📜 'ที่ปรึกษา' หรือแค่ 'คนขายสไลด์'?
🧐 ถอดรหัส 'Consultant ยุคใหม่' ที่องค์กรต้องการเมื่อ 'ผลลัพธ์' สำคัญกว่า 'กระบวนการที่สวยหรู'! 💥
🧩 “คุณเคยจ้างที่ปรึกษา…แล้วต้องมานั่งอธิบายงานให้เขาฟังไหม?”
หลายองค์กรเคยเจอเหตุการณ์แบบนี้
* จ่ายเงินหลายล้านให้ Consulting Firm ระดับโลก แต่สิ่งที่ได้กลับมา คือ Slide Deck หนา 200 หน้า ที่เต็มไปด้วยคำศัพท์สวยหรู เครื่องมือมาตรฐานระดับสากล และโมเดลที่ถูก 'แปะ' มาลงในองค์กรราวกับ Copy-Paste
* แต่เมื่อประชุมจบและ Consultant กลับออกไป สิ่งที่ทีมภายในถามกันคือ…
“เราจะเริ่มยังไงดี?”
“แล้วใครต้องทำ?”
“แผนนี้มันตอบโจทย์ของเราจริงหรือเปล่า?” เป็นต้น
สิ่งที่ควรเป็น ‘จุดเริ่มต้นของความเปลี่ยนแปลง’ กลับกลายเป็น ‘ภาระเพิ่มเติม’ ที่ทีมต้องหาทางแปลสไลด์ให้เข้าใจ และจัดประชุมใหม่ซ้ำอีกครั้ง… คราวนี้แบบไม่มี Consultant อยู่ด้วย
คำถามจึงไม่ใช่แค่ว่า “Consultant ยังจำเป็นไหม?” แต่คือ…
“Consultant แบบไหนที่องค์กรยังต้องการ?”
และที่สำคัญกว่านั้น…จะรู้ได้อย่างไรว่าคนตรงหน้าเราคือ ‘ที่ปรึกษา’ ที่พร้อมร่วมหัวจมท้าย หรือเป็นแค่ ‘คนขายเวลา’ ที่แต่งตัวดี มีสคริปต์พูดคล่อง แต่ลงมือไม่เป็น?”
====
📉 สาเหตุที่ทำให้ “Consulting Model แบบเดิม” เริ่มหมดมนต์ขลัง
1. “กระบวนการสวยหรู แต่ผลลัพธ์สวนทาง”
* PowerPoint อลังการ, Workshop มืออาชีพ — แต่ Impact ในธุรกิจกลับไม่มี หรือมีแต่ไม่ตรงเป้า
* สิ่งที่องค์กรต้องการคือ “ผลลัพธ์ที่จับต้องได้” ไม่ใช่แค่ “ความรู้สึกว่าทำอะไรสักอย่าง”
2. “ขาย Framework ของตัวเอง มากกว่าทางออกที่เหมาะกับลูกค้า”
* หลาย Consulting Firm เข้ามาพร้อมเครื่องมือเฉพาะทางที่ตนถนัด แต่ไม่ได้ถามว่า “จริงๆ แล้วองค์กรต้องการอะไร?”
* กลายเป็นว่าลูกค้าโดน Fit เข้า Framework แทนที่จะเลือกเครื่องมือที่ Fit กับองค์กร
3. “ขาย Manday ไม่ได้ขายผลลัพธ์”
* ยังมี Consultant จำนวนไม่น้อยที่ยังยึดติดกับ Business Model แบบคิดค่าชั่วโมง (Time & Material) โดยไม่ผูกกับ Outcome หรือ KPIs จริงขององค์กร
* ซึ่งสวนทางกับยุคที่ผู้บริหารต้องรับผิดชอบ ROI ทุกบาท
4. “ลูกค้าเข้าถึงองค์ความรู้ได้เอง”
* ในอดีต การเข้าถึง Insight ระดับโลกอาจต้องอาศัยที่ปรึกษา
* แต่วันนี้ผู้บริหารสามารถเรียนรู้จาก Thought Leader ผ่าน Podcast, LinkedIn, Medium, หรือแม้แต่ ChatGPT ได้อย่างง่ายดายและตรงประเด็น
5. “ภาษาที่พูดกันคนละโลก”
* ที่ปรึกษาหลายรายยังใช้ภาษาเชิงเทคนิค หรือคำศัพท์องค์กรตนเอง โดยลืมไปว่าการสื่อสารให้เข้าใจง่ายคือหัวใจสำคัญในการสร้าง Trust
* และถ้าทีมลูกค้าไม่เข้าใจ แปลว่า Consultant ยังไม่เข้าใจบริบทเช่นกัน
====
🧭 เมื่อที่ปรึกษาแบบเดิมเริ่มถูกปฏิเสธ?
