Inner Talent
"ตัวจบ mindset (+Action) ดั่งลายแทงในการ dev ให้เป็นคนเก่งแบบไร้ context"
เมธวิน ปิติพรวิวัฒน์
20250727
หนังสือเล่มนี้เอาตรงๆ ซื้ออย่างไวเพราะ ตัวผู้เขียนเป็นรุ่นพี่ที่คณะ และเป็นหนึ่งในคนที่ ไม่ว่าใครก็ต้องบอกอย่างไวเลยว่าเฮียคนนี้นี่มัน talent จริงว่ะ ด้วยคำถามผุดขึ้นมาไวๆโดยไม่ได้เกี่ยวกับความน่าสนใจของหนังสือเพียงอย่างเดียว โอนสิครับรออะไร ถถถ
หนังสือเล่มนี้อ่านไหล สำนวนเป็นกันเองสบายๆแต่เนื้อหาแน่น backup info นี่เดือดๆรู้สึกเลยว่าทีมงานทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ถึงผมจะอ่านหนังสือพร้อมๆกันหลายเล่ม แต่เล่มนี้เป็นเล่มที่ผมจะหยิบออกจากบ้านมาอ่าน (ผมเลือกหนังสืออกมาอ่าน based จากความไหล ถถถ)
เนื้อหาแน่นจริงแต่โดยเนื้อมันปูเราจนอินโดยการอ้างถึง framework ต่างๆชี้จุดอ่อนของมันที่เราต้องคอยอัพเดทกันตลอด อย่างยุคนี้อะไรก็ AI ไปหมด แต่เราจะรู้ได้ไงว่าอีกหน่อยเราต้องเรียนไรต่อในยุคนี้อะไรมันไวว่องขนาดนี้ คำถามนี้คือสิ่งที่ผมเชื่อว่าผู้เขียนอยากให้ทุกคนมีขึ้น (อย่างน้อยก็ผมละ ถถถ) คิดถึงหลักคิด (ผมว่าหรือแม้กระทั่งเป็นศาสนา แรงไปไหมนะ) ที่เราเด็ดเดี่ยวยึดมั่นและฝึกฝนมัน เคี่ยวกรำ จนเป็นเอกอุ
สำหรับผมมันทำงานแบบนั้น
ตัว core3 feature4 ที่ทางพี่มำและทีมงานทุ่มแรงกายแรงใจ (ระหว่างอ่านคิดงี้จริงๆ ทั้งข้อมูลปฐมภูมิ หรือ ทุติยภูมิิมันแบบแน่นจริงและไม่มีน้ำทว่าอ่านเพลินด้วยสไตล์การถ่ายทอดของเฮียที่ผมยังรู้สึกได้ตั้งแต่สมัยเรียน ทว่า เฉียบคมมากขึ้น)
ในช่วงเวลานี้ ตอนนี้ ที่ผมคุยกับตัวเองบ่อย และเริ่มมี framework ต่างๆที่คิดขึ้นมา ประยุกต์จากหลายๆคน ให้สอดคล้องกับ lifestyle และ purpose ของชีวิตผมนั้น เล่มนี้อาจจะ cliche หน่อย แต่ผมว่ามันเหมือน hack แบบนึงที่ shape ให้เราประหยัดเวลาการลองผิดลองถูกได้จมเลย แนะนำเป็นอย่างยิ่งโดยเฉพาะคุณพ่อคุณแม่ที่กำลังเลี้ยงลูกอยู่ เพราะ ผมเองก็มีลูกน้อยและพยามเป็นอย่างยิ่งที่จะสร้าง 3cores value ให้สอดคล้องกับหนังสือด้วยคิดว่ามันจะให้ลูกสามารถใช้ชีวิตในอนาคตได้อย่างเต็มภูมิและไปที่ไหนก็อยู่รอดสบาย
ชวนอ่านต่อกันนะคร้าบบบ
ข้อชวนคิดส่วนตัว (ระวังสปอยน้า)
