Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
ออมสิน
•
ติดตาม
17 ก.ค. เวลา 00:34 • ความคิดเห็น
ปัจจุบันคลื่นธรรมะของพระพุทธเจ้า กำลังกำจัดสิ่งสกปรกออกจากศาสนา ทั้งที่จริงแล้วศาสนาไม่เคยเสื่อม แต่คนเสื่อม แต่งตั้งยศให้พระ ให้พระรับเงิน สีกาแฉพระเป็นไปตามกฎแห่งกรรม สะท้อนว่า "พุทธวจน"สำคัญที่สุด?
สิ่งที่การแฉเรื่อง "พระกับสีกา" สะท้อนคืออะไร?
1. พระบางรูปไม่ใช่พระตามพุทธวจนตั้งแต่ต้น
คนเหล่านี้อาจนุ่งเหลือง แต่จิตใจไม่ได้ละกิเลส ไม่ศึกษาธรรมะ ไม่ปฏิบัติธรรมตามพุทธบัญญัติ
มีวัตรปฏิบัติแบบฆราวาส อยู่ในวัดแบบขุนนาง ใช้เงิน ใช้สมาร์ตโฟน รับแขก วางตัวเป็นเจ้าคณะ เป็นเจ้าคุณ แต่ไม่ใช่สมณะ
2. ระบบ “ยศตำแหน่ง” บั่นทอนธรรมวินัย
ในพระไตรปิฎก ไม่มีการแต่งตั้งยศ เช่น พระครู พระเทพ พระราชฯ นี่คือระบบที่ “ฆราวาสสร้างขึ้น” แล้วพระก็ยินดีรับ พระแท้จะปฏิเสธการตั้งยศ เพราะรู้ว่าขัดกับธรรมวินัย ยศคือ “โลกธรรม” ไม่ใช่เครื่องหมายของความพ้นทุกข์
3. การมีเงินทองสะสม เป็นต้นตอของกิเลส
พระที่มีเงินเป็นล้านในบัญชี ย่อมมี “อำนาจซื้อ” และเข้าถึงสิ่งยั่วยุ มันเป็นกับดักที่ชัดเจนมาก
พระผู้ถือวินัยจริง จะไม่มีบัญชี ไม่มีเงิน ไม่มีข้าวของ ไม่มีรถ ไม่มีเครื่องหรูหรา เพราะรู้ว่านั่นคือภัย
แล้วทำไมประชาชนจำนวนมากจึงยังศรัทธาพระเหล่านี้อยู่?
1. ประชาชนไม่ได้ศึกษาพระวินัยและพุทธวจน
ส่วนมากเชื่อในภาพลักษณ์ ชื่อเสียง หรือ "คำเล่าลือ" มากกว่าศึกษาเนื้อในของคำสอนพุทธเจ้า ถ้าศึกษาพุทธวจน จะเห็นชัดว่า พระที่รับเงิน รับยศ มีสมบัติ ถือว่า “ผิดวินัย” ตั้งแต่ต้น
2. ศาสนาถูกใช้เป็นเครื่องมือแห่งอำนาจและสถานะ
ยิ่งพระมีบารมีในเชิงทางโลก เช่น “ได้เข้าเฝ้า” “ได้เลื่อนชั้น” “มีวัดใหญ่” ก็ยิ่งสร้างศรัทธาจอมปลอม.คล้ายกับคนหลงไอดอล หลงแบรนด์ ไม่ดูคุณภาพจริง แต่ดูรูปลักษณ์เปลือกนอก
3. การทำบุญแบบ “หวังผล” ทำให้คนหลงพระปลอม
