไทยจนไร้ความอดทนเราอาจต้องใช้ยุทธวิธีทางทหารโต้กลับ ผู้เขียนเชื่อว่าปราสาทตาเมือนธมตั้งอยู่ในเขตแดนไทย ไม่ได้เป็นแผ่นดินเดียวกับกัมพูชา ต่อให้เราทำพื้นที่บริเวณมีสันติภาพ สุดท้ายสถานการณ์นี้มันก็ยิ่งร้ายแรงไม่ต่างอะไรจากภูเขาไฟที่รอวันปะทุ
ก่อนหน้านี้ผู้เขียนเคยนำเสนอเรื่องปราสาทตาเมือนธมไปแล้ว คราวนี้มันกลับมาเป็นกระแสร้อนแรงในโลกโซเชียล บัดนี้ไทยกำลังตกที่นั่งลำบากหากไม่มีการพลิกวิกฤตให้เป็นโอกาส เราจะทนดูทหารไทยต้องเป็นเบี้ยล่างพวกกัมพูชาไปได้อีกกี่ปี นี่หรือประเทศที่รักสงบ นี่หรือประเทศชอบเคลม นี่หรือประเทศแห่งธุรกิจสีเทา นี่หรือสแกมโบเดีย
▶️ท่าทีรมว.มหาดไทย
"สิ่งที่เราห่วงใย คือการปะทะแล้วจะเลยเถิดไป ถึงความรุนแรงที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะประชาชน ชาวไทยที่อยู่แนวชายแดน และทหารหาญ เพราะถ้ากระทบขึ้นมาก็ไม่ดี"
“ผมอยากให้พี่น้องประชาชนมีความอดทนอด กลั้น เราพยายามจัดการปัญหานี้ให้ดีที่สุด เพื่อไม่ให้ประเทศไทยเสียประโยชน์ และเราคำนึงว่าอธิปไตยของประเทศไม่อาจยอมได้ ซึ่งเราไม่อาจยอมได้ไม่ว่าจะเป็นความสัมพันธ์ของใคร อย่างไร ในการพูดคุยหรือเอาประโยชน์โดยเฉพาะรัฐบาลไทยชุดนี้จะไม่เปิดโอกาสให้ทำอย่างนั้นได้ และจะจัดการอย่างเต็มที่ถ้าหากมีเหตุการณ์แบบนั้นเกิดขึ้น"
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย
จากคำให้สัมภาษณ์ของท่านภูมิธรรม ในมุมมองส่วนตัวผู้เขียนเชื่อว่าประชาชนชาวไทยไม่พอใจในกระทำของกัมพูชาอยู่แล้ว ผู้เขียนในฐานะประชาชนชาวไทยขอยืนหยัดชัดเจนที่จะกล่าวกับพี่น้องประชาชนทุกท่านอย่างไม่อายฟ้าอายดินว่า ไม่ว่าจะปราสาทหรือสถานที่ใดๆก็ตามที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงของทหารไทย
ทหารไทยจะขับไล่ออกไปให้พ้นจากดินแดนนี้ แม้จะรู้ดีว่าการใช้กำลังทางทหารอาจได้มาซึ่งความสูญเสีย ทำให้คนจำนวนมากต้องนอนโรงพยาบาล ไฟฟ้าไม่มีใช้ การช่วยเหลือเข้าถึงยาก แต่มันจำเป็นต้องทำเพราะที่นี่เป็นดินแดนไทย เราจะเสียแผ่นดินข้าศึกไม่ได้
แม้จะต้องยั่วยุกี่ครั้งให้จับอาวุธรบทหารไทยจะไม่ใจร้อน เราจะประเมินสถานการณ์ต่อไปจนกว่าถึงขั้นที่ฝ่ายเราจะหมดความอดทน ไม่ว่าสงครามจิตวิทยาหรือสงครามที่ใช้อาวุธจริงขึ้นชื่อเรื่องการทำลายล้าง หากเราปกป้องประเทศไทยและใช้กำลังตอบโต้แบบในสงครามที่ผ่านๆมา เราย่อมเป็นฝ่ายได้เปรียบทั้งกำลังทางบก กำลังทางเรือ และกำลังทางอากาศ ส่วนจะรบได้ยืดเยื้อหรือไม่คงจะต้องจับตาดูกันต่อไป