📌 General Motors ยุติสัญญากับ consultants รายใหญ่ชื่อดังกลางคัน หลังพบว่า Framework ที่ติดตั้งไม่สามารถปรับใช้กับการผลิตจริงได้ และยังเพิ่มภาระให้หน้างานมากกว่าที่จะคลี่คลายปัญหา
อ้างอิง: Wall Street Journal, “GM Ends Contract with Bain Amid Strategy Shift,” 2018
📌 Spotify พัฒนาทีม Coach In-House แทนที่จะจ้าง External เพราะเชื่อว่าการสร้างทีมที่เข้าใจ DNA ขององค์กรจะช่วยให้เกิด Continuous Learning และ Iteration ได้จริง
อ้างอิง: Henrik Kniberg, “Scaling Agile @ Spotify,” Spotify Engineering Culture (Part 1), 2014
📌 Zappos ปฏิเสธการใช้ OD External Consultant หลังพบว่าหลายคำแนะนำขัดกับแนวคิด 'Customer Obsession' ที่เป็นหัวใจขององค์กร และเปลี่ยนมาใช้กลไก Leadership Circles ภายในแทน
อ้างอิง: Harvard Business Review, “Zappos and the Connection Between Structure and Culture,” 2015
“We didn’t need another deck. We needed someone who could roll up their sleeves.” – CEO, Global Retail Chain
“Consultants should make themselves obsolete.” – Clayton Christensen
ในสนามจริง ที่ปรึกษาที่อยู่ได้ = คนที่ “ยืนเคียงข้างทีม” ไม่ใช่แค่ “ยืนอยู่หน้าห้องประชุม”
====
📌 พิมพ์เขียวของ Consultant ยุคใหม่: จาก ‘คนรู้’ → สู่ ‘คนร่วมทำ’
1. ✅ Start from Business Outcome, not Methodology
ถามก่อนว่าองค์กรต้องการ “เห็นอะไรเปลี่ยนแปลง” แล้วค่อยคุยว่าต้องใช้เครื่องมืออะไร ไม่ใช่เปิดมาก็โชว์ Toolkit ที่ฝึกมาจากบริษัทแม่
2. 👥 Work WITH, not ON the Team
Pair ไปกับทีมจริง ลงไปอยู่ใน Daily Operation, Co-Design Solution ไปกับคนภายใน เพื่อให้เกิด Transfer ไม่ใช่แค่ Deliverable
3. 🧠 Respect Context Deeply
ศึกษาภารกิจ กลยุทธ์ ความขัดแย้ง วัฒนธรรม และความกลัวของทีม ไม่ใช่แค่แปลงองค์กรให้เป็น textbook case
4. 🎯 Work with the Right People and at the Right Time
ถ้า A-Team ไม่พร้อม Consultant ต้องกล้าปฏิเสธ เพราะการทำงานกับ “คนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจ” หรือ “ยังไม่พร้อม” อาจส่งผลเสียต่อชื่อเสียงระยะยาว
5. 🤝 Build Trust Before Tools
อย่าคิดว่าจะขายได้เพราะ Framework เก๋ๆ… คนที่องค์กรเชื่อใจ คือคนที่ยอมรับว่าบางเรื่อง “ไม่รู้ แต่พร้อมหาทางไปด้วยกัน” และให้เกียรติทีมในทุกจังหวะ
6. 🧪 Create Impact That Lasts
วัดผลสิ่งที่ทำออกมาเป็น Business Metrics ได้ เช่น ลด Time-to-Market ได้กี่วัน เพิ่ม Employee Retention ได้กี่เปอร์เซ็นต์ หรือช่วยให้ทีม Scale ได้กี่เท่าในปีถัดไป
====
✨ Consultant ที่ดี…ไม่ใช่แค่คนที่มีคำตอบ แต่คือคนที่ทำให้ลูกค้าหาคำตอบเองได้ในวันที่เขาไม่อยู่
ในยุคที่โลกวิ่งด้วยความเร็ว x10 สิ่งที่องค์กรต้องการไม่ใช่คนที่พูดดีหรือมี Template สวย แต่คือ
* คนที่พร้อม “นั่งลงกับทีม” ในวันที่ทุกอย่างยังสับสน
* คนที่ช่วยคลี่ทางเดิน ไม่ใช่แค่คลี่แผน
* คนที่เคารพทั้งตัวเลข และหัวใจขององค์กร
“คุณค่าของที่ปรึกษา…ไม่ได้อยู่ในความหนาของรายงาน แต่อยู่ใน ‘ความสามารถของลูกค้า’ ที่เพิ่มขึ้นหลังจากคุณเดินจากไปแล้ว”
#วันละเรื่องสองเรื่อง
#ConsultingThatWorks
#StrategicPartner
#BeyondTheFramework
#TrustBeforeTool
#ImpactOverImpression
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
