30 ก.ค. เวลา 08:00 • หุ้น & เศรษฐกิจ

หุ้นไทย Fund Flow ยังไหลเข้า INVX คาด ตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น

Fund Flow มีสัญญาณไหลเข้า ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 3.3 พันล้าน INVX คาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น แนวรับ 1225/1220 จุด แนวต้าน 1240/1255 จุด
INVX คาดตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น หลังสถานการณ์ไทย-กัมพูชาคลี่คลายและความคาดหวังว่าการเจรจาภาษีศุลกากรสหรัฐฯ จะมีข้อสรุปก่อนเส้นตาย 1 ส.ค. นี้ ขณะที่ Fund Flow ยังมีสัญญาณไหลเข้า นักลงทุนต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิอีกที่ 3.3 พันล้านบาท แนวรับประเมินไว้ที่ 1225/1220 ส่วนแนวต้านประเมินไว้ที่ 1240/1255
กลยุทธ์ลงทุน ช่วงสั้นมอง SET จะแกว่งตัวไซด์เวย์ โดยประเมินการฟื้นตัวของ SET มายืนเหนือระดับ 1200 จุด ใกล้เป้าหมายที่ประเมินระดับ 1230-1250 จุด
Fund Flow มีสัญญาณไหลเข้า ต่างชาติกลับมาซื้อสุทธิ 3.3 พันล้าน INVX คาด ตลาดแกว่งตัวไซด์เวย์/แกว่งขึ้น แนวรับ 1225/1220 จุด แนวต้าน 1240/1255 จุด หุ้นแนะนำวันนี้ GLOBAL, LHSC
ซึ่งสะท้อนความคาดหวังสหรัฐฯ จะเก็บภาษีจากไทยเท่ากับหรือต่ำกว่า 20% คาด SET เริ่มมี Upside จำกัดและอาจต้องระมัดระวังหากการเจรจาไม่ประสบผลหรือเกิด Sell on Fact ได้หากจบดีลการค้าตามที่คาดหวังได้จริง
ส่วนความขัดแย้งระหว่างไทย-กัมพูชามองกระทบจำกัดต่อเศรษฐกิจและตลาดหุ้นไทย เพราะมีความเชื่อมโยงทางเศรษฐกิจกันน้อยและไม่มีผลกระทบอย่างมีนัยต่อหุ้นขนาดใหญ่ใน SET50/SET100 อย่างไรก็ดีหาก Fund Flow ยังไหลเข้า คาดมีโอกาสจะหนุนให้ในระยะถัดไป SET กลับไปซื้อขายที่ PER เฉลี่ยระยะยาวอีกครั้งที่ระดับ 16 เท่า หรือ 1376 จุด กลยุทธ์ลงทุนคงแนะนำให้ “Selective Buy”
ล็อกเป้าลงทุนประจำสัปดาห์
มอง SET แกว่งตัว Sideways และเริ่มมี Upside จำกัด ระหว่างรอติดตามผลสรุปอัตราภาษีศุลกากรใหม่ที่สหรัฐฯ จะเรียกเก็บจากไทยหลังการเจรจาการค้าเสร็จสิ้นไปแล้ว ก่อนจะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 ส.ค. นี้ กลยุทธ์ลงทุนจึงแนะนำให้ “Selective Buy” ใน 2 ธีม หลักและ 3 ธีมเทรดดิ้ง ที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัว ดังนี้
1.หุ้น Earnings Play โมเมนตัมกำไรยังเติบโตแข็งแกร่ง โดย 2Q68 คาดกำไรปกติจะเติบโตได้ทั้ง YoY และ QoQ ขณะที่ 3Q68 คาดกำไรยังเติบโต YoY แนะนำ ADVANC BCH CBG CPALL SCCC
2.หุ้นปันผลที่มีคุณภาพดี (SET50 ที่มี SET ESG Ratings A ขึ้นไป) เพื่อสร้างกระแสเงินสดให้แก่พอร์ตลงทุนในระยะสั้น โดยคาดจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลช่วง 1H68 และให้ Div. Yield เกิน 2% แนะนำ ADVANC BBL PTT
3.Trading Idea: สำหรับนักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้สูงและต้องการเก็งกำไร แนะนำ
1) หุ้น Laggard Play ซึ่งคาดได้อานิสงส์หาก Fund Flow ไหลเข้าต่อเนื่อง โดยเลือกหุ้น SET50 ซึ่งราคาหุ้นปรับขึ้น MTD ต่ำกว่า SET และ Valuation ถูก โด(PBV และ PER 2568F < -1SD) และพื้นฐานดี แนะนำ BDMS CPALL MINT MTC PTT 2) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าการเจรจาจะทำให้สหรัฐฯ