สงคราม 6 วัน สงคราม 4 เดือน หรือสงคราม 10 ปี มันจำเป็นต้องทำเพื่ออะไรครับ เพื่อรักษาแผ่นดินเอาไว้ให้ลูกหลานนะฮะ การรบทุกครั้งทหารไทยพิสูจน์มาแล้วผ่านบทความที่ผู้เขียนเคยเขียนไว้หรือตามที่สื่อใดนำเสนอก็ตาม มันแสดงให้เห็นว่าเรื่องการรบทหารไทยไม่เป็นรองใครในทุกๆสมรภูมิ ดังนั้นทหารกัมพูชาอาจเป็นฝ่ายเพลี่ยงพล้ำในสงครามไม่วันใดก็วันหนึ่ง
เรามีอาวุธมากมายเช่น กองทัพบกมีรถถัง กองทัพเรือมีเรือรบ กองทัพอากาศมี F-16 อย่างไรก็ตาม F-16 ที่โคราชใกล้จะหมดอายุในอีกไม่กี่ปีนับจากนี้ จึงเป็นวลีที่ว่า "F-16 ควรทดแทนด้วย F-16"
▶️ F-16 ฝูงใหม่เตรียมดับซ่าเขมร
ตามแผนสมุดปกขาวกองทัพอากาศยืนยันว่าเครื่องบินขับไล่ F-16MLU ฝูงบิน403 กองบิน 4 ตาคลี จะปลดประจำการราวๆปีพ.ศ. 2580-2589 ด้วยเป็นเครื่องบินขับไล่ F-35A ที่กองทัพอากาศแสดงความต้องการมาก่อนแต่สหรัฐฯยังไม่อนุมัติขายให้ ไม่ใช่แค่ F-35A กองทัพอากาศก็ยังมีตัวเลือกที่เป็นไปได้อีกหลายแบบในห้วงเวลาดังกล่าว
ในขณะที่ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราชยังคงเป็นปริศนาว่าจะได้เครื่องบินแบบใดมาทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16A ที่ใช้งานมาตั้งแต่ปีพ.ศ.2531 หากไม่มีจะต้องถึงขั้นปิดฝูงไปเลย หรืออีกมุมหนึ่งหากมีเครื่องบินขับไล่แบบมาแทนอาจเป็น F-16 Block 70?
มีรายงานจากพี่เล็ก วาสนา นาน่วม ว่ากองทัพอากาศไทยได้ส่งสัญญาณไปยังสหรัฐฯแล้วว่า การจัดซื้อเครื่องบินในฝูงถัดไปจะเป็นเครื่องบิน F-16 แน่นอนไม่มีแบบอื่น การส่งสัญญาณนี้มีขึ้นเพื่อ สร้างความพึงพอใจให้กับสหรัฐฯ และลดแรงกดดัน ที่สหรัฐฯ อาจต้องการให้รัฐบาลไทยและกองทัพอากาศเปลี่ยนใจจากการซื้อเครื่องบินขับไล่ Gripen แบบใหม่ของสวีเดนมาเป็นเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70
สหรัฐอเมริการู้ดีว่ากองทัพอากาศไทยเลือกที่จะจัดซื้อเครื่องบิน Gripen จากสวีเดนสำหรับการจัดซื้อเครื่องบินรบในปัจจุบัน แทนที่จะเป็น F-16 ของสหรัฐฯ สำหรับสถานะ Gripen ปัจจุบันผู้สื่อข่าวสายทหารท่านนี้รายงานว่ายังไม่ได้เข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ทำให้ยังมีช่องโหว่ที่สหรัฐฯ อาจเข้ามามีบทบาทในการกดดันได้
มีการรายงานเพิ่มเติมว่าอีกไม่ถึง 20 ปีกองทัพอากาศจะต้องมีการปลดประจำการเครื่องบิน F-16 ฝูงบิน 403 ตาคลีที่นครสวรรค์
ผู้เขียนมองว่านี่อาจช่องโหว่หากโครงการจัดหาเครื่องบินขับไล่เลื่อนออกไปแบบไม่มีกำหนด
ในช่วงเวลานั้นกองทัพอากาศอาจมีการเตรียมการคัดเลือกแบบเครื่องบินขับไล่ใหม่ภายในประมาณ 2-3 ปี เพื่อทดแทนเครื่องบินขับไล่ F-16 ที่ใกล้จะปลดประจำการตามที่ผู้สื่อข่าวสายทหารรายงาน
สำหรับ F-16 ขึ้นชื่อว่าเป็นเครื่องบินขับไล่ที่ ประสบความสำเร็จมากที่สุดในโลก โดย ปัจจุบันได้เดินทางมาถึง Block 70/72 ภาย ใต้การผสมผสานเทคโนโลยี และดีเอ็นเอของ F-35 และ F-22
