27 ก.ค. เวลา 09:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

ผลสำรวจตลาดคาร์บอนฯ ปี 68 เร่งสร้างแพลตฟอร์มซื้อขายโปร่งใส

ผลสำรวจตลาดคาร์บอนฯ ปี 68 ชี้ เอกชน เริ่มตื่นตัวต่อโอกาสทางธุรกิจ เร่งสร้างแพลตฟอร์มซื้อขายโปร่งใส
ดร.ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. (TGO) เปิดเผยว่า ผลสำรวจตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจประเทศไทย ปี 2568 : The 2025 Thailand’s Voluntary Carbon Market Outlook” พบว่า ไทย อยู่ในระยะเริ่มต้นของการพัฒนานโยบายด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และตลาดคาร์บอน โดยผลการสำรวจสะท้อนว่า ภาคเอกชนไทยเริ่มตื่นตัวต่อโอกาสทางธุรกิจจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ดร.ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. (TGO)
แต่ยังมีความกังวลต่อความเสี่ยงจากการเปลี่ยนผ่าน และขาดความเข้าใจในผลกระทบทางกายภาพ ขณะเดียวกัน หลายองค์กรยังต้องการเวลาในการเตรียมความพร้อมต่อข้อกำหนดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งชี้ให้เห็นถึงความจำเป็นในการพัฒนาเครื่องมือและสร้างความรู้พื้นฐาน
สำหรับความสนใจในตลาดคาร์บอนเครดิตกำลังขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มองค์กรที่ต้องการเตรียมความพร้อมตามนโยบายภาครัฐและเป้าหมายองค์กร แต่ตลาดยังมีความไม่แน่นอน ทั้งด้านพฤติกรรมการซื้อขาย ราคาคาร์บอน และมาตรฐานที่เลือกใช้ ซึ่งสะท้อนข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง อาทิ ความรู้ที่ถูกต้อง งบประมาณจำกัด และการขาดระบบราคาที่น่าเชื่อถือ
สำหรับด้านอุปทาน แม้มีการพัฒนาโครงการภายใต้มาตรฐาน T-VER อย่างต่อเนื่อง แต่ปริมาณการยกเลิกคาร์บอนเครดิตยังอยู่ในระดับต่ำ สะท้อนภาวะอุปทานล้นตลาดและกลไกตลาดที่ไม่สมดุล แนวทางแก้ไขที่เสนอ คือ การยกระดับมาตรฐาน T-VER ให้ได้รับการยอมรับในระดับสากล การจัดตั้งแพลตฟอร์มซื้อขายที่โปร่งใส และการสนับสนุนด้านการเงินและองค์ความรู้
ทั้งนี้ โดยสรุปตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจของไทยมีแนวโน้มเติบโตแต่ยังเผชิญข้อจำกัดหลายด้าน ได้แก่ ความไม่ชัดเจนของกรอบนโยบายและกฎหมาย ความขาดแคลนทรัพยากรและงบประมาณ ความรู้ความเข้าใจในตลาดที่ยังจำกัดในกลุ่มผู้เล่นใหม่ และปัญหาในการเข้าถึงตลาดอย่างมีประสิทธิภาพ หากขจัดข้อจำกัดเหล่านี้ได้จะเป็นกุญแจสำคัญในการส่งเสริมการเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืนของตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจประเทศไทยในอนาคต
ซึ่งการส่งเสริมให้ตลาดคาร์บอนภาคสมัครใจประเทศไทยเติบโตอย่างมีประสิทธิภาพจำเป็นต้องดำเนินการเชิงระบบในหลายมิติ ทั้งการพัฒนาเครื่องมือทางการเงิน เทคโนโลยี และกลไกเชิงระบบที่เอื้อต่อการพัฒนาตลาดคาร์บอน เช่น การจัดตั้งกองทุนสนับสนุน และการลงทุนในระบบนิเวศของเทคโนโลยีคาร์บอนต่ำ ไม่เพียงแค่เร่งออกกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
