21 ก.ค. เวลา 02:23 • หนังสือ

Hunter with a Scalpel กรีด ล่า ฆ่า ตาย

!! Sponsored Review !!
#กรีดล่าฆ่าตาย จาก Shadow Publishing นิยายสืบสวนเกาหลีที่ถูกหยิบไปพัฒนาเป็นซีรีส์ในชื่อ Hunter with a Scalpel เล่าเรื่องราวของ "ซอเซฮยอน" แพทย์นิติเวชสาวผู้มีความสามารถโดดเด่นในการผ่าชันสูตร เธอมีชื่อเสียงโด่งดังจากการช่วยตำรวจไขคดียากๆหลายคดีให้คลี่คลายลงได้ แต่อุปนิสัยส่วนตัวนั้นกลับไม่น่าคบหาอย่างยิ่ง วันหนึ่งมีศพตายผิดธรรมชาติถูกส่งมาชันสูตร และเมื่อเซฮยอนเริ่มตรวจสอบศพ เธอก็รู้ทันทีว่าอดีตที่กลบฝังไว้กำลังกลับมาหลอกหลอนเธออีกครั้ง
เพราะลักษณะการสังหารและจัดการศพทำให้เธอนึกถึง "โจกยุน" พ่อแท้ๆที่เธอคิดว่าตายไปแล้ว ฆาตกรต่อเนื่องที่เคยออกล่าเหยื่อเมื่อ 20 ปีก่อน ในเมื่อตอนนี้เขาได้กลับมาลงมืออีกครั้ง เซฮยอนจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้พ่อถูกจับได้ ไม่ใช่เพราะความผูกพัน แต่เพราะเธอไม่ต้องการให้มีการขุดคุ้ยคดีเก่าขึ้นมา จะต้องไม่ให้ใครรู้ว่าเธอในตอนนั้นคือผู้สมรู้ร่วมคิดที่ช่วยทำลายศพ ไม่อย่างนั้นแล้วชีวิตใหม่ที่เธออุตส่าห์สร้างมาจะต้องพังทลายลงไม่มีชิ้นดี
เซฮยอนตั้งใจว่าเธอจะต้องตามหาตัวพ่อให้เจอก่อนตำรวจ และชิงฆ่าปิดปากเขาเสีย แต่เรื่องราวกลับไม่ง่ายอย่างนั้น เมื่อเธอต้องทำงานร่วมกับ "จองจองฮยอน" ตำรวจหนุ่มหัวหน้าทีมคดีอุกฉกรรจ์ ชายผู้มีความมุ่งมั่นในหน้าที่แต่กลับถูกคว่ำบาตรจากเพื่อนร่วมงาน มิตรภาพของพวกเขาค่อยๆก่อตัวขึ้นทีละน้อย ในขณะที่เงื้อมมือของโจกยุนก็ยื่นเข้ามาใกล้เซฮยอนมากขึ้นเรื่อยๆ
เป็นหนังสือที่พลิกตลบไปมาหลายรอบ หลอกซ้ำหลอกซ้อน แผนซ้อนแผนซ้อนแผนอีกที ไม่รู้เลยว่าอันไหนเรื่องจริง อันไหนเรื่องโกหก เพราะแม้กระทั่งเรื่องจริงบางเรื่องก็ยังเป็นความจริงที่ถูกบิดเบือนจากความทรงจำที่พร่าเลือนอีกที โอ๊ย! ความดันจะขึ้น 😆 อ่านแรกๆอาจจะเบื่อเล็กน้อยกับความซื่อๆเซื่องๆจนน่าขัดใจของจองฮยอน และท่าทีชวนอึดอัดของเซฮยอน แต่บทหลังๆคือสนุกมาก ลุ้นตามแทบทุกหน้า เข้มข้นยันหน้าสุดท้าย อ่านจบแล้วอยากดูซีรีส์ต่อเลย 5555
พวกเขาทุกคนควรได้เดินบนถนนที่มืดและมีฝนตกโดยไม่ต้องหวาดกลัว และกลับถึงบ้านอันอบอุ่นอย่างปลอดภัย