F-16 รุ่นล่าสุดที่มากับเรดาร์ AN/APG-83 (SABR) ที่ทันสมัยที่สุด มันได้รับเทคโนโลยีถ่ายทอดมาจาก F-35 และ F-22 นี่เป็นเครื่องบินขับไล่ที่อัพเกรดแล้วจึงสามารถเทียบชั้นได้กับเครื่องบินขับไล่ยุค 4.5 หรือสู้กับเครื่องบินขับไล่ของกองทัพอากาศกัมพูชาได้หากพวกเขามีการจัดหาในอนาคต
F-16 Block 70 ที่เป็นตัวอัพเกรด F-16 A/B ที่มีใช้งานในหลายชาติ เมื่อนำมาปรับปรุงเป็น F-16 Block 70 ที่มีการติดตั้งระบบเอวิโอนิกส์ที่ทันสมัยที่สุดไม่ว่าจะเป็นห้องนักบินที่มากับจอภาพแบบ Center Pedestal Display คอมพิวเตอร์ควบคุมการบินรุ่นใหม่ พร้อมระบบอีเธอร์เน็ตที่มีบัสสูง เพื่อรองรับการรับ-ส่งข้อมูล ระบบหลีกเลี่ยงการชนพื้นดินอัตโนมัติ หรือ Automatic Ground Collision Avoidance GCS
ที่สำคัญจุดขายสำคัญที่ท่านไม่ควรมองข้าม คือ เรดาร์รุ่นใหม่แบบ นอร์ทรอปกรัมแมน AN/APG-83 Scalable Agile Beam Radar (SABR) ที่ใช้เทคโนโลยีเฟสอาร์เรย์แบบอีซา ( AESA : Active Electronically Scanned Array) สามารถตรวจจับข้าศึกได้ไกลกว่าเดิม อีกทั้งยังล็อกเป้าหมายและติดตามได้มากกว่าเรดาร์แบบก่อนหน้า ค่าบำรุงรักษาต่ำ เชื่อถือได้ เพราะเป็นการนำเอาข้อดีของระบบเรดาร์ของ F-35 และ F-22 มารวมกัน ทำให้สามารถรองรับหลายภารกิจดีกว่าเดิม
การปรับปรุงโครงสร้าง F-16 Block 70 ทำให้มันมีอายุการใช้งานมากกว่าเดิมเป็น 12,000 ชั่วโมง พร้อมทั้งปรับปรุงเครื่องยนต์ใหม่ที่มีประสิทธิภาพสง โดยที่รุ่น Block 70 ใช้เครื่องยนต์ General Electric F110-GE-129 ส่วน Block 72 ใช้เครื่องยนต์ Pratt & Whitney รุ่น F100-PW-229 และมีถังเชื้อเพลิงภายนอกติดอยู่ข้างลำตัว เพื่อเพิ่มพิสัยในการปฏิบัติการให้ไกลขึ้น
F-16 Block 70 มีอะไรที่กัมพูชาเกรงกลัวคำตอบคือมีปืนใหญ่อากาศ: 1 × 20 มม. M61A2 Vulcan มีอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่พื้น มีอาวุธปล่อยนำวิถีอากาศสู่อากาศเช่น IRIS-T , Sidewinder และ AMRAAM ถ้าเป็นระเบิดนำวิถีและระเบิดไม่นำวิถีมันก็นำไปติดใต้ปีกได้
ทางเพจ Military Weapons อาวุธยุทโธปกรณ์ทางทหาร รายงานไว้เมื่อปีพ.ศ.2567 ว่า F-16 Block 70/72 ต้องใช้เวลารอ 7 - 10 ปี จึงจะได้เครื่องแรกเข้าประจำการเนื่องจากปัจจุบันมีคำสั่งซื้อจากประเทศต่างๆ รวมกันแล้ว 100+ เครื่อง ซึ่งโรงงานของบริษัทผู้ผลิต F-16 นั้นมีกำลังการผลิตเฉลี่ยปีละ 25 - 30 เครื่อง
หากเลือกเครื่องบินขับไล่ F-16 Block 70/72 นั้น จะส่งผลต่ออัตรากำลังรบทางอากาศของประเทศไทยที่จะไม่เพียงพอเนื่องจากจะปลด F-16 A ฝูงบิน 103 กองบิน 1 โคราช ในปีพ.ศ. 2571-2575 กว่า F-16 Block 70/72 เครื่องแรกจะมาก็ปีพ.ศ. 2574 - 2577 ถ้าเป็นแบบผู้เขียนสมมุติว่ายังมีการผลิตตามจำนวนที่กล่าวมาข้างต้นแล้วกองทัพอากาศไทยไปจัดหาราวๆปีพ.ศ.2573