คนจำนวนมากทำบุญเพราะอยากได้บุญ อยากโชคดี อยากรวย จึงมองหาพระที่ดูศักดิ์สิทธิ์ ดูใหญ่โต แต่พระแท้จะสอนให้ละกิเลส ไม่ใช่เสริมกิเลส ดังนั้นคนจึงไม่ค่อยเข้าหาพระแท้
สรุปแบบเข้าใจง่าย
ประเด็น พระแท้ (ตามพุทธวจน) พระปลอม (แม้มีตำแหน่งสูง)
พระปลอม ยินดีรับยศ พระแท้จะปฏิเสธ
เงินทอง พระแท้ไม่รับแม้แต่บาทเดียว
ส่วนพระปลอม มีบัญชี มีเงิน มีพ่อค้า
เรื่องสีกา พระแท้จะหลีกเลี่ยง ไม่อยู่ลำพัง
ส่วนพระปลอมมักมีข่าวฉาว
ส่วนชีวิตความเป็นอยู่ มักน้อย พระแท้จะสมถะ
ส่วนพระปลอม หรูหรา สะดวกสบาย
ตอกย้ำอีก 10 ข้อ ของความเป็น “พระแท้” ตามพุทธวจน พร้อมตัวอย่าง
1. ไม่รับเงินทอง
พระพุทธเจ้าตรัสชัดว่า “ภิกษุไม่พึงรับ ไม่พึงจับ ไม่พึงสะสมทองและเงิน”
ตัวอย่าง ถ้ามีคนใส่เงินลงในบาตร ท่านจะไม่รับ หรืออาจกล่าวสุภาพว่า “ของนี้ภิกษุใช้ไม่ได้ครับ”
1
2. ไม่เกี่ยวข้องกับการค้าขายหรือแลกเปลี่ยนทรัพย์
ภิกษุไม่พึงแลกเปลี่ยนของกับฆราวาส ไม่พึงพกของไปขายหรือรับของเพื่อแลกสิ่งของอื่น
ตัวอย่าง ท่านจะไม่ตั้งตู้บริจาค ไม่ขายวัตถุมงคล ไม่ให้เช่าพระ หรือร่วมกิจกรรมหารายได้
3. ไม่รับราชการ ไม่รับยศถาบรรดาศักดิ์
ภิกษุต้องละทิ้งความเป็นฆราวาส ไม่เกี่ยวข้องกับยศ ลาภ สรรเสริญ
ตัวอย่าง หากมีการแต่งตั้งให้เป็น "พระราชาคณะ" หรือมีบรรดาศักดิ์ ท่านจะปฏิเสธ
4. ไม่มีทรัพย์สินส่วนตัว ไม่สะสมสิ่งของ
ภิกษุต้องเป็นผู้ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีบัญชีธนาคาร ไม่มีมือถือหรือคอมพิวเตอร์ส่วนตัว
ตัวอย่าง ท่านจะใช้ของจำเป็นที่ญาติโยมนำมาถวายอย่างมักน้อย ไม่สะสม
5. ไม่รับของที่ไม่จำเป็นต่อสมณเพศ
เช่น บ้าน รถ เครื่องเสียง โทรศัพท์มือถือ ฯลฯ
ตัวอย่าง หากมีโยมถวายรถหรือของฟุ่มเฟือย ท่านจะปฏิเสธ
6. เคร่งครัดในพระวินัย
ดำเนินชีวิตโดยยึดพระวินัยปาฏิโมกข์อย่างจริงจัง เช่น ไม่พูดปด ไม่เสพกาม ไม่ละเมิดศีล
ตัวอย่าง ท่านจะไม่อยู่กับสตรีตามลำพัง ไม่พูดลามก หรือเล่นมุกสองแง่สองง่าม
7. ยึดการบิณฑบาตเป็นหลักในการเลี้ยงชีพ
ไม่ใช่รออาหารจากโรงครัววัด ไม่สั่งอาหารเดลิเวอรี่