แต่รวมถึงการสร้างแรงจูงใจทางเศรษฐกิจเพื่อมีเป้าหมายให้ภาคเอกชนลงทุนในดำเนินงานด้านคาร์บอนเครดิต การผลักดันมาตรฐานสู่ระดับสากลเพื่อให้ตลาดกว้างขวางขึ้น และการพัฒนาตลาดให้เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น เพื่อวางรากฐานให้ตลาดคาร์บอนของไทยสามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืนและสามารถแข่งขันได้ในระดับสากลต่อไป
หลายองค์กรส่วนใหญ่ 70% ยังต้องการเวลาในการเตรียมความพร้อมต่อข้อกำหนดใหม่ที่กำลังจะเกิดขึ้นทั้งกฎระเบียบในประเทศ ซึ่งไทยกำลังยกร่างพระราชบัญญัติส่งเสริมการลดก๊าซเรือนกระจก และคาร์บอนเครดิต และกฏระเบียบในต่างประเทศ ซึ่งตลาดยังมีความไม่แน่นอน ทั้งด้านพฤติกรรมการซื้อขาย / ราคาคาร์บอน / และมาตรฐานที่เลือกใช้ สะท้อนข้อจำกัดเชิงโครงสร้าง ทั้งขาดความรู้ที่ถูกต้อง / งบประมาณจำกัด / และการขาดระบบราคาที่น่าเชื่อถือ
ดร.ณัฐริกา กล่าวด้วยว่า ในส่วนของงบประมาณสนับสนุนตลาดคาร์บอนมีความสำคัญมากเช่นกัน หากมีงบประมาณสนับสนุนไม่เพียงพอจะทำให้เป็นข้อจำกัดของการดำเนินงานทุกส่วน โดยอยากให้เพิ่มใน 3 ส่วน คือ 1.งบประมาณสนับสนุน 2. เทคโนโลยี 3. ความรู้ความเข้าใจ โดยเน้นพัฒนาศักยภาพในเชิงบุคลากร
ในการเดินหน้าเล็กๆน่าจะต้องการการสนับสนุนเชิงงบประมาณค่อนข้างเยอะพอสมควร เราก็ต้องเรียกว่าพาร์ทเนอร์กับภาคส่วนที่เกี่ยวข้องเพื่อที่จะสามารถช่วยได้ แต่ขณะเดียวกัน สร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องอันนี้สำคัญที่สุด เพราะผู้ที่ไม่รู้ ก็จะกลายเป็นเหยื่อของผู้ที่ต้องการหลอกลวง แล้วเอาความไม่รู้มาหลอกลวงว่านั้นก็คาร์บอนเครดิต นี่ก็คาร์บอนเครดิต อันนี้ก็จะอันตรายและสูญเสียทางเศรษฐกิจเป็นอย่างยิ่ง
ดร.ณัฐริกา วายุภาพ นิติพน รองผู้อำนวยการองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก (องค์การมหาชน) หรือ อบก. (TGO)
นอกจากนี้ ภายในงาน ยังมีการเปิดตัวแพลตฟอร์มการซื้อขายคาร์บอนเครดิต “TGO Showroom” ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการซื้อขายในรูปแบบ Carbon Credit Marketplace ที่สะดวก รวดเร็ว และรองรับระบบการชำระเงินหลากหลายรูปแบบ และการเจรจาจับคู่ธุรกิจซื้อขายคาร์บอนเครดิต ถือเป็นการส่งเสริมและสนับสนุนให้เกิดซื้อขายคาร์บอนเครดิตภาคสมัครใจมากขึ้น
การซื้อขายคาร์บอนเครดิตผ่าน TGO Showroom สามารถทำได้โดยเจ้าของคาร์บอนเครดิตทำธุรกรรมถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตจากบัญชีในระบบทะเบียนคาร์บอนเครดิตของตนเอง ไปยัง TGO Showroom ซึ่งสามารถเลือกโครงการ Vintage Year ปริมาณที่ต้องการโอน และระบุราคาที่ต้องการขายได้
จากนั้นเมื่อนายทะเบียนอนุมัติธุรกรรมดังกล่าวแล้ว ข้อมูลนั้นจะไปปรากฏในหน้า TGO Showroom โดยผู้ซื้อสามารถเข้ามาเลือกซื้อคาร์บอนเครดิตจากโครงการต่าง ๆ ได้ตามความต้องการ เมื่อผู้ซื้อมีการเลือกคาร์บอนเครดิตที่ต้องการจะซื้อลงตะกร้าเรียบร้อยแล้ว ก็สามารถกดชำระเงินได้เลย
ซึ่งจะรองรับการชำระเงินทั้งรูปแบบ QR/Barcode Payment และบัตรเครดิต เมื่อชำระเงินเรียบร้อยแล้วข้อมูลการทำธุรกรรมเพื่อถ่ายโอนคาร์บอนเครดิตไปยังบัญชีของผู้ซื้อ ก็จะถูกส่งไปยังระบบทะเบียนคาร์บอนเครดิตโดยอัตโนมัติ หรือหากผู้ซื้อไม่มีบัญชีในระบบ
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ :
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา