Blockdit Logo
Blockdit Logo (Mobile)
สำรวจ
ลงทุน
คำถาม
เข้าสู่ระบบ
มีบัญชีอยู่แล้ว?
เข้าสู่ระบบ
หรือ
ลงทะเบียน
เล่าก่อนจะลืม Before we forget
•
ติดตาม
24 ก.ค. เวลา 03:40 • ประวัติศาสตร์
คายอ้อ คืออะไร?บันทึกความทรงจำของเด็กอิสาน
มันให้บ่ได้ดอก เจ้าเป็นแม่ญิง
คุณตากล่าวเมื่อดิฉันเอ่ยขอ"อ้อป่อง"
ช่วงนี้เห็นหลายคนพูดถึงหนังเรื่อง 'คายอ้อ' กันเยอะมาก ทำให้ฉันหวนนึกถึงเรื่องราวของคุณตา และความทรงจำในวัยเด็กเกี่ยวกับ 'อ้อ' ที่มันฝังใจฉันมาตลอด...
มันคือเรื่องราวของความเชื่อ ความลับ และคำพูดสั้นๆ ของคุณตาที่ว่า 'เจ้าเป็นแม่หญิง ให้บ่ได้ดอก' ซึ่งได้เปลี่ยนมุมมองชีวิตของฉันไปตลอดกาล วันนี้จึงอยากจะขอบันทึกเรื่องราวนี้ไว้...ก่อนที่มันจะลืมเลือนไปกับกาลเวลา"
ดิฉันเกิดและเติบโตในบ้านที่อบอวลไปด้วยกลิ่นของว่านยาและสมุนไพร ภาพจำของคุณตาไม่ใช่ภาพของหมอลำหนุ่มไฟแรงผู้โด่งดังบนเวทีอย่างที่คนเฒ่าคนแก่เคยเล่าขาน แต่เป็นภาพของชายชราผู้มีแววตาเปี่ยมเมตตา แต่ก็แฝงไว้ด้วยความน่าเกรงขาม ท่านเป็นหมอยาแผนโบราณ เป็นที่พึ่งของชาวบ้านยามเจ็บไข้ได้ป่วย บ้านของเราจึงไม่เคยว่างเว้นจากแขกเหรื่อ โดยเฉพาะเพื่อนหมอยาจากต่างถิ่นที่แวะเวียนมาเพื่อ “แลกเปลี่ยนความรู้” กันอยู่เสมอ
คำว่า“อ้อ”มักได้ยินคนเฒ่าคนแก่พูดถึงกันเสมอในหมู่บ้าน “อ้อ” ในที่นี้ คือเคล็ดวิชา คาถาอาคมที่สืบทอดกันมาปากต่อปาก เป็นความรู้ที่ไม่ถูกจารึกไว้ในตำราใดๆ แต่ฝังลึกอยู่ในความทรงจำของผู้เป็นครูและศิษย์ที่ถูกเลือกเท่านั้น
แม้จะคุ้นชินกับคำว่า “อ้อ” แต่ดิฉันไม่เคยเข้าใจความลึกซึ้งของมันอย่างแท้จริง จนกระทั่งวันหนึ่งที่ภาพความเชื่ออันเป็นนามธรรมได้ปรากฏเป็นรูปธรรมขึ้นตรงหน้า...
วันนั้น พี่ชายข้างบ้านซึ่งเพิ่งบวชเป็นสามเณรใหม่ ได้เดินทางมาที่บ้านของเราพร้อมกับพ่อแม่ของท่าน ภาพของเณรน้อยในจีวรสีเหลืองอร่ามที่ประคองพานขันธ์ 5 อย่างนอบน้อมมายังเบื้องหน้าของคุณตา ยังคงติดตรึงอยู่ในความทรงจำ พ่อแม่ของเณรเอ่ยปากด้วยความเคารพว่า อยากจะพาลูกชายมา “ขออ้อป่อง” จากคุณตา
"อ้อป่อง” เป็นเคล็ดวิชาที่เชื่อว่าจะช่วยให้มีสติปัญญาหลักแหลม เรียนหนังสือเก่ง มีความจำดีเลิศ เป็นที่ปรารถนาของผู้ที่ต้องการศึกษาเล่าเรียนในสมัยก่อน
คุณตารับขันธ์ 5 มาแล้วพึมพำมนต์คาถาภาษาโบราณที่ดิฉันฟังไม่เข้าใจ ก่อนจะเป่าลมลงบนกระหม่อมของเณรรูปนั้นเบาๆ ภาพตรงหน้าแม้จะเรียบง่าย แต่กลับแฝงไปด้วยพลังแห่งศรัทธาอันแรงกล้า มันคือพิธีกรรม “ยกอ้อ ยอคาย” ในรูปแบบที่เรียบง่ายที่สุด เป็นการมอบเคล็ดวิชา (อ้อ) โดยมีเครื่องบูชา (คาย) เป็นสื่อกลาง
จากข้อมูลทางคติชนวิทยา พิธีกรรม “ยกอ้อ ยอคาย” หรือที่เรียกสั้นๆ ว่า “คายอ้อ” ถือเป็นพิธีไหว้ครูที่สำคัญอย่างยิ่งในวัฒนธรรมอีสาน โดยเฉพาะในแวดวงศิลปินแขนงต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นหมอลำ หมอแคน ช่างทำเครื่องดนตรี หรือแม้แต่หมอยาและผู้มีวิชาอาคม คำว่า “คาย” หมายถึงเครื่องสักการะบูชา ส่วน “อ้อ” หมายถึงครูบาอาจารย์หรือตัวเคล็ดวิชา การ “คายอ้อ” จึงเป็นการแสดงความกตัญญูต่อครูผู้ประสิทธิ์ประสาทวิชา และเป็นการยอมรับในกฎข้อบังคับหรือ “คะลำ” ของสายวิชานั้นๆ