ตัวอย่าง ท่านออกบิณฑบาตทุกเช้า ไม่เลือกบ้าน ไม่เลือกอาหาร และไม่เรียกร้อง
8. ไม่แสดงฤทธิ์ ไม่อวดอิทธิฤทธิ์
ตามพุทธวจน การแสดงฤทธิ์เพื่ออวดถือเป็นอาบัติปาราชิก (ร้ายแรงถึงขั้นสึก)
ตัวอย่าง ท่านจะไม่พูดว่าตนเห็นผี บรรลุธรรม หรือโชว์อำนาจพิเศษใดๆ
9. ไม่รับกิจนิมนต์ที่ขัดกับธรรมวินัย
เช่น งานมงคล งานขึ้นบ้านใหม่ งานเลี้ยงหรู งานพุทธพาณิชย์
ตัวอย่าง ถ้ามีการเชิญไปงานรื่นเริง ท่านจะปฏิเสธด้วยเหตุผลว่า “กิจนี้ไม่เหมาะแก่สมณะ”
10. สอนธรรมตามคำพระพุทธเจ้าเท่านั้น (พุทธวจน)
ไม่แต่งเรื่องเอง ไม่ขยายความจากความเชื่อหรือภูมิปัญญาชาวบ้าน
ตัวอย่าง ท่านจะอ้างอิงพระสูตร เช่น “ดูกรภิกษุทั้งหลาย... พระผู้มีพระภาคตรัสไว้ว่า...” และไม่อ้างครูบาอาจารย์อื่น
คำอธิบายของอาจารย์เบียร์ที่น่าสนใจ
พระพุทธเจ้าไม่ได้ตรัสว่า ห้ามแค่จับเงิน แต่ตรัสชัดว่า ห้ามรับ ห้ามถือ ห้ามสะสม ห้ามเกี่ยวข้องกับเงินทองทุกกรณี"
พระที่บอกว่า รับเงินเพื่อบริหารวัด หรือให้ญาติโยมเก็บไว้ให้ แล้วใช้แทน อันนั้น คือเลี่ยงบาลี ไม่ใช่ทำตามวินัย"
ถ้าพระถือเงิน อยู่กับสตรี ใช้มือถือ รับกิจนิมนต์งานเลี้ยง แปลว่าไม่ได้เป็นพระแล้วในสายตาพระพุทธเจ้า"
พุทธวจนที่อ้างอิงชัดเจน (วินัยปิฎก, มหาวรรค)
“ภิกษุใด รับทองและเงิน ต้องอาบัติปราชิก”
วินัยปิฎก มหาวรรค (6/1/27)
“ภิกษุไม่พึงใช้คนถือเงินแทนตน เพราะถือว่าเป็นผู้รับเอง”
“ภิกษุใดรับทองหรือเงิน แม้จะให้ผู้อื่นเก็บไว้ให้ ก็ยังชื่อว่าผิดวินัย”
อาจารย์เบียร์มักจะนำคำสอนเหล่านี้มาอ่านจากพระไตรปิฎกโดยตรง และชี้ให้เห็นว่า พระในยุคพุทธกาล อยู่ได้โดยบิณฑบาตเท่านั้น ไม่มีคำว่า "เงิน" ในชีวิตของสมณะเลย
ตัวอย่างประโยคเด็ดที่อาจารย์เบียร์เคยพูด
“ถ้าพระถือเงิน ยังใช้มือถือ เล่นเฟซบุ๊ก อยู่กับสีกา นั่นไม่ใช่พระของพระพุทธเจ้า แม้จะห่มเหลืองหรือมีตำแหน่งใหญ่โต”
“เงินนั้นแล เป็นสิ่งไม่ควรแก่ภิกษุ เป็นของอันไม่สมควรแก่สมณะ”
“การให้เงินใส่บาตร ไม่ใช่บุญ แต่เป็นการส่งเสริมให้พระผิดวินัย!
