24 ก.ค. เวลา 02:51 • ความคิดเห็น
เมื่อผมไม่เข้าใจอะไร หรือไม่พอใจใคร ผมไม่ด่วนด่า ไม่ตัดสินใจเองครับ ผมเลือกที่จะฟังเหตุผลก่อนเสมอ โดยเฉพาะเหตุผลจากผู้ที่มีอำนาจ เพราะท่านย่อมมีข้อมูลมากกว่าเราเยอะ และรู้ดีว่าอะไรเหมาะสมที่เราควรรับรู้ และอะไรที่ควรเก็บไว้เป็นความลับเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง
1
แน่นอนครับ ถ้ามีอะไรสงสัย ผมจะเก็บไว้ก่อน ไม่ถามทันที เพราะการตั้งคำถามอาจก่อความไม่สงบ หรือหนักหน่อยก็อาจเข้าข่ายละเมิดกฎหมายความมั่นคง ซึ่งในยุคนี้ แม้แต่คำถามธรรมดาๆ ก็อาจกลายเป็นภัยคุกคามได้ ถ้าถูกถามผิดเวลา ผิดสถานที่ หรือผิดคน ผมจึงเลือกวิธีที่ปลอดภัยที่สุด คือรอให้ทุกอย่างสงบก่อน แล้วค่อยทบทวน
อย่างเช่น วันหนึ่งผมอาจโดนหมากัดขณะเดินผ่านหน้าบ้านใครสักคน ผมจะไม่ด่าหมาแน่นอนครับ เพราะต้องเข้าใจว่า หมาย่อมมีเหตุผลของมัน ที่ผมอาจไม่รู้ ผมอาจเดินเสียงดังเกินไป หรือลมหายใจผมอาจมีกลิ่นที่ไม่เป็นมิตรกับอำนาจของมัน ดังนั้น ผมจะถือว่าเป็นโอกาสดีให้กลับมาทบทวนตัวเอง ไม่รีบโวยวาย ไม่ถามว่า “ทำไมหมากัดผม” เพราะนั่นอาจกระทบต่อความรู้สึกของเจ้าของหมา หรือหมาเอง
4
เช่นเดียวกับเหตุการณ์ที่อาจโดนต่อยกลางถนนโดยไม่ทราบสาเหตุ ผมก็จะไม่โกรธ ไม่ตัดสินว่าใครผิดใครถูกในทันที เพราะคนที่ต่อยผมอาจมีข้อมูลบางอย่างที่ผมไม่รู้ เช่น ผมอาจไปเดินผิดจังหวะ ผิดองศา หรือไม่แสดงความเคารพต่อสถานที่ให้มากพอ บางทีผมอาจไม่ได้ทำความเคารพรูปปั้นที่อยู่ไกลลิบในบริเวณนั้น ผมต้องเข้าใจว่าความไม่รู้ของผมไม่ใช่ข้ออ้าง และคนที่ลงไม้ลงมือก็อาจทำไปด้วยเจตนาดี เพียงเพื่อสั่งสอนพลเมืองให้รู้หน้าที่
3
ผมจึงมองว่า การฟังเหตุผลสำคัญมากครับ ยิ่งเป็นเหตุผลจากรัฐ หรือผู้มีเครื่องแบบ ยิ่งต้องเชื่อไว้ก่อน เพราะถ้ามีข้อเท็จจริงใดๆ ที่ควรทราบ เขาย่อมจะบอกเราเองเมื่อถึงเวลา เราในฐานะประชาชนที่ดี ควรรออย่างอดทน และควรพึงพอใจกับความจริงเท่าที่เราได้รับ การไปไขว่คว้าหาความจริงที่รัฐยังไม่เปิดเผยนั้น อาจทำให้เรากลายเป็นปัญหาต่อความสงบเรียบร้อยของสังคม
3
และหากวันหนึ่งผมไปร่วมกิจกรรมบางอย่างแล้วถูกกระทืบกลางม็อบ ผมก็จะไม่คิดว่าตัวเองโดนละเมิดสิทธิเสรีภาพ ผมจะกลับมาทบทวนว่า ผมอาจยืนผิดตำแหน่ง พูดผิดคำ หรือกะพริบตาผิดจังหวะ จนไปกระทบต่อความมั่นคงโดยไม่ได้ตั้งใจ มันไม่ใช่ความผิดของผู้กระทำหรอกครับ บางทีมันเป็นเพียงการอบรมอย่างเข้มข้นเพื่อปรับทัศนคติ ซึ่งผมก็ควรขอบคุณที่เขายังให้โอกาสในการพัฒนา
3
ดังนั้น ผมยึดหลักง่ายๆครับ “เจ็บก่อน เข้าใจทีหลัง เชื่อไว้ก่อน ถามทีหลัง” เพราะสังคมที่สงบสุขไม่ใช่สังคมที่ทุกคนตั้งคำถาม แต่คือสังคมที่ทุกคนเชื่อฟังอย่างพร้อมเพรียง และรู้จักอดทนต่อความไม่เข้าใจ จนกว่าใครบางคนจะบอกว่าเราเข้าใจได้แล้ว
3
โฆษณา