28 ก.ค. เวลา 10:47 • ความคิดเห็น
ความฉลาดน่ะ คือรู้หมด รู้ไว อ่านไว ไล่เทรนด์ทันโลก พูดได้ห้าภาษา (ยกเว้นภาษาหัวใจคนข้างบ้าน) แต่ถามว่า "รู้ยังไงให้ไม่หลง" ตอบไม่ได้
ส่วน "ผู้มีปัญญา"... บางทีพูดไม่ได้ด้วยซ้ำ อ่านหนังสือไม่ออก แต่ดูเขาใช้ชีวิตสิ...ใจเย็นเหมือนพระ ธรรมดาเหมือนลุงปั่นจักรยานไปตลาด แต่ถ้าฟังดีๆ คำพูดของเขาแหลมคมกว่าใบมีดโกน บางทีไม่พูดเลยด้วยซ้ำ แต่เงียบของเขา...ดังกว่าคำพูดของนักปราศรัย
ความแตกต่างมันอยู่ตรงนี้แหละพี่น้องเอ๋ย
คนฉลาด รู้ว่าจะสร้างเครื่องบินผ่าพายุได้ยังไง แต่ ผู้มีปัญญา รู้ว่าไม่ควรขึ้นเครื่องบินตอนพายุเข้า
คนฉลาด วางแผน 10 ขั้นตอนในการเถียงให้ชนะ
แต่ ผู้มีปัญญา เลือกไม่เถียง เพราะรู้ว่า “ชนะในวาทะ แต่แพ้ในความสงบ มันไม่คุ้ม”
คนฉลาด พูดเร็ว คิดไว
แต่ ผู้มีปัญญา ฟังช้า คิดชัด แล้วตอบทีเดียว...จุก
คุณอาจเจอคนฉลาดในห้องประชุม แต่คนมีปัญญามักนั่งเงียบอยู่หลังบ้าน ค่อยๆเก็บเมล็ดผักสวนครัวไว้ปลูกกินเอง
คนฉลาดรู้ว่าจะหาเงินยังไง
แต่ คนมีปัญญารู้ว่าเมื่อไหร่ควรพอ
โลกทุกวันนี้มันเต็มไปด้วยคนฉลาดที่ไปได้ไกล แต่ลืมหันกลับมาดูว่าเหยียบใครไว้บ้าง คนฉลาดมีไอเดียเยอะ แต่บางทีก็เยอะจนหลงคิดว่าความคิดตัวเองถูกเสมอ
ตรงข้ามกับคนมีปัญญา...ที่บางครั้งเขารู้ว่าตัวเองไม่รู้ และนั่นแหละคือจุดเริ่มต้นของความรู้จริงๆ
คุณจะเห็นคนฉลาดทวีตด่าโลกวันละ 8 รอบ
แต่คนมีปัญญา...ปลูกต้นไม้เงียบๆ อยู่หน้าบ้าน
สุดท้ายนี้...ขอฝากไว้ว่า
โลกไม่ได้ขาดคนฉลาด แต่ขาดคนที่รู้จักใช้ปัญญา
ฉลาดใช้โกง ปัญญาใช้ปล่อย
ฉลาดสร้างความกลัว ปัญญาสร้างความสงบ
ดังนั้น...ต่อให้อ่านหนังสือไม่ออกเลยสักตัว
แต่ถ้ารู้จักวางอัตตา รู้จักฟัง รู้จักพอ
คุณอาจกำลัง “เข้าใจโลก” มากกว่าคนที่อ่านออกเขียนได้แต่ยังอ่านใจตัวเองไม่ออกเลยสักที
โฆษณา