ส่องมุมมองสื่อต่างชาติ กรณีเหตุปะทะไทย-กัมพูชา
เกริ่นนำ
1. นับตั้งแต่วินาทีที่เริ่มการปะทะรุนแรง สื่อทั้งในไทย และในกัมพูชา ต่างพากันนำเสนอข่าวถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้น แต่ถึงแม้จะอยู่ในสถานการณ์เดียวกัน ที่มีความรุนแรงเหมือนกัน แต่การรายงานข่าวนั้นกลับต่างกันโดยสิ้นเชิง
2. สื่อกัมพูชาหลายสำนัก รวมถึงนักการเมืองผู้มีบทบาทต่อประเทศหลายคน ต่างพากันนำเสนอข่าวไปในทิศทางเดียวกัน คือบอกว่ากัมพูชาเป็นฝ่ายได้เปรียบ กัมพูชายิงเครื่องบิน F16 ของไทยร่วง และไทยเป็นฝ่ายเริ่มความรุนแรงก่อน
3. ตรงข้ามกับสื่อไทย ที่รายงานสถานการณ์ทำนองว่า กัมพูชาเป็นฝ่ายเริ่มก่อน กัมพูชายิงจรวดเข้าใส่บ้านเรือนประชาชน ร้านสะดวกซื้อ ไปจนถึงโรงพยายาล จนทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ และเสียชีวิต
4. อย่างไรก็ตาม ถ้าว่ากันตามตรง การนำเสนอข่าวลักษณะนี้ คือเรื่องที่พบเห็นได้บ่อยในกรณีที่สองประเทศเกิดการปะทะกัน มันคือรูปแบบหนึ่งของสงครามข่าวสารที่ต้องการสื่อไปยังประชาชนในประเทศ และนานาประเทศที่จับตามอง
5. สุดท้ายมันก็ขึ้นอยู่กับว่า ประเทศไหนมีหลักฐานมาอ้างอิงมากกว่ากัน และนานาประเทศจะเลือกเชื่อข่าวสารจากประเทศไหนก็แค่นั้น
สื่อหลักต่างประเทศ
6. ณ ตอนนี้มีสื่อต่างประเทศหลายสำนักพากันให้ความสนใจกับเหตุการณ์นี้ เท่าที่ผมเปิดอ่านมา ไม่ว่าจะเป็น BBC , CNN , Aljazeera , Reuters , Japantimes และอื่น ๆ อีกมากมาย
7. ต่างพากันนำเสนอไปในทิศทางเดียวกัน คืออ้างอิงจากสื่อไทยเป็นหลัก แทบไม่มีสื่อไหนอ้างอิงเหตุการณ์จากสื่อในกัมพูชา หรือภาพ และคลิปที่ถูกเผยแพร่โดยนักการเมืองกัมพูชาเลยสักนิด
อย่างเช่นข้อมูลจากสื่อในกัมพูชาที่อ้างว่า กองทัพควบคุมปราสาทตาควายได้แล้ว หรือยิงเครื่องบิน F16 ของไทยตกแล้ว สื่อต่างประเทศให้น้ำหนักไปทางเดียวกันว่า ไม่มีมูลความจริง
8. สื่อต่างประเทศหลายสำนักระบุว่า ชนวนความขัดแย้งเริ่มขึ้นเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และมันทวีความตึงเครียดมากยิ่งขึ้น เมื่อทหารไทย 2 รายเหยียบใส่กับระเบิดที่ทหารกัมพูชาแอบมาติดตั้งไว้
9. เมื่อความอดทนของไทยหมดลง และขับทูตของกัมพูชาออกจากประเทศเมื่อวันที่ 23 กรกฎาคม 2025 ในเช้าวันถัดมา หรือก็คือวันที่ 24 กรกฎาคม 2025 กัมพูชาก็ได้เปิดฉากยิงอาวุธหนักใส่ดินแดนไทยทันที และความรุนแรงก็บานปลายขึ้น
10. ในขณะที่ไทยมีรายงานความเสียหายออกมาเป็นระยะ ทั้งความเสียหายเกี่ยวกับชีวิตประชาชน ชีวิตทหาร ไปจนถึงอาคารต่าง ๆ เช่นโรงพยาบาล และโรงเรียน
11. แต่ฝั่งกัมพูชากลับมีแต่ข้อมูลทำนองว่า ผู้นำประเทศกล่าวหาว่าไทยเป็นฝ่ายเริ่มก่อน และต้องการเรียกประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติอย่างเร่งด่วน เพื่อให้ไทยหยุดการกระทำนี้ ไม่มีรายงานเรื่องความเสียหายภายในประเทศเลยสักนิด
12. นักวิเคราะห์ต่างชาติหลายคนมองว่า สิ่งที่กัมพูชาทำอยู่ คือสร้างสถานการณ์สงครามเพื่อปลุกกระแสชาตินิยม เพื่อดึงคะแนนความนิยมของ ฮุน มาเนต ลูกชายของ ฮุน เซน ที่ตอนนี้นั่งตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศ ต่อจากพ่อของเขา
สรุปคือ ตอนนี้สื่อต่างชาติหลายสำนักมองไปทิศทางเดียวกัน ว่าสิ่งที่เกิดขึ้นคือเกมการเมืองของกัมพูชา ที่ต้องการปลุกกระแสชาตินิยมเพื่อคะแนนเสียงของผู้นำประเทศ
ประเด็นนี้น่าจับตามองว่า หลังจากที่ตัวแทนสองประเทศยื่นเรื่องถึง UN แล้ว สิ่งที่ตามมาจะเป็นอย่างไร และผลกระทบด้านความสัมพันธ์หลังจากนี้จะแย่ลงแค่ไหน
ก็คงต้องติดตามกันต่อไปนะครับ
อ้างอิง
- 93
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
