เมื่อวาน เวลา 00:40 • หุ้น & เศรษฐกิจ

5 สิ่งต้องรู้ก่อนเทรดวันนี้ 29 July 2025

*Thailand, Cambodia Reach Ceasefire* -
ไทยและกัมพูชาบรรลุข้อตกลงหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขให้มีผลทันที ในเวลาเที่ยงคืนของวันอังคารตามเวลาท้องถิ่น ถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญต่อการลดความตึงเครียดและฟื้นฟูสันติภาพและความมั่นคงของทั้งสองประเทศ โดยต้องขอบคุณนายกรัฐมนตรีอันวาร์ อิบราฮิมของมาเลเซียที่เป็นตัวกลางในการเจรจาของทั้งสองฝ่าย อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ทรัมป์ได้เพิ่มแรงกดดัน โดยกล่าวว่าจะไม่มีการเจรจาการค้าใดๆ หากทั้งสองฝ่ายยังไม่ยุติสงคราม ค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้นทันทีและทรงตัวอยู่บริเวณ 32..39 บาทต่อดอลลาร์
*Trump Will Give Putin New 10-12 Day Truce Deadline* -
ทรัมป์เผยจะให้เวลารัสเซียอีกเพียง 10-12 วัน ในการยุติสงครามยูเครน-รัสเซีย มิเช่นนั้นจะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจเพิ่มเติมกับรัสเซีย (secondary sanctions) ซึ่งรวมถึงการเก็บภาษีนำเข้าจากรัสเซีย 100% และอาจรวมถึงการลงโทษประเทศที่ยังซื้อสินค้าส่งออกของรัสเซีย เช่น น้ำมัน โดยเฉพาะอินเดียและจีนจะได้รับผลกระทบมากที่สุด อย่างไรก็ตามเมื่อวันที่ 14 ก.ค. ทรัมป์เคยให้เส้นตายรัสเซีย 50 วัน แต่ดูเหมือนจะไม่เป็นผล เพราะปูตินกลับเพิ่มความถี่ในการโจมตีด้วยขีปนาวุธและโดรนต่อเมืองต่างๆ ของยูเครน
*Samsung Makes a long-term Deal with Tesla* -
Samsung บรรลุข้อตกลงกับ Tesla ในการผลิตชิปตัวใหม่ AI6 ระยะยาวจนถึงปี 2033 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าอย่างน้อยที่สุด 1.65 หมื่นล้านดอลลาร์ หรือประมาณ 22.8 ล้านล้านวอน ซึ่ง Elon Musk ได้รับอนุญาตจากทาง Samsung แล้วว่าจะเดินหน้าตรวจสายการผลิตชิปด้วยตนเอง ถือเป็นสัญญาณดีสำหรับ Samsung ที่เริ่มเห็นพัฒนาการในอุตสาหกรรมรับจ้างผลิตชิป ซึ่งมีคู่แข่งอย่าง TSMC ที่ครองอุตสาหกรรมดังกล่าวมากถึง 67.6% ในขณะที่ Samsung มีส่วนแบ่งการตลาดเหลือเพียง 7.7% ในไตรมาส 1/25 ที่ผ่านมา
*EU Reaches Tariff Deal With US to Avert Painful Trade* -
สหภาพยุโรปบรรลุข้อตกลงภาษีกับทรัมป์แล้ว โดยภาษีจะลดลงเหลืออยู่ที่ 15% (ต่ำที่สุดที่ทรัมป์กล่าวไว้) สำหรับสินค้าส่วนใหญ่ที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ รวมถึงรถยนต์ เพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบจากสงครามการค้าที่อาจรุนแรง โดยแลกกับที่ EU ตกลงที่จะซื้อผลิตภัณฑ์พลังงานจากสหรัฐมูลค่า 750,000 ล้านดอลลาร์, ลงทุนในสหรัฐฯ อีก 600,000 ล้านดอลลาร์, เปิดตลาดให้สินค้าสหรัฐเข้าถึงโดยไม่มีภาษี, รวมถึงซื้อ “อุปกรณ์ทางทหารจำนวนมาก” จากสหรัฐ มีผลบังคับใช้ทันทีในวันที่ 1 ส.ค. นี้
*Busiest Week of Earning Season*
สัปดาห์นี้มีหุ้นสหรัฐกว่า 150 บริษัทในดัชนี S&P500 ต่อคิวรายงานผลประกอบการ ซึ่งรวมถึงหุ้นในกลุ่ม Magnificent 7 ด้วย (Meta, Microsoft, Apple, Amazon) ซึ่งที่นักลงทุนอยากเห็นนอกจากจะเป็นผลประกอบการที่เป็นบวกแล้ว ยังต้องการความชัดเจนสำหรับทิศทางการพัฒนา AI หรือโปรเจคขนาดใหญ่ในปีนี้ Morgan Stanley เชื่อ S&P500 จะพุ่งแตะ 7,200 จุด ได้ภายในปี 2026 จากการฟื้นตัวต่อเนื่องและปัจจัยสนับสนุนจากมหภาค
#5สิ่งต้องรู้ก่อนเริ่มเทรดวันนี้
#BYDWealthStrategy
โฆษณา