21 ก.ค. เวลา 23:40 • การตลาด

Marketing vs Production "Objective" สำคัญแค่ไหน?

“ยอดวิวพุ่งเป็นล้าน แต่ลูกค้าเงียบ…เราผิดตรงไหน?”
เพราะ Objective ไม่ได้อยู่แค่ในบรีฟ แต่มันคือ ‘หัวใจ’ ของงานทั้งระบบ ถ้าทำคอนเทนต์แล้วคนดูว้าว แต่ยอดขายไม่ขยับ
หรือโฆษณาสวยเหมือนหนัง แต่จบแค่นั้นคุณอาจไม่ได้เริ่มผิด
แค่คุณอาจลืมถามคำถามง่าย ๆ คำถามนี้ไป “เราทำสิ่งนี้ไปเพื่ออะไร?”
เบื้องหลังแคมเปญที่เวิร์ก = เบื้องหน้าของ Objective ที่ชัด
ในสาย Marketing และ Agency Production คำว่า Objective ไม่ใช่ศัพท์เทคนิค แต่มันคือ “จุดหมายของเรือทั้งลำ” ตั้งแต่ทีมขายไอเดีย> ทีมวางกลยุทธ์ > ทีมถ่ายทำ > ทีมตัดต่อ > ทีมโพสต์ เพราะถ้าไม่มี Objective ที่ชัด ทุกทีมจะทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่าดีแต่รวมกันแล้วอาจไม่ไปไหนเลย
แล้ว Objective คืออะไรแน่ ๆ?
• คือเป้าหมายเชิงวัดผลของแคมเปญ
• คือคำตอบว่า “เราจะวัดว่างานนี้สำเร็จยังไง”
• คือกรอบที่ใช้ตัดสินว่า “ไอเดียนี้เวิร์กหรือไม่เวิร์ก”
ไม่ว่าจะเป็น เพิ่ม Awareness ในกลุ่มเป้าหมาย, กระตุ้นยอดขายช่วงเทศกาล,วาง Positioning ใหม่ให้แบรนด์ , หรือทำให้คนเข้าใจ Core Value ของเราให้มากขึ้น
Objective ไม่ได้แค่กำหนดทิศทางของงาน แต่มัน “ควบคุมจังหวะของทุกทีมในสายการผลิต”
ในฝั่ง Marketing: Objective คือตัวตั้งต้นของทุกคำตอบ
ถ้าคุณทำแคมเปญโดยที่ไม่รู้ว่า Objective คืออะไร
คุณกำลังเดินอยู่ในป่าโดยไม่มีเข็มทิศ
ลองคิดแบบนี้:
• ถ้า Objective คือ Awareness > งานต้องน่าจดจำ แชร์ง่าย
• ถ้า Objective คือ Conversion > ทุกวินาทีต้องพาไปปิดการขาย
• ถ้า Objective คือ Loyalty > ต้องทำให้เขารู้สึกว่า “เราเข้าใจเขา”
Content ที่ดีอาจดึงดูดความสนใจได้…แต่ Content ที่ตรง Objective เท่านั้น ที่พาคนไปถึงการตัดสินใจ
และในฝั่ง Production: อย่าถ่ายให้สวยอย่างเดียว ถ้าไม่รู้จะสื่ออะไร ทีมโปรดักชันมักตกหลุมรักกับ “ภาพที่สวย” แต่ลืมว่า “เราถ่ายไปเพื่ออะไร”
• ฉากดราม่า…ควรทำให้คนร้องไห้หรือกดซื้อ?
• เสียงบรรยาย…ต้องปลุกอารมณ์ หรือสื่อสารให้เข้าใจ?
• Mood & Tone…ต้องเท่ หรือเข้าถึงง่าย?
ทุกการตัดสินใจเล็ก ๆ ล้วนเชื่อมโยงกับ Objective ที่วางไว้
แล้ว Objective ต่างจาก Goal ยังไง??
Goal คือความฝัน เช่น “อยากเป็นแบรนด์อันดับ 1 ในตลาด”
Objective คือแผนเดินฝัน เช่น “ในไตรมาสนี้ต้องเพิ่มยอดขาย 20% ด้วยแคมเปญนี้”
ยิ่งวาง Objective ชัดเท่าไหร่ ยิ่งรู้ว่าอะไร “ควรทำ” และอะไรแค่ “ดูดีแต่ไม่จำเป็น”
สูตรลับที่ทุกทีมควรใช้: SMART Objective ก่อนเริ่มทุกงาน ลองถามตัวเองว่า Objective นี้
• Specific – ชัดเจนพอไหม?
• Measurable – วัดผลได้จริงหรือเปล่า?
• Achievable – ไม่เวอร์จนเกินจริง?
• Relevant – เชื่อมโยงกับแบรนด์ไหม?
• Time-bound – มีกรอบเวลาชัดเจนไหม?
ยกตัวอย่าง:
❌ “อยากให้คนรู้จักแบรนด์มากขึ้น”
✅ “เพิ่มผู้ติดตาม IG จาก 5,000 เป็น 15,000 ภายใน 2 เดือน โดยใช้ Influencer Gen Z”
ไอเดียดี ≠ สำเร็จ ถ้าไม่ได้ตอบ Objective
เราเคยมีคลิปไวรัลเป็นล้านวิว…แต่ยอดขายไม่ขยับ
เราเคยเสนอไอเดียที่ทีมงานรักหมดใจแต่โดนลูกค้าปฏิเสธด้วยคำเดียว “แล้วมันตอบโจทย์ยังไงเหรอ?”
ไอเดียจะกลายเป็น “ความฝันลอย ๆ” ถ้าไม่มี Objective เป็นเชือกดึงลงพื้น
อย่าปล่อยให้ Objective เป็นแค่หัวข้อบนสไลด์ อย่าให้มันจางหายหลังจบบรีฟ
• ถ้าทำงานสาย Marketing แล้วไม่รู้ Objective → คือเสียโอกาส
• ถ้าอยู่ใน Production แล้วไม่ถามว่า “เราทำไปเพื่ออะไร” ก็อาจทำให้หลุดเป้า
• ถ้าเป็นลูกค้าแล้วไม่ชัดเจนกับ Objective → ทีมจะไปคนละทาง
Objective ที่ชัดเจน คือของขวัญชิ้นใหญ่ที่สุดที่ทุกทีมอยากได้ตั้งแต่เริ่มงาน
โฆษณา