31 ก.ค. เวลา 03:30 • หุ้น & เศรษฐกิจ

Laopu Gold ร้านทองจีน มี 38 สาขา มูลค่า 5 แสนล้าน หุ้น 9 เด้ง ในปีเดียว

รู้ไหมว่า โมเดลธุรกิจร้านทองทั่วไป มีอัตรากำไรสุทธิค่อนข้างบาง
อย่างร้านทองออโรร่า ที่มีจำนวนหลายร้อยสาขา
ซึ่งอยู่ในตลาดหุ้นไทย มีอัตรากำไรสุทธิเพียง 2-4%
(รวมธุรกิจค้าเพชร และบริการขายฝากทองคำและเครื่องประดับเข้าไปด้วย)
แต่เชื่อไหมว่า มีร้านทองสัญชาติจีน ที่มีจำนวนเพียง 38 สาขา สามารถทำอัตรากำไรสุทธิสูงถึง 17.3%
ร้านทองนั้นมีชื่อว่า “Laopu Gold”
โดยเพิ่งเข้าตลาดหุ้นฮ่องกงไปเมื่อกลางปี 2024 ที่ผ่านมา
คิดเป็นผลตอบแทนราว 1,750% จากราคา IPO และคิดเป็นผลตอบแทน 840% ในเวลาเพียง 1 ปี
ปัจจุบัน Laopu Gold มีมูลค่าบริษัท 534,000 ล้านบาท
หรือคิดคร่าว ๆ ได้ว่า 1 สาขาของ Laopu Gold จะมีมูลค่าเฉลี่ยสูงถึง 14,000 ล้านบาท..
Laopu Gold มีโมเดลธุรกิจร้านทองอย่างไร ?
ลงทุนแมนจะเล่าให้ฟัง
Laopu Gold ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 2016 หรือเมื่อราว 9 ปีก่อนเท่านั้น โดยชายที่ชื่อ Xu Gaoming
ตัวเขาเกิดในปี 1964 ที่มณฑลหูหนาน และจบการศึกษาระดับอนุปริญญา ด้านการประมงจากมหาวิทยาลัยเกษตรหัวจง
หลังจากจบการศึกษา ก็รับราชการที่สำนักงานปศุสัตว์และผลิตภัณฑ์สัตว์น้ำของเมืองบ้านเกิดตั้งแต่ปี 1984
ซึ่งกว่าตัวเขาจะเรียนรู้เรื่องธุรกิจจริง ๆ ก็อายุเข้าวัย 31 ปีแล้ว
โดยในปี 1995 เขาได้ย้ายงานไปบริษัท Yueyang-based Travel Investment บริษัทลงทุนด้านการท่องเที่ยว ในตำแหน่งผู้จัดการทั่วไป
ขณะเดียวกันนี้เอง ยังเป็นจุดเริ่มต้นของเขาในธุรกิจขายเครื่องประดับด้วย
ปี 2004 ได้ก่อตั้ง Golden Treasury บริษัทขายเครื่องประดับทองคำและเครื่องประดับอื่น ๆ และขยายไปยังการค้าวัตถุโบราณ
ก่อนที่ในปี 2016 เขาได้แยกธุรกิจเครื่องประดับทองคำออกจาก Golden Treasury ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของ Laopu Gold นั่นเอง
การขยายตัวของจำนวนสาขา
- ปี 2022 : 19 สาขา
- ปี 2023 : 28 สาขา
- ปี 2024 : 36 สาขา
และตอนนี้มี 38 สาขา
โดยสาขาทั้งหมด กระจายอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ ฮ่องกง และมาเก๊า และเป็นการบริหารโดยบริษัทเอง
คำถามที่น่าสนใจคือ อะไรที่ทำให้ชายที่เรียนจบด้านประมง ถึงสร้างเชนร้านเครื่องประดับทองคำมูลค่ากว่า 5 แสนล้านบาท ขึ้นมาได้ ?
