เราจะซื้อหุ้นก็มักจะถามในใจว่าจะซื้อเท่าไรและช่วงไหนดีจึงจะเลี่ยงติดดอยในระยะยาว เรามาดูกัน
ก่อนการซื้อหุ้นทุกท่านก็ต้องผ่านการคัดเลือกหุ้นมาเป็นอย่างดี พอจะซื้อหุ้นก็จะมีคำถาม จะซื้อเท่าไรและช่วงไหนดี เพื่อจะหลีกเลี่ยงการติดดอยและขาดทุนให้ได้มากที่สุด
หลายคนก็เลยมีแนวคิดต้องซื้อในช่วงที่หุ้นมีราคาต่ำโดยใช้เงินจำนวนมากหน่อย และจะซื้อหุ้นที่มีราคาสูงในจำนวนเงินที่น้อยลง แล้วในรูปแบบนี้เราจะมีวิธีคิดอย่างไร มาดูกันเลย
ขั้นตอนแรก เราต้องนำราคาหุ้นต่ำสุดและสูงสุดในรอบ 1 ปีหรือ 5 ปีก็ได้ ตามต้องการ มาหาค่า % ช่วงราคาหุ้นต่ำสุดสูงสุด (High and low price range: HLPR) โดยใช้สูตร
%HLPR = ((ราคาหุ้นปัจจุบัน - ราคาหุ้นต่ำสุด)/(ราคาหุ้นสูงสุด - ราคาหุ้นต่ำสุด)) × 100
ถ้ามีค่าใกล้เคียง 100 % หมายถึง หุ้นมีราคาแพงใกล้ถึงจุดสูงสุดของราคาหุ้น ถ้าเข้าซื้ออาจติดดอย
ถ้ามีค่าน้อยใกล้เคียง 0% หมายถึง หุ้นกำลังอยู่ในจุดต่ำสุด เหมาะสำหรับซื้อไว้รอจังหวะขึ้น
ยกตัวอย่างเช่น หุ้นสหรัฐฯหุ้น O ราคาสูงสุดรอบ 5 ปี 73.99 $ ราคาต่ำสุดรอบ 5 ปี 47.38 $ ราคาปัจจุบัน 56.36 $ แทนค่า
%HLPR = ((56.36 - 47.38)/(73.99 - 47.38)) × 100 = 33.74 %
ขั้นตอนที่ 2 กำหนดค่า % HLPR และจำนวนเงินซื้อหุ้นตามความต้องการของเรา ตัวอย่างเช่น เราจะกำหนดให้ค่า %HLPR เพิ่มขึ้น +25% เราจะใช้เงินซื้อหุ้นลดลง -10 $ สามารถเขียนได้ตามรูปกราฟ
หมายความว่า ถ้าหุ้นแพงซื้อน้อย ถ้าหุ้นถูกซื้อมากขึ้น
ขั้นตอนสุดท้าย นำทั้งสองค่าขั้นต้นมาหาความสัมพันธ์กันเพื่อหาค่าจำนวนเงินที่เราจะใช้ซื้อหุ้น โดยใช้วิธีเทียบบัญญัติไตรยางค์ ดังตัวอย่างดังนี้
หุ้น O มีค่า %HLPR 33.74 % ซึ่งใกล้เคียงกับค่า %HLPR ที่เรากำหนดที่ 25% โดยค่าทั้งสองแตกต่างกัน 33.74 - 25 = +8.74%
จากค่าที่เรากำหนด %HLPR เพิ่มขึ้น +25 % เราจะใช้เงินซื้อหุ้นลดลง -10$ แต่ถ้า %HLPR เพิ่มขึ้น +8.74% จะใช้เงินซื้อหุ้นลดลง =((-10)×8.74)/25 = -3.49$
ดังนั้น เราจะใช้เงินซื้อหุ้น O = 30 - 3.49 = 26.51$ (ค่า 30 มาจากจุด %HLPR 25 % ที่เราเปรียบเทียบตอนแรก)
จะเห็นได้ว่าด้วยวิธีการนี้เราก็จะสามารถกำหนดจำนวนเงินที่จะซื้อหุ้นได้อย่างแน่นอนชัดเจนเหมาะสำหรับประยุกต์ใช้ในการซื้อหุ้นเรื่อยๆในระยะยาว
- 2
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
