1 ชั่วโมงที่แล้ว • หนังสือ

บทความ Blockdit ตอน ชีวิตที่สนุกเป็นอย่างไร

นานมาแล้ว มีคนถามนักกอล์ฟมืออาชีพคนหนึ่งว่า “เวลาคุณเล่นกอล์ฟ คุณสนุกกับมันทุกครั้งหรือเปล่า?”
คำตอบของเขาคือ “เปล่า”
ตอนหนุ่มๆ เขาเล่นกอล์ฟด้วยความสนุก แต่เมื่อเริ่มขึ้นไปถึงระดับที่ต้องเดินสายชิงรางวัลทัวร์นาเมนต์ต่างๆ มีคนมากมายเฝ้าดูการเล่นของเขา ความสนุกก็เริ่มหายไป เพราะเกิดความคาดหวังของคนอื่น เกิดความคาดหวังว่าตนจะต้องชนะ
การเล่นเพื่อเอาชนะหรือมีผลประโยชน์มาเกี่ยวข้อง ทำให้มันไม่ใช่กิจกรรมที่ทำเพื่อความสนุกเป็นหลักอีกต่อไป
การเขียนหนังสือก็เหมือนกัน
หากเขียนเพื่อตั้งใจล่ารางวัล เขียนตามโจทย์ทางการตลาด หรือเขียนเพื่อสร้างยอด like การเขียนก็อาจกลายเป็นเรื่องไม่สนุกและไม่เป็นอิสระอย่างที่ควรจะเป็น เพราะมีกรอบล้อม
นักเขียนรางวัลวรรณกรรมบางคนเขียนงานใหม่ไม่ออก เพราะคาดหวังว่าเรื่องใหม่ต้องดีกว่าหรืออย่างน้อยดีเท่าเรื่องก่อนที่ได้รับรางวัล
นี่ก็เป็นกรอบล้อม และการทำงานเริ่มไม่สนุกแล้ว
หลายอาชีพก็เป็นอย่างนี้ เริ่มต้นด้วยความสนุก เมื่อสนุกก็ทำได้ดี ผลตอบรับดีมาก ก็ขยายกิจการ ทำเป็นธุรกิจ ต้องหาทางเข้าตลาดหลักทรัพย์ ฯลฯ ภาระหน้าที่และความรับผิดชอบทำให้มันเริ่มไม่ค่อยสนุก เพราะต้องตอบโจทย์ใหม่คือผลกำไร
ส่วนมากงานที่เริ่มทำด้วยความสนุกมักทำให้เกิดเงิน แต่งานที่เริ่มต้นด้วยเงินไม่ค่อยทำให้เกิดความสนุก
คนทุกอาชีพควรถามตัวเองเป็นระยะว่า ยังสนุกกับงานไหม
ถามตัวเองเสมอว่า เราทำกิจกรรมหนึ่งๆ เพื่ออะไร
มันไม่ใช่ประเด็นผิดหรือถูก ไม่ว่าทำเพื่อเงิน หรือเพื่อเหตุผลใด แต่การถามตัวเองทำให้รู้ว่าตนยืนอยู่ตรงจุดไหน และจะไปไหนต่อ
คำถามคือ ทำทั้งสองอย่างได้หรือไม่ ตอบโจทย์บังคับกับรักษาความสนุก
อาจจะได้ แต่ไม่ทุกคนทำได้ หรืออยู่ในสภาวะที่ทำได้
ชีวิตก็เช่นการเล่นกอล์ฟ เล่นแบบสนุกอย่างเดียวก็ได้ เล่นแบบหาเงินอย่างเดียวก็ได้ หรืออาจทำทั้งสองอย่างพร้อมกัน แต่ต้องรักษาสมดุล ถ้าทำเช่นนี้ได้ มันก็คือความสำเร็จอย่างหนึ่ง
บ่อยครั้งความสนุกกับเงินเป็นสิ่งที่เราต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง ยกตัวอย่างง่ายๆ เช่น งานล้างส้วม
ไม่ใช่งานในฝันของคนจำนวนมากแน่นอน มันถูกมองว่าเป็นอาชีพต่ำต้อย เป็นงานที่แลกกับเงิน แต่ไม่มีใครคิดจะทำอาชีพนี้ตลอดชีวิต
ในหนังเรื่อง Perfect Days ตัวละคร ‘ฮิระยะมะ’ เป็นคนทำความสะอาดห้องน้ำสาธารณะ หรือคนล้างส้วม
เขาเปลี่ยนทัศนคติเรื่องงานที่ไม่น่าทำ มองว่างานก็คืองาน ความสกปรกเป็นเพียงมายา สิ่งสมมุติ
ไอแซค อสิมอฟ เป็นนักเขียนที่มีผลงานมากที่สุดคนหนึ่งในโลก คือทั้งชีวิตผลิตงานราว 500 เรื่อง
เขาทำงานหนักและทำงานมาก ไม่ใช่เพราะเงิน แต่เพราะสนุกกับงานมากเหลือเกิน
สำนักพิมพ์บอกเขาว่า ให้เพลาๆ ลงหน่อย เพราะทำให้ยอดขายแต่ละเล่มแข่งกัน เขารู้สึกผิดหวังกับคำแนะนำนั้น เพราะเขาไม่ได้เขียนเพื่อเงิน เขาทำงานเพื่อความสนุก
บางคนเปิดร้านข้าวแกงมาตลอดชีวิต ครั้นอายุมากแล้ว ก็ยังขายข้าวแกงอยู่ ไม่ใช่เพราะเดือดร้อนทางการเงิน แต่เพราะงานนั้นเป็นหัวใจ สนุกกับงาน
วันใดที่ไม่สนุกกับงาน ก็ตาย
วันใดที่ไม่สนุกกับการมีชีวิต ชีวิตก็จบ
การถามตัวเองว่ากำลังทำอะไรอยู่ สนุกกับงานหรือไม่ เป็นการสำรวจตัวเองว่ายืนอยู่ที่จุดไหน จะไปไหนต่อหรือไม่
ไม่ว่าจะก้าวออกจากจุดเดิม หรืออยู่ที่เดิม ก็ไม่ผิด เพราะชีวิตก็คือการย้อนมองดูตัวเองเป็นระยะ เพื่อถามตัวเองว่ายังมีความสุขหรือไม่
โฆษณา