27 ก.ค. เวลา 05:44 • การศึกษา
Network By Shoper Gamer

Network Topology คืออะไร

โดย
ในโลกที่การเชื่อมต่อเครือข่ายเป็นสิ่งสำคัญ การออกแบบโครงสร้างเครือข่ายหรือ Network Topology ถือเป็นพื้นฐานที่กำหนดประสิทธิภาพ ความเสถียร และ ความปลอดภัยของระบบ Network Topology ทำหน้าที่เหมือน "แผนที่โครงข่าย" ที่แสดงวิธีการเชื่อมต่อระหว่างอุปกรณ์เครือข่ายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นคอมพิวเตอร์ เราเตอร์ สวิตช์ หรือ เซิร์ฟเวอร์
1
  • ​Network Topology คืออะไร
Network Topology คือ รูปแบบ หรือ โครงสร้างทางกายภาพ และ เชิงตรรกะของการจัดวาง และ เชื่อมต่ออุปกรณ์ในเครือข่าย ซึ่งกำหนดวิธีการส่งข้อมูลระหว่างโหนด (Node) ต่างๆ ในระบบ
  • ​Network Topology ทำงานอย่างไร
1) การเชื่อมต่อทางกายภาพ (Physical Topology): การเดินสายสัญญาณ หรือ การเชื่อมต่อไร้สาย
2) การเชื่อมต่อเชิงตรรกะ (Logical Topology): เส้นทางการไหลของข้อมูล
3) กฎเกณฑ์การสื่อสาร (Communication Protocols) วิธีที่อุปกรณ์สื่อสารกัน
  • ​ประเภทของ Network Topology
1) โทโพโลยีแบบ Bus (Bus Topology)
- ลักษณะ : ใช้สายสัญญาณหลักเส้นเดียวเชื่อมต่ออุปกรณ์ทั้งหมด
- การทำงาน : ข้อมูลส่งผ่านสายหลัก ทุกอุปกรณ์รับข้อมูลแต่เฉพาะปลายทางที่ตรงกันเท่านั้นที่ประมวลผล
- ตัวอย่าง : เครือข่าย Ethernet แบบเดิม (10Base2, 10Base5)
2) โทโพโลยีแบบ Star (Star Topology)
- ลักษณะ : อุปกรณ์ทุกตัวเชื่อมกับฮับหรือสวิตช์กลาง
- การทำงาน : ข้อมูลส่งผ่านอุปกรณ์กลางก่อนไปยังปลายทาง
- ตัวอย่าง : เครือข่ายในออฟฟิศทั่วไป
3) โทโพโลยีแบบ Ring (Ring Topology)
- ลักษณะ : อุปกรณ์เชื่อมต่อเป็นวงกลม
- การทำงาน : ข้อมูลส่งต่อกันเป็นวงจนถึงปลายทาง
- ตัวอย่าง : เครือข่าย Token Ring
4) โทโพโลยีแบบ Mesh (Mesh Topology)
- ลักษณะ : ทุกอุปกรณ์เชื่อมต่อถึงกันทั้งหมด (Full Mesh) หรือ บางส่วน (Partial Mesh)
- การทำงาน : มีหลายเส้นทางให้เลือกส่งข้อมูล
- ตัวอย่าง : เครือข่าย WAN, ระบบอินเทอร์เน็ต
5) โทโพโลยีแบบ Tree (Tree Topology)
- ลักษณะ : ผสมระหว่าง Bus และ Star
- การทำงาน: มีสายหลัก และ แยกเป็นสาขาย่อย
- ตัวอย่าง : เครือข่ายมหาวิทยาลัย
6) โทโพโลยีแบบ Hybrid (Hybrid Topology)
- ลักษณะ : ผสมหลายแบบเข้าด้วยกัน
- การทำงาน : นำจุดแข็งของแต่ละแบบมาใช้
- ตัวอย่าง : องค์กรขนาดใหญ่
  • ​ประโยชน์
1) เพิ่มประสิทธิภาพเครือข่าย - เลือกรูปแบบให้เหมาะกับการใช้งาน
2) ลดความแออัดของข้อมูล
- จัดการการไหลของข้อมูล
3) ง่ายต่อการขยายระบบ
- เพิ่มอุปกรณ์ได้สะดวก
4) ลดความเสี่ยงระบบล้มเหลว - มีเส้นทางสำรอง
5) ประหยัดค่าใช้จ่าย
- ออกแบบการใช้ทรัพยากรอย่างเหมาะสม
  • ​ตัวอย่างการใช้งาน
1) เครือข่ายในบ้าน
- มักใช้ Star Topology
- เราท์เตอร์เป็นศูนย์กลางเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่างๆ
2) เครือข่ายองค์กร
- ใช้ Hybrid Topology
- ผสมระหว่าง Star และ Mesh
3) ศูนย์ข้อมูล (Data Center)
- ใช้ Mesh Topology
- เพื่อความเร็ว และ ความเสถียร
4) ระบบโรงงานอุตสาหกรรม
- ใช้ Ring Topology
- สำหรับระบบ Real-time
5) เครือข่ายวิทยาเขต
- ใช้ Tree Topology
- แบ่งตามอาคารและชั้น
  • ​ปัจจัยในการเลือก Network Topology
1) ขนาดเครือข่าย
2) งบประมาณ
3) ความเร็วที่ต้องการ
4) ความสามารถในการขยาย
5) ความทนทานต่อความล้มเหลว
✏️ Shoper Gamer
Credit :
👇
  • ​https://www.ulinesystem.com/what-is-network-topology/
  • ​https://www.ibm.com/think/topics/network-topology
  • ​https://www.techtarget.com/searchnetworking/definition/network-topology
  • ​https://thedecisionlab.com/reference-guide/computer-science/network-topology
  • ​https://www.itglue.com/blog/network-topology/

ดูเพิ่มเติมในซีรีส์

โฆษณา