การสอนอ้างพระพุทธเจ้าโดยตรงสอนผสมความเชื่อ ปาฏิหาริย์
ถ้าคนไทยหันมา ศึกษาพุทธวจนอย่างจริงจัง จะไม่หลงกลพระปลอม และจะไม่แปลกใจเลยว่า…
“ทำไมพระบางรูป ถึงถึงจุดที่มีสีกา ทั้งที่นุ่งเหลืองและมีตำแหน่งใหญ่โต”
เพราะแต่เดิม เขาไม่ได้เป็น “พระแท้” ตั้งแต่แรกแล้ว ครับ
ประชาชนจำนวนมาก ไม่ฉลาดในการดูพระแท้
เพราะเหตุผลสำคัญคือ
1. ไม่ได้ศึกษาพุทธวจน จึงไม่รู้ว่าพระพุทธเจ้าทรงวางมาตรฐานของ “พระแท้” ไว้ยังไง
ไม่รู้ว่าการ “รับเงิน” “รับยศ” “อยู่กับสตรี” “มีสมบัติ” = ผิดวินัยอย่างร้ายแรง
2. ใช้ความรู้สึกแทนหลักธรรม เห็นพระพูดเพราะ สร้างวัดใหญ่ แจกของ มีรถตู้ มีลูกศิษย์เยอะ ก็หลงนึกว่า “ดี” ทั้งๆ ที่ขัดกับคำสอน
3. นิยมศรัทธาในบุคลิก ไม่ใช่คำสอน มองที่ภาพลักษณ์ ไม่มองพฤติกรรมตามพระวินัย คนที่พูดเพราะ ใจดี มีคลิปตลกๆ ก็ดูเป็น “พระดี” ไปหมด ทั้งที่ ไม่เคยบิณฑบาต ไม่เคยปฏิเสธเงิน
จุดสำคัญที่ควรตระหนักคือ
“พุทธวจน” คือเกณฑ์มาตรฐานเดียวที่บอกได้ว่า พระรูปไหนคือ “พระแท้”.ไม่ใช่ยศ ไม่ใช่เสียงพูด ไม่ใช่จำนวนลูกศิษย์ หรือชื่อเสียงในโซเชียล
ตัวอย่างที่ประชาชนจะรู้ได้ ถ้าเรียนพุทธวจน
พระพุทธเจ้าห้ามพระรับเงินทุกกรณี
ถ้ารูปไหนรับเงิน = ไม่ใช่พระแท้
พระห้ามเกี่ยวข้องกับยศถาบรรดาศักดิ์
ถ้ารูปไหนยินดีรับตำแหน่ง = ไม่ใช่พระแท้
พระห้ามอยู่กับสตรีหรือมีพฤติกรรมทางเพศ
ถ้ามีข่าวกับสีกา = ขาดจากความเป็นพระทันที
ข้อสรุปแบบตรงไปตรงมา
“ถ้าประชาชนไทยโดยมาก ศึกษาพุทธวจน ตั้งแต่พื้นฐาน เช่น สิกขาบท วินัยภิกษุ และพระสูตรต้นฉบับ…
สังคมไทยจะไม่หลงพระปลอม และจะช่วยกันรักษาศาสนาให้บริสุทธิ์ได้มากกว่านี้หลายเท่า”
ถ้อยคำที่สื่อถึงสารนี้อย่างชัดเจน
“ถ้าไม่รู้พุทธวจน ก็แยกไม่ออกว่าพระรูปไหนคือพระแท้”
“พระพุทธเจ้าทรงสอนชัดว่า ‘ภิกษุรับเงิน = อาบัติร้ายแรง’ ทำไมประชาชนยังไม่รู้?”
“ยศไม่ใช่เครื่องหมายของธรรม เงินไม่ใช่ของคู่กับผ้าเหลือง”
“พุทธวจนไม่ทำให้คุณรวย แต่ทำให้คุณรู้ว่าใครคือพระแท้ ใครคือพระปลอม”
“ใครไม่รู้พุทธวจน จะโดนพระปลอมหลอกซ้ำๆ แล้วก็โทษศาสนา ทั้งที่ศาสนาไม่ได้ผิดเลย”
4 บันทึก
10
2
4
4
10
2
4
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย