23 ก.ค. เวลา 10:54 • ดนตรี เพลง

ออสซี่ ออสบอร์น

ออสซี่ ออสบอร์น เกิดเมื่อวันที่ 3 ธันวาคม ค.ศ. 1948 ณ เมืองแอสตัน เบอร์มิงแฮม สหราชอาณาจักร เป็นบุตรคนที่ 4 ในบรรดาทั้งหมด 6 คน
สมัยเรียน ออสบอร์นมีส่วนร่วมในละครของโรงเรียน อาทิ "The Midako" และ "HMS Pinafore" วันหนงเขาได้ยินเพลง She Loves You ของวง เดอะบีเทิลส์ เป็นจุดเริ่มต้นในการเป็นนักร้อง แม้จะมีอาการสมาธิสั้น และต้องออกจากโรงเรียนกลางคัน ทำให้ต้องหาเลี้ยงชีพทั้งงานโรงงาน
ปลายปี ค.ศ. 1967 กีเซอร์ บัตเลอร์ ตั้งวงดนตรีของเขาขึ้น "Rare Breed" ก่อนที่ภายหลังออสบอร์นจะได้รับเลือกให้มาเป็นนักร้อง วงพวกเขามีการแสดงเพียง 2 โชว์ จนสุดท้ายก็ต้องแตกหักในที่สุด ออสบอร์นและบัตเลอร์ ได้รวมตัวกันอีกครั้งในนาม Polka Tulk Blues พร้อมโดยมือกีตาร์ โทนี อิออมมี และ มือกลอง บิล วอร์ด ทั้งคู่เคยเป็นสมาชิกวง Mythology วงบลูส์จากอังกฤษ
แต่ท้ายสุดวงก็ต้องยุบตัวลงในภายหลัง พวกเขาเปลี่ยนชื่อวงเป็น Earth แต่เกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดฝัน พวกเขามีรายชื่อแสดงโชว์ แต่มีวงดนตรีหนึ่งที่ใช้ชื่อเหมือนพวกเขา ทำให้พวกเขาตัดสินใจที่จะเปลี่ยนชื่อวงอีกครั้ง พวกเขาตัดสินใจใช้ชื่อว่าแบล็กแซ็บบาธ ในสิงหาคม 1969, โดยนำมาจากชื่อภาพยนตร์เดียวกันนี้[17] ดนตรีของพวกเขาทำให้ผู้ฟังเกิดความตื่นตระหนกเนื่องจากยังไม่ได้รับความนิยมในขณะนั้น นำไปสู่แรงบันดาลใจที่ทำให้ทางวงตัดสินใจเล่นแนวเพลง เฮฟวี่ บลูส์ ที่มาด้วยดนตรีและเนื้อร้องอันมืดหม่น
ขณะอัดอัลบั้มชุดแรก บัตเลอร์ อ่านหนังสือเวทมนตร์และตื่นขึ้นมาพร้อมด้วยรูปซานต้าในหัวเตียงของเขา บัตเลอร์กล่าวกับออสบอร์นเกี่ยวกับเรื่องนี้จนพวกเขาได้แต่งเพลง "Black Sabbath" ในอัลบั้มชื่อเดียวกันนี้ เพลงแรกของพวกเขามีความมืดหม่นและชวนน่าติดตาม
อย่างไรก็ตามพวกเขาก็ตัดสินใจที่จะลองก้าวเป็นศิลปินจากค่ายเพลงอย่าง วอร์เนอร์ บราเธอร์ส
และพวกเขา แบล็กแซ็บบาธสร้างกลุ่มฐานแฟนเพลงอย่างรวดเร็วและคงทนถาวร ซาวด์กีตาร์ริฟที่ชวนให้คุณซึมซับถึงดนตรีพวกเขา - โทนี่ อิออมมี, เนื้อเพลงสุดมืดหม่นและน่าหลงไหลโดย - กีเซอร์ บัตเลอร์, บิล วอรด์ - มือกลองแห่งความมืดหม่น และท้ายสุด ออสบอร์น - เจ้าชายแห่งความมืดหม่น ในอัลบั้มชุดแรกของพวกเขาอย่าง "Black Sabbath" และ "Paranoid" มียอดวางขายอัลบั้มที่สูงอย่างมาก
อย่างไรก็ดีจากความโด่งดังของพวกเขาทำให้ได้ออกอากาศทางโทรทัศน์อยู่บ่อยครั้ง ออสบอร์นหวนนึกถึงวงด้วยความโศกเศร้า "วันเก่า ๆ ตอนนั้นพวกเรายังไม่ได้ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร เลยไม่ได้มีผู้หญิงรุมล้อม"
ในเวลาเดียวกัน ออสบอร์นได้รู้จัก ชารอน อาร์เดน ที่ภายหลังเป็นสามีภรรยาด้วยกัน หลังจากที่พวกเขาไม่คาดฝันว่าอัลบั้มชุดแรกจะประสบความสำเร็จ แบล็ธซับบาธได้นำพ่อตัวเอง ดอน อาร์เดน มาเป็นผู้จัดการวงพวกเขา และชารอนก็ได้ร่วมงานในเวลาเดียวกัน
ออสบอร์น ยอมรับว่าเขาโปรยเสน่ห์ใส่ชารอน อาร์เดน โดยออสบอร์นคิดว่า "ชารอนคิดว่าเขาเป็นบ้า"[11] ปีถัดมา ออสบอร์นกล่าวว่ามันเป็นสิ่งที่ดีที่พวกเขาเลือก ดอน อาร์เชนมาเป็นผู้จัดการเพื่อจะได้เห็นชารอนเป็นประจำ[11] ความสัมพันธ์ของพวกเขายังคงซับซ้อนในขณะนั้น
ห้าเดือนให้หลัง หลังการปล่อยอัลบั้มชุดที่สอง "Paranoid" พวกเขาก็ปล่อยอัลบั้มชุดที่สาม "Master Of Reality" อัลบั้มดังกล่าวติดอยู่ Top Ten ทั้งในสหรัฐอเมริกาและสหราชอาณาจักร และได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำในระหว่างสองเดือนแรกที่ปล่อยอัลบั้มดังกล่าว[21] ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980 พวกเขาได้รางวัลแผ่นเสียงทองคำขาว[21] และได้รางวัลดับเบิ้ลแพลตินัม เมื่อช่วงต้น คริสต์ศตวรรษที่ 21[21]
อัลบั้มดังกล่าวมีวิจารณ์ในแง่ลบ เลสเตอร์ แบง บรรณาธิการนิตรสารอันโด่งดังอย่าง โรลลิงสโตน วิจารณ์อัลบั้ม Master Of Reality ว่ายังขาดประสบการณ์ และมีลักษณะดนตรีที่เรียบง่ายไป และแนวเพลงที่ซ้ำกับตลาดมากจนเกินไป แต่ถึงกระนั้นนิตรสารเดียวกันนี้ก็ได้ให้อัลบั้มชุดดังกล่าวติดอยู่ในลำดับที่ 298 จาก 500 อัลบั้มยอดเยี่ยมตลอดกาล ในปี 2003
อัลบั้มชุดที่สี่ของพวกเขา "Vol. 4" ที่วางจำหน่ายเมื่อกันยายน 1972 แต่ผลวิจารณ์ก็ไปในเชิงลบเหมือนเดิม แต่ก็ยังได้รับอัลบั้มแผ่นเสียงทองขาว , พวกเขาเป็นหนึ่งในสี่วงที่มียอดขายติดต่อกันจนพุ่งทะยานสู่หนึ่งล้านก็อปปี้ในหสรัฐอเมริกา
โดยเฉพาะหลังอุบัติเหตุจากการขับรถควอดไบค์เมื่อปี 2003 ซึ่งถูกซ้ำเติมจากการพลัดตกที่บ้านในปี 2019 เขาจึงยุติการทัวร์คอนเสิร์ตในปี 2023 หลังเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังครั้งใหญ่
กระทั่งเสียชีวิตในตอนเช้าของวันที่ 22 กรกฏาคม ค.ศ. 2025 ในวัย 76 ปี หลังเพิ่งขึ้นเวทีครั้งสุดท้ายเมื่อวันที่ 5 กรกฎาคม ที่สนามวิลลาพาร์ก สนามเหย้าของสโมสรฟุตบอลแอสตัน วิลลา โดยมีสมาชิกดั้งเดิมของวง อาทิ โทนี่ ไอโอมมี, กีเซอร์ บัตเลอร์ และ บิล วอร์ด ร่วมเวทีในคอนเสิร์ตอำลา “Back to the Beginning”
โฆษณา