อาจได้ก็ราวๆปีพ.ศ.2580-2583 นั่นเองซึ่งอาจทำให้ฝูงบิน 103 ขาดแคลนกำลังทางอากาศหากยังไม่มีการมาถึงของ F-16 ฝูงใหม่หรืออาจมีการจัดหาเครื่องบินขับไล่แบบอื่นที่ไม่ใช่ F-16 แบบใหม่ก็เป็นไปได้
F-16 Block 70 ติด JDAM ได้ไหมคำตอบคือได้ แต่ไม่มีภาพใดเลยที่จะสื่อว่า F-16 ไทยมี JDAM สำหรับไปทำลายรถถังเขมรหรือสิ่งก่อสร้างทางทหารของเขมร สมมุติถ้ามีก็คงจะทำลายเรียบร้อยไปนานแล้ว แต่กองทัพอากาศไทยยังไม่ถึงขั้นนั้นเพราะกองทัพไทยโดยเฉพาะกองทัพภาคที่ 2 สามารถควบคุมสถานการณ์ในขณะนี้ได้
ถ้าจะใช้ระเบิดนำวิถีด้วยเลเซอร์กับระเบิดไม่นำวิถีต้องรอกรณีที่ความขัดแย้งบานปลายเป็นสงคราม F-16 ถึงจะเอาจริงจนเขมรต้องมีสภาพย่อยยับ แถมอาจด้อยพัฒนาตามหลังกองทัพไทยถ้าวันนั้น F-16 เอาจริงแบบไม่มีความปราณี อย่างไรก็ตามสงครามย่อมมีกฎกติกาจะทำร้ายประชาชนประเทศเขาก็ไม่ได้แบบในสงครามกาซา ยิ่งทำก็ยิ่งถูกประณามจริงไหมครับ
ผู้เขียนลืมบอกไปว่า F-16 มีหมัดเด็ดคือระเบิดนำวิถีด้วยดาวเทียมแบบ Korean GPS Guided Bomb (KGGB) เป็นระเบิด Mk. 82 ขนาด 500
ปอนด์ติดปีก
คุณสมบัติที่สำคัญของชุดระเบิดร่อนนำวิถี KGGB คือสามารถติดตั้งใช้งานได้โดยไม่ต้อง มีการดัดแปลงโครงสร้างอากาศยานหรือชุด คำสั่งเพิ่มเติม โดยการบันทึกข้อมูลภารกิจล่วงหน้าให้กับอุปกรณ์หน่วยแสดงผลนักบิน Pilot Display Unit (PDU) ซึ่งนักบินจะนำไปไว้กับตนเองในห้องนักบินของเครื่อง ไข่เหล็ก KGGB สามารถติดตั้งกับตำบลติดอาวุธใต้ปีกของเครื่องบิน F-16 โดยนักบินจะทำการบินเครื่องเข้าสู่ตำแหน่งห่างจากเป้าหมายที่กำหนด PDU จะสื่อสารข้อมูลแบบไร้สายกับชุดปีก นักบินจะทำหน้าที่ปลดระเบิดนำวิถีร่อนเข้าหาเป้าหมายเอง
สำหรับเครื่องบินขับไล่ F-16 สามารถใช้งานชุดระเบิดนำวิถีร่อน KGGB คู่กับไข่เหล็ก
Mk. 82 ที่ผลิตในไทยโดยกรมสรรพาวุธทหารอากาศไปจัดการกรณีมีรถถังหรือยานเกราะของกองทัพกัมพูชาล้ำเข้ามา ดีกว่าจะต้องให้รถถังและทหารบกไทยทำงานเพียงฝ่ายเดียว
ปัญหาปราสาทตาเมือนธมล่าสุดเคลียร์แล้ว แต่ที่ยังไม่จบคือปัญหาไทย-กัมพูชาจะจบลงเมื่อใด หรือว่าจะต้องวันที่ F-16 ฝูงใหม่มาถึงวันนั้นจึงจะหมดความขัดแย้งนี้ได้ หากบทความยาวเกินไปก็ขออภัยมา ณ ที่นี้สำหรับวันนี้ผู้เขียนขอลาไปก่อน สวัสดีครับ
Credit บทความและภาพประกอบ
กองทัพภาคที่ 2
Kittidej Sanguantongkham
กองทัพอากาศไทย
Arrow
เรียบเรียงบทความ : นักรบชายแดน
บันทึก
5
5
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย