17 ก.ค. เวลา 01:33 • ปรัชญา
เคยได้ยินคำนี้ไหมครับ
“นำอวิชชาและโทมนัสในโลกนี้ออกเสียได้”
เป็น ถ้อยคำที่ใช้บ่อยมากในการอธิบายธรรมะ ในสาย "พุทธวจน" และตรงกับเนื้อหาหลักในพระไตรปิฎก
“อวิชชา” = ความไม่รู้ในอริยสัจ ๔
“โทมนัส” = ความเศร้าโศก เสียใจ ทุกข์ใจ
การ "นำออกเสียได้" หมายถึงการชำระให้สิ้นไปจากจิต
ซึ่งเป็นเป้าหมายสูงสุดของการศึกษาพุทธธรรม ดับอวิชชา ดับทุกข์
จุดเริ่มต้นของการดับอวิชชา... คือต้องเห็นโทษของความทุกข์และภัยในวัฏฏะ เมื่อยังไม่เห็นทุกข์เป็นทุกข์ ย่อมยังไม่แสวงหาทางออก เมื่อยังไม่เห็นภัยของวัฏฏะ ย่อมยังวนเวียนในโลกอย่างยินดี
เหตุใดจึงต่างกันระหว่างคนที่เข้าใจ กับคนที่ไม่เข้าใจในคำเดียวกัน?
พระพุทธเจ้าตรัสว่า “บุคคลมีอินทรีย์ต่างกัน” คือ มีศรัทธา วิริยะ สติ สมาธิ ปัญญา แก่กล้าต่างกัน
คนที่อินทรีย์ยังอ่อน แม้ได้ฟังธรรมชั้นสูง ก็ยังไม่เข้าใจ เปรียบเหมือนเด็กยังเล็กไม่อาจเข้าใจวิชาคณิตศาสตร์ชั้นสูง
แต่ผู้ที่อินทรีย์แก่กล้าแล้ว จะเข้าใจแม้ได้ยินเพียงประโยคเดียว
แล้วอินทรีย์จะเจริญได้อย่างไร?
อินทรีย์แก่กล้า เพราะ “สั่งสมการฟังธรรม ใคร่ครวญธรรม ลงมือปฏิบัติ” อย่างต่อเนื่อง
อินทรีย์ไม่แก่กล้า เพราะไม่ฝึก ไม่ฟัง ไม่พินิจ
เมื่อฝึก เมื่อฟัง เมื่อใคร่ครวญ จึงค่อยๆเจริญ
อวิชชา… คือ ความไม่รู้ ที่ไม่ใช่แค่ไม่รู้...
แต่ "ไม่อยากรู้" อันนี้นี่แหละที่น่ากลัว
บางคนอินทรีย์อ่อน…แต่ก็ไม่ยอมฝึก
นั่นแหละคือ กรรม อย่างหนึ่ง
พระพุทธเจ้าจึงจำแนกบุคคลเป็นบัว 3 เหล่า ยังไงล่ะครับ
โฆษณา