การยอมรับ “อ้อ” เข้ามาในตัว ไม่ใช่เป็นเพียงการรับเอาความรู้ แต่เป็นการรับเอาพันธสัญญาที่มองไม่เห็นเข้ามาด้วย ผู้ที่ผ่านพิธีคายอ้อแล้วจะต้องปฏิบัติตนอยู่ในศีลในธรรมและยึดถือข้อ “คะลำ” อย่างเคร่งครัด ซึ่งอาจแตกต่างกันไปในแต่ละสายวิชา เช่น ห้ามผิดลูกผิดเมียผู้อื่น ห้ามลอดราวตากผ้า ห้ามกินอาหารบางชนิด หรือห้ามแสดงกิริยาโอหังลบหลู่ครูบาอาจารย์
มีเรื่องเล่ามากมายในสังคมอีสานเกี่ยวกับอาถรรพ์ของการ “ผิดคาย” หรือ “ผิดอ้อ” ศิลปินบางคนทำการแสดงผิดพลาดอย่างไม่น่าเชื่อ บางคนเจ็บป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ หรือบางรายถึงกับมีสติวิปลาส เล่ากันว่าสิ่งเหล่านี้คือบทลงโทษจากครูบาอาจารย์ที่มองไม่เห็น เป็นเครื่องย้ำเตือนถึงความศักดิ์สิทธิ์ของวิชาที่ตนได้ร่ำเรียนมา
วินาทีที่ได้เห็นพิธีกรรมในวันนั้น หัวใจของเด็กหญิงตัวเล็กๆ ก็พองโตด้วยความปรารถนา ดิฉันรู้ทันทีว่านี่คือ “ของดี” คือทางลัดสู่ความเป็นเลิศที่ฉันอยากได้มาครอบครองบ้าง หลังสิ้นสุดพิธี ดิฉันจึงรบเร้าขอ “อ้อป่อง” จากคุณตาด้วยความหวังเต็มเปี่ยม
แต่คำตอบที่ได้รับกลับดับฝันของดิฉันจนมืดสนิท...
“มันให้บ่ได้ดอก...เจ้าเป็นแม่หญิง”
คุณตาเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่งแต่เด็ดขาด คำ
พูดสั้นๆ เพียงประโยคเดียวได้ขีดเส้นแบ่งที่มองไม่เห็นขึ้นมาทันที มันคือเส้นแบ่งทางเพศสภาพที่ปิดกั้นดิฉันออกจากโลกแห่งเคล็ดวิชาและความลับของคุณตา
ในสังคมโบราณ มีความเชื่อว่าวิชาอาคมบางแขนงนั้นเป็น “ของร้อน” ไม่เหมาะกับผู้หญิงซึ่งมี “ธาตุเย็น” หรืออาจเกี่ยวข้องกับเรื่องข้อห้ามต่างๆ ที่ผู้หญิงอาจปฏิบัติได้ไม่สะดวกนัก
ดิฉันไม่เคยได้รับ “อ้อ” ใดๆ จากคุณตาเลยนับตั้งแต่วันนั้น...
ความผิดหวังในวันนั้น กลายเป็นแรงผลักดันให้ดิฉันต้องพิสูจน์ตัวเอง ในเมื่อไม่มีทางลัด สิ่งเดียวที่ทำได้คือความมุมานะพากเพียร ดิฉันตั้งใจเล่าเรียนอย่างหนัก และน่าแปลกที่ผลการเรียนของดิฉันมักจะอยู่ในอันดับต้นๆ ของชั้นเรียนเสมอมา
เมื่อเติบใหญ่และมองย้อนกลับไป ดิฉันจึงเริ่มตั้งคำถามกับตัวเอง...หรือแท้จริงแล้ว “อ้อ” ที่ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด อาจไม่ใช่คาถาอาคมหรือมนต์วิเศษใดๆ
"อ้อ” ที่เณรรูปนั้นได้รับ อาจเป็น “ความเชื่อมั่น” และ “กำลังใจ” ที่ผลักดันให้ท่านมุ่งมั่นในการศึกษาจนประสบความสำเร็จ
และ “อ้อ” ที่ดิฉันได้รับจากคุณตา อาจไม่ใช่การเป่ามนต์ลงบนกระหม่อม แต่คือ “คำปฏิเสธ” ในวันนั้น...คำปฏิเสธที่กลายเป็นพลังผลักดันให้ดิฉันต้องขวนขวายและสร้างเส้นทางของตัวเองขึ้นมาโดยไม่ต้องพึ่งพาทางลัดใดๆ
ทุกวันนี้ คุณตาได้จากไปแล้วพร้อมกับเคล็ดวิชาและ “อ้อ” อีกมากมายที่ไม่มีใครได้สืบทอดต่อ เรื่องราวของ “คายอ้อ” และความเชื่อเหล่านี้กำลังค่อยๆ เลือนหายไปกับกาลเวลา แต่สำหรับดิฉัน มันยังคงเป็นบันทึกความทรงจำที่ตราตรึงและ อยู่ในใจเสมอมา...เป็นความลับศักดิ์สิทธิ์ของคุณตา ที่ดิฉันไม่มีวันรู้คำตอบอย่างแท้จริง.
1 บันทึก
1
1
1
1
1
โฆษณา
ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
© 2025 Blockdit
เกี่ยวกับ
ช่วยเหลือ
คำถามที่พบบ่อย
นโยบายการโฆษณาและบูสต์โพสต์
นโยบายความเป็นส่วนตัว
แนวทางการใช้แบรนด์ Blockdit
Blockdit เพื่อธุรกิจ
ไทย