เนื้อหาในหนังสือเล่มนี้จะแสดงให้เราเห็นถึงอิทธิพลของประชาชน สื่อ รวมไปถึงอคติของผู้เกี่ยวข้องในกระบวนการยุติธรรมที่ล้วนส่งผลกระทบต่อรูปคดีในทางใดทางหนึ่ง ในมุมของประชาชนนั้น หากผู้คนไม่ให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่สืบสวน ไม่ยอมให้ตรวจค้น ไม่ยอมแจ้งเบาะแส หรือให้เบาะแสที่เป็นเท็จแค่เพราะอยากได้แสง การสืบสวนของเจ้าพนักงานก็จะหลงทางจนทำให้ไม่สามารถจับกุมคนร้ายได้ทันท่วงที เปิดโอกาสให้เกิดความสูญเสียครั้งต่อไปตามมาได้
ฟากสื่อนั้นเป็นที่รู้กันว่ามีพลังในการโน้มน้าวความคิดของผู้บริโภคอยู่แล้ว ดังนั้นการรายงานข่าวที่ไร้จรรยาบรรณและไม่มีความรับผิดชอบ อย่างการประโคมข่าวกล่าวร้าย ทำตัวเป็นศาลเตี้ยชี้นำสังคมว่าใครคือคนร้าย จึงย่อมส่งผลให้กระบวนการสืบสวนขาดความน่าเชื่อถือได้ เพราะพยานอาจไขว้เขวและเกิดการสร้างความทรงจำลวงเพื่อให้สอดคล้องกับสิ่งที่ตนได้ยินมาจากสื่อ เหมือนที่สังคมไทยเคยเจอมาไม่รู้กี่ครั้งแล้ว
แต่อะไรเลยจะร้ายแรงเท่าการปักธงในใจไว้ก่อนของผู้มีหน้าที่พิสูจน์ความจริง การที่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการสืบสวนเอาความคิดของตนเป็นที่ตั้งในการปฏิบัติงาน จะนำไปสู่การ "เลือก" หาพยานหลักฐานที่สอดคล้องกับความน่าจะเป็นที่ตนเชื่อเท่านั้น และเนื่องจากพวกเขาคือคนกลุ่มเดียวที่มีสิทธิ์ชี้ขาดว่าใครคือคนร้ายตัวจริง ดังนั้นหากพวกเขาตั้งใจบิดเบือนข้อเท็จจริงตรงนี้ไป ขาวก็สามารถกลายเป็นดำ และดำก็สามารถกลายเป็นขาวได้ทันที โดยที่จะไม่มีใครสามารถล่วงรู้ได้เลยว่าความจริงนั้นเป็นอย่างไรกันแน่
เจ้าพนักงานทุกคนจึงควรตระหนักไว้เสมอว่าภาระหน้าที่ของอาชีพตนนั้นคือการรักษาความสงบเรียบร้อยของสังคม ปกป้องประชาชนให้ปลอดภัย และลงโทษผู้กระทำผิด สิ่งนี้ย่อมมีความสำคัญมากกว่ารักษาหน้าตาของบุคคลหรือองค์กร สำคัญกว่าตำแหน่งที่เมื่อคุณเกษียณไปแล้วก็ไร้ความหมาย หากคำสรรเสริญของคุณมาจากการปฏิเสธความจริง และปล่อยให้คนที่คุณควรจะดูแลต้องอยู่กับความหวาดระแวงจนหลับตาไม่ลงในทุกคืน คุณกล้าจะเรียกสิ่งนั้นว่าเกียรติยศจริงหรือ?
มันเป็นเรื่องยากเหลือเกินที่จะยั้งมือตัวเองให้ไม่เขียนอะไรมากไปกว่านี้ เขียนๆลบๆไปก็หลายย่อหน้า เพราะไม่อยากจะสปอยล์เนื้อหาให้หมดสนุก แต่ใครชอบนิยายสืบสวนที่เข้มข้น กดดัน และคาดเดาได้ยาก เราว่าเล่มนี้ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ 😉 https://s.shopee.co.th/6KtbuLjda7
โฆษณา