- ส่วนตัวผมเองเป็นคนขี้สงสัยตลอดว่าจะมี mindset ไหนไหมที่เราจะยึดได้เป็นแนวทางและยึดมั่นทำตามได้อย่างเดี่ยวเหมือนอย่างพุทธศาสนาที่ผมเน้นทำสมถะและวิปัสสนาอยู่ ซึ่งหนังสือเล่มนี้ได้เสนอแนวทางที่ได้พยามศึกษามาอย่างตัว 3cores (fast learning, thrive, high esteem) และ 4cores (sharp judgement, strong facilitator, driving, fostering trust)
อ่านแล้วชวนเวียนเล็กน้อย ถถถ เพราะ ส่วนตัวเจอ mental model มาเยอะมากและเปลี่ยนตลอด และ พอลองอ่านตามหนังสือ ก็ชวน convince ให้ action ตามไม่น้อยว่าถ้าเราทำตามแล้ว ไม่ว่าจะอยุไหน เราก็จะโหดเสมอ เป็น talent ของแทร๊
- แต่แม้ว่าอายุ 25 จะสร้าง 3cores ได้ยากขึ้นแต่ยังพอมีทาง (ตอนแรกอ่านถึงตรงนี้ถอนหายใจเลย ถถถ) ต้องเน้นกินคำเล็กๆ daily habit ดีๆ small wins everyday สร้าง 2nd brain หรือระบบ หรือ app ช่วยคิด ซึ่งกับผมเองเอาจริงๆทำอยู่มาปีกว่าละ เข้าท่าเลย ไม่ว่าจะเย็บผ้า ออกกำลัง ทำอาหาร อ่านหนังสือ วาดรูป และ นั่งสมาธิทำในรูปแบบ ทำมันวันละน้อยตื่นมาตีสี่ครึ่งทำวันละนิดวันละหน่อย ผมเชื่อลึกว่า ผมไม่สามารถอัดทุกอย่างเข้าไปได้เหมือนตอนเด็กๆ แต่การทำซ้ำๆบวกกับ feedback และต่อยอดช่วยได้เยอะทีเดียว
สำหรับผมมันทำงานแบบนั้น
ตัว core3 feature4 ที่ทางพี่มำและทีมงานทุ่มแรงกายแรงใจ (ระหว่างอ่านคิดงี้จริงๆ ทั้งข้อมูลปฐมภูมิ หรือ ทุติยภูมิิมันแบบแน่นจริงและไม่มีน้ำทว่าอ่านเพลินด้วยสไตล์การถ่ายทอดของเฮียที่ผมยังรู้สึกได้ตั้งแต่สมัยเรียน ทว่า เฉียบคมมากขึ้น)
- อีกสิ่งนึงที่ผมยังยึดเป็นหลักเลยตอนนี้คือเน้นการสร้างคุณค่าในแบบของตัวเองอย่าเลือกงาน สร้างคุณค่าไปในทุกวัน กับครอบครัวก่อนเลยห้ามขาด ที่ทำงาน เพื่อนๆ หรือ ถ้ายังเหลือก็สังคมอย่างที่ผมพยามโพสแบบนี้ หรือ ทำ ig ผมก็เชื่อว่าการทำโดยไม่มุ่งที่โมหะ (ความโลภ) นั่นช่วยให้ชีวิตผมเบาและเลื่อนไหลไปได้อย่างดีไม่น้อย แน่นอนผมยังไม่ perfect หลงคิดนี้ยังเยอะ แต่ก็มีแวปๆรู้ตัวขึ้นมาบ้าง อาจเป็นเพราะการนั่งสมาธิเริ่มส่งผลดีขึ้นมาในชีวิต กลับมาที่หนังสือ ถถถ
ผมว่ามันเป็นดั่ง mentor ย่อมๆเลยให้เราประหยัดเวลาชีวิตไปเพราะ เวลาเรามันสั่น จะไปลองอะไรไปเรื่อยมันก็ดี แต่จะดีกว่าถ้าลองแบบมีทรงหน่อยอ่ะนะ ถถถ
ดูเพิ่มเติมในซีรีส์
โฆษณา
- ดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน
- © 2025 Blockdit
