1. เฉพาะคำว่าเสรีภาพ มีดีกรีค่ะ และเมื่อเราเติมคำขยายคำว่าเสรีภาพในการแสดงออกในด้านต่างๆ มันก็จะต้องมีดีกรีครอบไว้อยู่ดี จริงหรือเปล่าคะ? (วลีย้อนกลับนี้ เราติดปากประจำ) ซึ่งกับบางคนอาจรูัสึกหมั่นไส้ แต่กับบางคนบอกว่า มันเป็นสไตล์หรือจริต แต่นี่ก็เป็นเสรีภาพด้านทัศนะและความรู้สึกภายในใจของปัจเจกบุคคล ที่ว่ากันไม่ได้ สามารถคิดและรู้สึกได้เต็มที่ค่ะ แต่พึงตระหนักว่า เวลาคุณไม่ชอบจริตใคร ก็แค่อย่าไปยุง หรือสุงสิง หรือสนทนาพาทีกับเขาอีก ก็ง่ายๆ แค่นี้เองค่ะ
2. เสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น มีจริงค่ะ ทำได้จริง และควรต้องมี แต่หากคุณพยายามจะลากคนๆหนึ่ง ไปวิพากษ์วิจารณ์ต่อสาธารณะ หรือพรรคพรรคเดียวกันก็ตาม เพื่อความสะใจ หรือเพื่อปลดปล่อยสิ่งที่เก็บกดทางจิต มันย่อมแสดงออกถึง "การคุกคามเสรีภาพส่วนตัวของบุคคลอื่น" หรือก็คือ "การใช้บุคคลอื่น เป็นเหยื่อทางอารมณ์" หาไม่แล้วจะมีคำว่า "บันดาลโทสะ" และคำว่า "หมิ่นประมาท" มาเพื่อปกป้องเสรีภาพส่วนบุคคลได้อย่างไร หลักสากลทั่วโลก เขามีอยู่ทั่วทุกประเทศค่ะ
3. โลกยุคใหม่ ทำให้กลุ่มเรียกร้องเสรีภาพ ต้นทุนต่ำและกลัวตาย จำต้องเลิกลงถนน หันมาเป็นสิงห์คีย์บอร์ดซ่อนตัวตน ตามแพลตฟอร์มต่างๆ บ้างใช้แอคเคาน์และบทสนทนาที่ไม่ตรงกับเพศสภาพที่แท้จริงของตนเอง ซึ่งท้ายที่สุดก็มักจะหลุดคำผรุสวาทแสนหยาบคายใส่ผู้อื่น เข้าทำนอง "สำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล"
การเผลอเรอแสดงพฤติกรรมในลักษณะดังกล่าวออกมา ต้องระมัดระวังอย่างยิ่งค่ะ เพราะอาจจะได้รับบทเรียน "การถูกฟ้องร้องหมิ่นประมาท" ได้ค่ะ อย่าประมาทพลาดพลั้งบนโลกออนไลน์เป็นอันขาด
ดังนั้น ในทุกแพลตฟอร์มจึงจัดทำ
ฟังก์ชั่นการกดบล็อค หรือการกดแบน
หรือการกดปิดช่องคอมเม้นท์
"....ส่วนบุคคล...."
ให้กับสมาชิกในชุมชน เพื่อการปกป้องตนเอง
และมันก็คือสิทธิเสรีภาพส่วนบุคคลอย่างชัดเจน
ไม่จำต้องมีคำอธิบายใดให้มากความ
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