พิจารณาปรับลดภาษีไทยลงมาที่ระดับ 20% หรือต่ำกว่า จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นและทำให้ FDI กลับเข้าสู่ไทย แนะนำ AMATA GPSC WHA และ 3) หุ้นที่คาดฟื้นตัวเร็วและเชื่อว่าความขัดแย้งไทย-กัมพูชาจะคลี่คลายลงหรือยุติได้เร็ว แนะนำ AEONTS CBG
Daily Top Picks
GLOBAL: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากยอดขายสาขาเดิม (SSS) เดือนก.ค. ที่ปรับตัวดีขึ้น ลดลงเพียง 3.5% YoY ถือว่าดีที่สุดตั้งแต่ต้นปีและฟื้นตัวดีที่สุดในกลุ่มจากไตรมาสก่อน คาดว่า SSS ใน 2H68 จะยังดีขึ้นต่อจากฐานต่ำ ราคาหุ้นสะท้อนผลประกอบการ 2Q68 ที่อ่อนแอไประดับหนึ่งแล้ว
LHSC: ราคาหุ้นมีปัจจัยกระตุ้นระยะสั้นจากความคาดหวังที่ กนง. จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลง 2 ครั้ง (ครั้งละ 25bps) ในช่วงที่เหลือของปีนี้ ขณะเดียวกันคาดกำไร 2Q68 จะเติบโตเด่น 98.7%YoY และจะปรับตัวดีขึ้นต่อเนื่องใน 3Q68 อีกทั้งยังปันผลสูง โดยคาดให้ Div. Yield ปีนี้สูงราว 9.6%
ประเด็นสำคัญที่ต้องติดตาม
กองทัพบก (ทบ.) เผยผลการประชุมระหว่างผู้บังคับบัญชาหน่วยทหารในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชาในหลายจุดปะทะร่วมกันเห็นชอบการหยุดยิงและห้ามเสริมกำลังหรือเคลื่อนย้ายกำลังเพื่อหลีกเลี่ยงความหวาดระแวง และให้ผู้นำแต่ละระดับสามารถติดต่อกันได้เมื่อมีเหตุจำเป็น
เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ และจีนเผยได้ตกลงจะขยายระยะเวลาการระงับขึ้นภาษีศุลกากรระหว่างกันออกไป หลังเสร็จสิ้นการเจรจาที่สวีเดนแล้ว อย่างไรก็ดีทั้งสองฝ่ายไม่ได้ประกาศความคืบหน้าเจรจาหรือกำหนดเวลาที่ชัดเจน
IMF ปรับเพิ่มคาดการณ์ GDP โลกปี 2568 ขึ้นเป็น 3.0% จากเดิมที่ 2.8% หลังพบว่าหลายประเทศมีการเร่งซื้อสินค้ามากกว่าที่คาดก่อนเส้นตายวันที่ 1 ส.ค. และอัตราภาษีศุลกากรสหรัฐฯ ที่แท้จริงต่ำกว่าที่ประกาศไว้ แต่ยังเตือน ศก. โลกยังมีความเสี่ยงอยู่ ส่วนคาดการณ์ GDP ปี 2568ของไทยถูกปรับขึ้นเช่นกันสู่ 2.0% จาก 1.8%
รมต. พาณิชย์สหรัฐฯ ยืนยันว่ากำหนดเส้นตายการเริ่มบังคับใช้ภาษีศุลกากรในวันที่ 1 ส.ค. นี้
จะไม่มีการเลื่อนออกไปอีก แม้ว่ากำหนดการสำหรับจีนจะแตกต่างออกไปที่ล่าสุดได้มีการเจรจาในกรุงสต็อกโฮล์ม ซึ่งตกลงจะสิ้นสุดในวันที่ 12 ส.ค. นี้ และเผยเพิ่มว่า ปธน. ได้ปฏิเสธข้อเสนอจากหลายประเทศ และต้องการข้อเสนอที่เปิดตลาดให้สหรัฐฯหมด 100%
จำนวน นทท. ต่างชาติที่เดินทางเข้าไทยในสัปดาห์ก่อน (21-27 ก.ค.) ยังคงมีแนวโน้มขยายตัว โดยเพิ่มขึ้น 1%WoW แตะ 618,285 คน การขยายตัวนำโดย เกาหลีใต้, จีน, มาเลเซีย และไต้หวัน เนื่องจากอยู่ในช่วงวันหยุดช่วงปิดภาคเรียนฤดูร้อน ทำให้จำนวน นทท. สะสมทั้งปี 2568 เป็น 18,983,936 คน ลดลงจากปีก่อน 6.2%YoY
อ่านเนื้อหาต้นฉบับได้ที่ : https://www.pptvhd36.com/wealth/stock-investment/253698
ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมที่เว็บไซต์ https://www.pptvhd36.com
และช่องทาง Social Media
โฆษณา