ประโยคที่อธิบาย Laopu Gold ได้ชัดเจนที่สุดคือ
“ไม่ได้ขายแค่เครื่องประดับทองคำ แต่ขายผลงานศิลปะ
ผสมผสานภูมิปัญญาจีนโบราณ เข้ากับแฟชั่นสมัยใหม่
ด้วยงานฝีมือที่มีความประณีตสูง”
2
สะท้อนจากกลยุทธ์ของบริษัทคือ กลยุทธ์ราคาคงที่
โดยผลิตภัณฑ์ของ Laopu Gold จะมีราคาที่กำหนดไว้ตายตัว
แตกต่างจากร้านทองทั่วไป ที่ขายทองรูปพรรณตามการขึ้นลงของราคาทองคำ แล้วมีการบวกค่ากำเหน็จ หรือก็คือค่าฝีมือ การออกแบบ และผลิตทองรูปพรรณเข้าไป
ซึ่งโดยปกติแล้ว สมมติว่าสร้อยทองน้ำหนัก 1 บาท
ค่ากำเหน็จจะเป็นต้นทุนที่น้อยกว่าต้นทุนจากราคาทองมาก
แต่ผลิตภัณฑ์ของ Laopu Gold จะขายคุณค่าของงานฝีมือหัตถศิลป์โบราณ (Heritage Craftsmanship) มากกว่า
จึงได้รับผลกระทบเรื่องความผันผวนของราคาทองคำน้อยกว่าร้านทองทั่วไป
ตัวอย่างเทคนิคที่ Laopu Gold เป็นผู้บุกเบิกและมีความเชี่ยวชาญ ก็อย่างเช่น เทคนิคการฝังเพชรบนทองคำแท้ ซึ่งในอดีตเคยเป็นไปไม่ได้ เพราะทองแท้มีความอ่อน เสียหายได้ง่าย
หรืออย่าง เทคนิคการเคลือบ Enamel แบบดั้งเดิมบนทองบริสุทธิ์
ทำให้ผลิตภัณฑ์แต่ละชิ้นมีคุณค่า เรื่องราว และเอกลักษณ์เฉพาะตัว ซึ่งสามารถทำให้ Laopu Gold วางตำแหน่งแบรนด์ในระดับลักชัวรี และสามารถกำหนดราคาสินค้า ที่สะท้อนมูลค่าแบรนด์ได้
ซึ่งไม่ต่างอะไรกับแบรนด์หรูจากฝั่งยุโรป
โดยข้อมูลจากปี 2023 รายได้กว่า 60% นั้นมาจากผลิตภัณฑ์ที่มีช่วงราคาสูงถึง 45,000-225,000 บาท
ยิ่งไปกว่านั้น ในปี 2024 มีจำนวนสมาชิกที่เรียกว่า Loyalty Member ถึง 350,000 คน เพิ่มมาจาก 200,000 คนจากปีก่อน และกว่า 60% ของรายได้ทั้งหมด เกิดจากลูกค้าที่ซื้อซ้ำ
สะท้อนถึง ความภักดีของลูกค้าที่มีต่อแบรนด์ได้อย่างดี และการดึงดูดกลุ่มลูกค้ากำลังซื้อสูงได้อย่างมีประสิทธิภาพ
แล้วผลประกอบการที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง ?
- ปี 2022 รายได้ 5,358 ล้านบาท กำไร 391 ล้านบาท
- ปี 2023 รายได้ 13,163 ล้านบาท กำไร 1,723 ล้านบาท
- ปี 2024 รายได้ 35,213 ล้านบาท กำไร 6,099 ล้านบาท
โดยปี 2024 รายได้หลัก ๆ 88% มาจากการขายผ่านสาขา
ส่วนที่เหลือ 12% มาจากแพลตฟอร์มออนไลน์ อย่างเช่น Tmall
จะเห็นได้ว่า ทั้งรายได้และกำไรเติบโตระเบิด
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปีราว ๆ 156% และ 295% ตามลำดับ
และอัตรากำไรสุทธิคิดเป็น 7.3%, 13.1% และ 17.3% ตามลำดับ
ซึ่งในภาพใหญ่ นอกจากได้รับผลประโยชน์จากราคาทองคำที่ปรับตัวสูงขึ้นในช่วง 2 ปีมานี้
ยังมีเรื่องของพฤติกรรมผู้บริโภควัยหนุ่มสาวของจีน ที่มีความต้องการเครื่องประดับที่มีเอกลักษณ์และวัฒนธรรมเพิ่มขึ้นอีกด้วย
ซึ่งหลายปีที่ผ่านมา การเติบโตของอุตสาหกรรมเครื่องประดับทองคำที่มีการออกแบบที่ผสมผสานงานฝีมือโบราณ (Heritage Gold) ในจีน
- ปี 2018 : 58,500 ล้านบาท
- ปี 2023 : 707,850 ล้านบาท
คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ยต่อปีถึง 64.6% และคาดว่าอุตสาหกรรมนี้ในปี 2028 จะมีมูลค่าสูงถึง 1.9 ล้านล้านบาทเลยทีเดียว
หากลองเทียบรายได้กับมูลค่าของอุตสาหกรรมแล้ว
จะเห็นได้ว่า ส่วนแบ่งตลาดของบริษัทยังไม่ถึง 5% ในอุตสาหกรรมที่เติบโตสูงขนาดนี้ บ่งบอกว่ายังมีช่องว่างสำหรับการเติบโตในประเทศ
นอกจากนี้ บริษัทยังมีการขยายสาขาออกไปในต่างประเทศอีกด้วย โดยเปิดสาขาแรกนอกจีน ที่สิงคโปร์ เมื่อเดือนมิถุนายน 2025 ที่ผ่านมา
ซึ่งก็ไม่แน่ว่า Laopu Gold อาจไม่ได้หยุดอยู่แค่การเติบโตในจีน แต่กำลังต้องการขึ้นมาเล่นในสนาม แบรนด์หรูระดับโลก ก็เป็นได้..
ในยุคที่หลายธุรกิจกำลังวิ่งตามเทคโนโลยี เพื่อสร้างสรรค์สิ่งใหม่ในอนาคต
แต่ในทางตรงกันข้าม Laopu Gold กลับเลือกที่จะวิ่งตามหา วัฒนธรรมโบราณในอดีต ที่ต่อให้เทคโนโลยีก้าวล้ำไปไกลแค่ไหน ก็ไม่อาจสร้างขึ้นมาใหม่ได้
กลายเป็นจุดแข็งที่ลอกเลียนแบบได้ยาก
และเป็นสิ่งที่ทำให้ Laopu Gold กลายเป็นแบรนด์จีน ที่น่าจับตาในอนาคต..
หมายเหตุ : บทความนี้ไม่ได้มีเจตนาชี้นำให้ซื้อหรือขายหุ้นเหล่านี้ การลงทุนมีความเสี่ยง โปรดศึกษาข้อมูลให้ครบถ้วน ก่อนการตัดสินใจลงทุนทุกครั้ง
โฆษณา